3 แหล่งท่องเที่ยวไทย ติด TOP 100 แหล่งท่องเที่ยวยั่งยืนโลก ปี 2022

14 ต.ค. 2565 | 09:37 น.
อัปเดตล่าสุด :14 ต.ค. 2565 | 16:42 น.
1.9 k

โฆษกรัฐบาล ระบุ 3 แหล่งท่องเที่ยวของไทย ติดแหล่งท่องเที่ยวยั่งยืน 100 แห่งของโลก ปี 2022 หรือ Top 100 คาดทำให้นักท่องเที่ยวต่างชาติได้รู้จักกับจุดหมายปลายทางของการท่องเที่ยวที่มีคุณภาพ และใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อม

นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน หรือ อพท. ได้เข้าร่วมพิธีและรับมอบประกาศแหล่งท่องเที่ยวยั่งยืน 100 แห่งของโลก ประจำปี 2022 (Top 100 Destination Sustainability Stories 2022) ณ กรุงเอเธนส์ ประเทศกรีซ 

 

จัดโดย Green Destinations Foundation หน่วยงานที่ไม่แสวงหากำไรระดับโลกที่ให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมจากประเทศเนเธอร์แลนด์ ร่วมกับหน่วยงานพันธมิตรด้านการท่องเที่ยวจากทั่วโลก 

โดยในปี 2022 มีแหล่งท่องเที่ยวของไทยที่ได้รับการคัดเลือกให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวยั่งยืน 100 แห่งของโลก จำนวน 3 แห่ง ได้แก่

  • เกาะหมาก จังหวัดตราด 
  • บ้านห้วยปูแกง จังหวัดแม่ฮ่องสอน
  • วิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวสาปยา จังหวัดชัยนาท

 

สำหรับความสำเร็จของทั้ง 3 แหล่งท่องเที่ยวของไทย มาจากนโยบายของรัฐบาล ผ่านการทำงานของ อพท. ซึ่งได้พยายามผลักดันเกาะหมาก จังหวัดตราด ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวคาร์บอนต่ำ หรือ Low Carbon Destination แห่งแรกของไทยมาอย่างต่อเนื่อง ผ่านการประสานความร่วมมือและการมีส่วนร่วมระหว่างชุมชนและหน่วยงานด้านการท่องเที่ยวทั้งภาครัฐและเอกชน นำไปสู่การใช้เทคโนโลยีดิจิทัลและการวิจัยเรื่องการเพิ่มศักยภาพในการดูดซับและกักเก็บคาร์บอนผ่านธรรมชาติ 

ทั้งนี้ ในส่วนของ บ้านห้วยปูแกง จังหวัดแม่ฮ่องสอน และวิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวสาปยา จังหวัดชัยนาท ได้ให้ความสำคัญกับการท่องเที่ยวโดยชุมชน (Community Based Tourism) มีการพัฒนาทักษะฝีมือให้แก่สมาชิกในชุมชนเรื่องการทำผลิตภัณฑ์ เพื่อนำมาวางจำหน่ายให้กับนักท่องเที่ยว รวมถึงมีการส่งเสริมสภาวะแวดล้อมของแหล่งท่องเที่ยวที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีต่อนักท่องเที่ยวและยกระดับคุณภาพชีวิตของสมาชิกในชุมชน

 

ทั้งนี้ อพท. ได้เสนอชื่อแหล่งท่องเที่ยวดังกล่าว เพื่อให้คณะกรรมการซึ่งเป็นตัวแทนจากหน่วยงานต่าง ๆ ด้านการท่องเที่ยวยั่งยืนจากทั่วโลกพิจารณาตามเกณฑ์สากล และ ได้จัดทำรายงานสถานะการพัฒนาการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนตามเกณฑ์ของ Green Destinations Standard 

 

นายอนุชา กล่าวว่า ความสำเร็จของการพัฒนาการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนเป็นผลมาจากการทำงานอย่างหนักของทุกหน่วยงาน ทั้งภาครัฐและเอกชน ซึ่งเป็นไปตามวิสัยทัศน์ของพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ที่ต้องการผลักดันการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนให้เห็นผลอย่างเป็นรูปธรรม 

 

"การรับรางวัลลักษณะนี้ นอกจากจะเป็นการประชาสัมพันธ์สถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับการรับรองตามมาตรฐานสากลในไทย นักท่องเที่ยวต่างชาติได้รู้จักกับจุดหมายปลายทางของการท่องเที่ยวที่มีคุณภาพและใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อม ยังเป็นโอกาสประชาสัมพันธ์ในเวทีระหว่างประเทศว่าไทยให้ความสำคัญกับแนวคิดเพื่อรักษา และคงความสมดุลแก่สิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นความท้าทายสำคัญที่ทั่วโลกกำลังเผชิญ" โฆษกรัฐบาล กล่าว