คลัง ปัดเก็บภาษี VAT สินค้าฟุ่มเฟือย สุรา ยาสูบ รีดรายได้เข้ารัฐ

26 ก.ย. 2565 | 18:21 น.
อัปเดตล่าสุด :27 ก.ย. 2565 | 01:25 น.

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ปัดเก็บภาษี VAT สินค้าฟุ่มเฟือย สุรา ยาสูบ รีดรายได้เข้ารัฐ ยันไม่เคยมีการหารือเกี่ยวกับเรื่องนี้ ตอนนี้ทุกอย่างยังเหมือนเดิม คิดภาษีแวต จากสินค้าและบริการทั่วไป

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังยังไม่มีแนวคิดการเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) 7% สำหรับสินค้าฟุ่มเฟือย ทั้ง สุรา และยาสูบ เพิ่มขึ้นมาอีกประเภท หรือเป็นการเก็บ VAT เป็น 2 อัตรา จากเดิมที่มีการเก็บจากสินค้าและบริการทั่วไป

 

ทั้งนี้ที่ผ่านมามีกระแสข่าวว่า กระทรวงคลังเตรียมเสนอแนวคิดการใช้อัตราภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) 2 อัตรา ทั้ง สำหรับสินค้าทั่วไป และ สำหรับสินค้าฟุ่มเฟือย อาทิ สุรา ยาสูบ โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ยืนยันว่า ไม่เคยมีการหารือเกี่ยวกับเรื่องนี้ และตอนนี้ทุกอย่างยังเหมือนเดิม กระทรวงการคลัง ยังไม่ได้คิดเรื่องนี้แต่อย่างใด

สำหรับกรณีดังกล่าว ยอมรับว่า ในต่างประเทศเองมีการจัดเก็บภาษี VAT กับสินค้าฟุ่มเฟือย ขึ้นอยู่กับสถานการณ์เศรษฐกิจของแต่ละประเทศ โดยอาจจะใช้ VAT ในอัตราที่เพิ่มขึ้นจากปกติ แต่สำหรับประเทศไทย ยังคงจัดเก็บภาษีแบบเดิมทุกอย่าง โดยที่ผ่านมา กระทรวงการคลัง ยังไม่มีแนวคิดในเรื่องนี้ และยังไม่ได้มีการหารือกัน

 

ทั้งนี้การจัดเก็บภาษี VAT นั้นไม่เพียงแต่ต้องดูสถานการณ์เศรษฐกิจเท่านั้น แต่ยังต้องดูเรื่องข้อจำกัดในการจัดเก็บรายได้ของแต่ละประเทศด้วย โดยในส่วนของไทยขณะนี้ยังไม่มีปัญหาเรื่องการจัดเก็บแต่อย่างใด โดยภาพรวมการจัดเก็บรายได้ในช่วง 11 เดือนของปีงบประมาณ 2565 ยังสามารถจัดเก็บได้ตามเป้าหมาย 

นายอาคม ยอมรับว่า ในปีหน้ามีประเด็นที่ต้องติดตามคือ ความเสี่ยงของเศรษฐกิจโลกถดถอย ซึ่งที่ผ่านมากระทรวงการคลัง ได้มีการติดตามและประเมินเรื่องนี้อย่างต่อเนื่องอยู่แล้ว 

 

ขณะที่ สถานการณ์เงินบาทที่อ่อนค่าลง เรื่องนี้ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ดูแลและติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิดอยู่ตลอด เรื่องเงินทุนไหลออก ธปท. ก็มีการติดตาม และรายงานให้กระทรวงการคลังรับทราบตลอดเช่นกัน ซึ่งตอนนี้ยังไม่มีอะไรที่น่ากังวล

 

ก่อนหน้านี้ ที่ประชุม ครม. เห็นชอบขยายระยะเวลาการลดภาษี VAT ที่จะครบกำหนดวันที่ 30 ก.ย.2564 ต่อไปอีกเป็นเวลา 2 ปี ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2564 ถึงวันที่ 30 กันยายน 2566 โดยยังคงจัดเก็บภาษี VAT สำหรับการขายสินค้า การให้บริการ หรือการนำเข้าทุกกรณีในอัตราเดิม คือ 7% (รวมภาษีท้องถิ่น) หรืออัตรา 6.3% (ไม่รวมภาษีท้องถิ่น) 

 

ทั้งนี้ การขยายระยะเวลาลดอัตราภาษีมูลค่าเพิ่ม โดยคงอัตราเดิม 7% จะไม่มีผลกระทบต่อการประมาณการรายได้ในปีงบประมาณ พ.ศ.2565 และ พ.ศ.2566 เนื่องจากในการจัดทำงบประมาณได้มีการคำนวณประมาณการรายได้ โดยใช้ข้อมูลพื้นฐานการคำนวณของอัตราภาษีมูลค่าเพิ่มไว้ในอัตรา 7% แล้ว