MUJI คงคอนเซ็ปท์ยั่งยืน ดันสินค้าออแกนิก-Green Living ช้อป ดิ เอ็มควอเทียร์

29 ก.ย. 2565 | 07:57 น.
อัปเดตล่าสุด :29 ก.ย. 2565 | 15:09 น.

MUJI เปิดสาขาที่ 26 บิ๊กไซต์ 1,500 ตร.ม.ที่ ดิ เอ็มควอเทียร์ นำคอนเซ็ปท์เรียบง่าย เน้นธรรมชาติ ดึงดูดใจมินิมอลสายกรีน พร้อม Normal Shop ผลิตภัณฑ์ออร์แกนิก ภายใต้แนวคิด Zero Waste เติมเต็มวิถีชีวิตแบบ Green Living สะท้อนการเป็นแบรนด์ที่ดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน

นายอกิฮิโร่ คาโมการิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท มูจิ รีเทล (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า MUJI เปิดสาขาใหม่ ที่ ดิ เอ็มควอเทียร์ เป็นสาขาที่ 26 ขนาดพื้นที่ 1,500 ตารางเมตร ซึ่งเป็นขนาดใหญ่รองจากสาขาที่สามย่าน มิดทาวน์ โดยมีแผนที่จะขยายสาขาขนาด 1,500 ตารางเมตรอีก 5 สาขา ภายในปีธุรกิจหน้า เตรียมขยายอีก 8-10 สาขา ในปีถัดไป ทั้งในกรุงเทพฯ และหัวเมืองใหญ่ต่างจังหวัด  

นายอกิฮิโร่ คาโมการิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท มูจิ รีเทล (ประเทศไทย) จำกัด

การเดินหน้าขยายสาขา MUJI ทำงานควบคู่แผนการตลาดแบบ Localization พร้อมทั้งพยายามเพิ่มสินค้าในกลุ่มกรีนโปรดักส์ ที่มีทั้ง Normal Shop ผลิตภัณฑ์ออร์แกนิกที่ใช้เป็นประจำทุกวันอย่าง สบู่ แชมพู น้ำยาทำความสะอาด ที่ผลิตด้วยแนวคิด Zero Waste เติมเต็มวิถีชีวิตแบบกรีนลีฟวิ่ง (Green Living) และสะท้อนการเป็นแบรนด์ที่ดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนของ MUJI 

Normal Shop

นายอกิฮิโร่ กล่าวว่า MUJI ในไทย มีเป้าหมายด้านความยั่งยืนเช่นเดียวกับบริษัทแม่ที่ญี่ปุ่น ตั้งแต่กระบวนการผลิต กระบวนการนำวัตถุดิบที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และพยายามลดขยะให้มากที่สุด รวมทั้งพยายามลดการใช้พลาสติกในร้อน ตังแต่บรรจุภัณฑ์ ไปจนถึงถุงใส่สินค้า โดยมีแผนที่จะขยายส่วนของ Normal Shop เพิ่มเติม ซึ่งขณะนี้มีเฉพาะที่สาขาชิดลม และดิ เอ็มควอเเทียร์

MUJI คงคอนเซ็ปท์ยั่งยืน ดันสินค้าออแกนิก-Green Living ช้อป ดิ เอ็มควอเทียร์

การออกแบบร้าน MUJI The EmQuartier ได้แรงบันดาลใจจากแนวคิด ‘ความเรียบง่ายและเป็นธรรมชาติ’ ตกแต่งบรรยากาศภายในร้านให้รู้สึกอบอุ่น สบายตา มินิมัล ด้วยโทนสี และการจัดวางสินค้าที่เป็นสไตล์ MUJI ผสานเข้ากับความเป็นท้องถิ่น ตามแนวคิด Localization โดยใช้ไม้เก่าที่คัดสรรจากพื้นที่ทุกภูมิภาคของประเทศไทยมาเป็นวัสดุในการตกแต่งร้าน

ในช้อปนอกจากจะมีสินค้ากว่า 3,000 รายการ ทั้งเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายชายและหญิง ยังมีโซนซิกเนเจอร์ MUJI Coffee Corner มุมกาแฟ ที่ขยายพื้นที่เพิ่มขึ้นเป็นพิเศษ พร้อมกับตกแต่งฝาผนังด้วยสินค้า MUJI ดีไซน์แปลกใหม่ มี Light Meal & Bakery อาหารรองท้องและเบเกอรี่ พร้อมเปิดตัวเมนูพิเศษจากหลากหลายผลิตภัณฑ์อาหารเพิ่มรสชาติความแปลกใหม่ และของหวานเมนูพิเศษที่จะวางจำหน่ายเฉพาะสาขานี้ โซนเครื่องใช้ในบ้านและเฟอร์นิเจอร์ตกแต่งบ้าน และ Interior Consultation Service โซน MUJI Green ต้นไม้กระถาง ไม้ประดับรวมถึง โซน MUJI Yourself  ออกแบบลวดลายบนสินค้ากระดาษ โซน Embroidery บริการปักผ้าบนสินค้าของ MUJI

ประเทศไทยยังเป็นตลาดที่มีศักยภาพ เนื่องจากผู้บริโภคในประเทศนิยมบริโภคสินค้าคุณภาพมาตรฐานญี่ปุ่น และยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวอันดับต้น ๆ ที่คนทั่วโลกนิยมเข้ามาท่องเที่ยว ทำให้มีกำลังซื้อจากทั้งในและต่างประเทศ จากการที่เศรษฐกิจกำลังฟื้นตัวหลังเปิดประเทศเต็มตัว

 

ทั้งนี้ MUJI The EmQuartier สาขาที่ 26 เป็นหนึ่งในกลยุทธ์การเปิดสาขาขนาดใหญ่ (Big size) เพื่อรองรับดีมานด์ของสินค้าและบริการแบบฉบับญี่ปุ่นของผู้บริโภคได้อย่างครบครัน หลังจากเปิดสาขาแรกที่ สามย่าน มิตรทาวน์ ซึ่งเป็นต้นแบบคอนเซ็ปต์สโตร์ ที่มีสินค้าและบริการครบครัน รวมถึงร้านกาแฟสาขาแรก เมื่อ พ.ศ. 2562 และใน พ.ศ. 2564 ได้เปิดสาขาใหม่เพิ่มอีก 5 สาขา รวมทั้งปรับโฉมสาขาเดิมให้มีพื้นที่ใหญ่ขึ้นอีก 2 สาขา โดยการต่อยอดโมเดลร้านขนาดใหญ่ มีเป้าหมายเพื่อมอบประสบการณ์ที่ดีและมากกว่าให้ผู้บริโภค

MUJI คงคอนเซ็ปท์ยั่งยืน ดันสินค้าออแกนิก-Green Living ช้อป ดิ เอ็มควอเทียร์

จากการดำเนินกลยุทธ์ขยายสาขาในทำเลศักยภาพอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ MUJI มียอดขายที่เติบโตมากขึ้นอย่างต่อเนื่องและมั่นคง และช่วยขยายฐานลูกค้าได้มากยิ่งขึ้น ด้วยจุดเด่นของสินค้า MUJI ที่ผลิตอย่างพิถีพิถัน มีเรื่องราวที่มาและเป็นเอกลักษณ์ที่ยากจะลอกเลียนแบบ จึงสามารถตอบโจทย์คนทุกเพศทุกวัย ปัจจุบันลูกค้าของ MUJI จะมีสัดส่วนของผู้หญิงมากที่สุดกว่า 60% เรียงลำดับกลุ่มอายุตามลำดับ คือ 1. อายุ 25-34 ปี 2. อายุ 35-44 ปี และ 3. อายุ 45-54 ปี ทั้งนี้ MUJI มีแผนขยายกลุ่มลูกค้าไปสู่คนรุ่นใหม่ที่เป็นกลุ่มนักศึกษาอายุระหว่าง 18-24 ปี จนถึง First Jobber (เฟิร์ส จ๊อปเบอร์) และวัยทำงานอายุระหว่าง 25-34 ปี ตลอดจนกลุ่มวัยกลางคน รวมถึง MUJI กำลังทำการตลาดเพื่อเจาะกลุ่มผู้ชายให้มากขึ้นอีกด้วย

 

นอกจากนี้ MUJI ได้ใช้กลยุทธ์ปรับราคาสินค้า เพื่อให้ผู้บริโภคเข้าถึงสินค้าได้ง่ายขึ้น และยังเดินหน้ากลยุทธ์ Mass Marketing สร้างการรับรู้ในวงกว้าง ด้วยการเลือกใช้ KOL และ Influencer ชื่อดัง รวมถึง Micro Influencer และ YouTuber ในกลุ่มที่รักในแบรนด์สินค้า MUJI เพื่อสร้างการรับรู้ให้ขยายในวงกว้าง

MUJI คงคอนเซ็ปท์ยั่งยืน ดันสินค้าออแกนิก-Green Living ช้อป ดิ เอ็มควอเทียร์

ผสานกับแนวคิดการตลาด Localization ที่มีการออกแบบสินค้าเฉพาะภูมิภาคและท้องที่ เช่น เสื้อผ้าคอลเลคชันใหม่ที่มีการปรับดีไซน์ให้เข้ากับสภาพภูมิอากาศ รวมถึงให้ดูเป็นทางการมากขึ้น เพื่อตอบโจทย์การสวมใส่เสื้อผ้าของคนไทยที่นิยมใส่ได้หลายโอกาส ทั้งใส่ทำงานและสามารถออกไปแฮงเอาท์ได้ ซึ่ง MUJI ได้เลือกใช้นางแบบนายแบบคนไทยในการทำ Lookbook คอลเลคชันล่าสุด รวมถึงการผลิตสินค้าโดยใช้วัตถุดิบในท้องถิ่นนั้น ๆ อีกด้วย

 

นอกจากนี้ ยังมีการขยายสู่ Online Platform ส่งผลให้ MUJI เป็นที่รู้จักมากขึ้น ในฐานะแบรนด์สินค้าไลฟ์สไตล์ที่ครบถ้วน ทั้งเสื้อผ้าเครื่องแต่งกาย เครื่องใช้ในบ้าน เฟอร์นิเจอร์ เครื่องเขียน และ Coffee Corner อาหารเครื่องดื่ม