Saucony ส่ง Endorphin Pro 3 เสริมทัพชิง Top 3 รองเท้าวิ่งในเมืองไทย

08 ส.ค. 2565 | 09:20 น.
อัปเดตล่าสุด :08 ส.ค. 2565 | 16:34 น.

คาดตลาดผลิตภัณฑ์กีฬาวิ่งโตได้อีกช่วงปี 2565 – 2567 Saucony กระตุ้นตลาดหลังโควิด-19 เปิดตัว Endorphin Pro 3 เจ้าแห่งศิลปะความเร็วทำตลาดในไทยเจาะสายเรซซิ่ง หนุนยอดขายแบรนด์500 ล้านบาท ใน 3 ปี

แนวโน้มตลาดผลิตภัณฑ์กีฬาวิ่งโตได้อีกช่วงปี 2565 – 2567 หลัง Covid สร้างความปั่นป่วนทุกมาร์เก็ตทั่วโลก ซอคคือนี่ (Saucony) ตั้งเป้ายอดขาย500 ล้านบาท ภายในระยะเวลา 3 ปี ด้วยผลิตภัณฑ์ใหม่ที่โดดเด่นด้วยนวัตกรรมเจาะกลุ่มนักวิ่งทุกระดับ ประเดิมด้วยรองเท้า เอ็นดอร์ฟิน โปร 3 (Endorphin Pro 3) เจาะสายเรซซิ่งพร้อมจัดงาน House of Speed BKK 2022 แสดงความมุ่งมั่นของแบรนด์ระดับโลกที่ตั้งใจมอบผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุดให้แก่นักวิ่งในเมืองไทย

นายพรศักดิ์ ชินวงศ์วัฒนา กรรมการผู้จัดการ บริษัท เรฟ อีดิชั่น จำกัด

นายพรศักดิ์ ชินวงศ์วัฒนา กรรมการผู้จัดการ บริษัท เรฟ อีดิชั่น จำกัด กล่าวว่า “ตลอด 2 ปีที่ผ่านมาที่เรานำแบรนด์รองเท้า ซอคคือนี่ (Saucony) เข้ามาทำการตลาดในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ได้รับการตอบรับที่ดีจากนักวิ่งที่เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ของเราเสริมสร้างประสบการณ์การวิ่งและให้ Saucony เป็นอุปกรณ์ที่ช่วยเพิ่ม performance การวิ่งให้กับตัวเอง 

ล่าสุดได้เปิดตัว Endorphin Pro 3 มาเสริมทัพตระกูล Endorphin Pro เพื่อส่งเสริมให้นักกีฬาได้ดึงศักยภาพสูงสุดของตัวเองออกมาระหว่างการแข่งขัน ด้วยเทคโนโลยีที่ผ่านการทดสอบมาแล้วไม่ว่าจะเป็น รูปทรง, แผ่นคาร์บอน, โฟมพื้นกลาง, และหน้าผ้าที่กระชับ ทุกรายละเอียดถูกปรับจูนใหม่ เพื่อให้ได้สูตรสำเร็จของรองเท้าวิ่งที่ไม่มีใครโค่นลงได้

 

“เรามองว่าโอกาสของตลาดผลิตภัณฑ์วิ่งในประเทศไทยมีแนวโน้มเติบโตได้อีกในช่วงปี 2565-2567 ที่ถือเป็นยุค Post Covid ที่แท้จริง งานอีเว้นต์วิ่งหรือการแข่งขันวิ่งกำลังทยอยกลับมาจัดอีกครั้ง จำนวนนักวิ่งจากเดิมที่มีจำนวนมากในประเทศไทยก็จะค่อยๆ กลับมาฟื้นฟูร่างกายตัวเองและกลับมาลงสนามวิ่งกันอีกครั้งเช่นกัน และ เทรนด์สุขภาพก็ยังเติบโตอย่างต่อเนื่อง ผู้คนหันมาดูแลเอาใจใส่สุขภาพกันมากขึ้นเรื่อยๆ เรามองว่าสิ่งเหล่านี้คือโอกาสในการรุกตลาดอย่างหนัก"

โดยเฉพาะในช่วง 2 ปีนี้ที่ทุกอย่างกำลังพลิกฟื้น บริษัทฯ ตั้งเป้ายอดขาย 500 ล้านบาท ภายในระยะเวลา 3 ปี ซึ่งระหว่างนี้จะทำให้กลุ่มเป้าหมาย ได้มองเห็นความตั้งใจและแนวโน้มการส่งสินค้าคุณภาพ รวมถึงประสบการณ์ที่ดีในเรื่องวิ่งให้แก่นักวิ่งในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง

 

“เราวางแผนการทำการตลาด แบบ Omni Channel
การช้อปปิ้งแบบไร้ขีดจำกัด ทั้งออฟไลน์และออนไลน์ ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็สามารถเลือกซื้อรองเท้า Saucony ได้ ซึ่งลูกค้าสามารถเข้าถึงแบรนด์ได้หลากหลายช่องทางรวมถึงแผนที่จะขยายช่องทางการจัดจำหน่ายเพิ่มเติม ซึ่งเราได้เปิด Saucony Flagship Store ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เวสต์เกต ไปเมื่อปลายปี พ.ศ. 2564 นับเป็น Official Flagship Store แห่งแรกในประเทศไทย

 

พร้อมรุกตลาดออนไลน์ด้วยการขยายช่องทางการจัดจำหน่ายผ่านช่องทาง E-Commerce และ E-Marketplace เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคมากขึ้น สอดรับพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงไปของผู้บริโภค ในแง่การสื่อสารแบรนด์ เรายังเลือกใช้นักกีฬา (Saucony Athletes) นักวิ่ง ผู้เชี่ยวชาญด้านการออกกำลังกาย อินฟลูเอ็นเซอร์ หรือดารานักแสดงที่รักการวิ่งมาเป็นตัวแทนในการสื่อสารแบรนด์ให้กลุ่มผู้บริโภครู้จักแบรนด์มากขึ้น รวมถึงแผนการสร้างและเข้าร่วมกิจกรรมวิ่งในลักษณะเวิร์คช็อปที่ให้ทั้งสาระและความสนุกสำหรับนักวิ่ง ในชื่อ Saucony Run Club 

 

โดยเป้าหมายของ Saucony ในระยะยาว สำหรับตลาดรองเท้ากีฬา ยังคงเป็นการมอบประสบการณ์การวิ่งที่ดีที่สุดผ่านผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุดให้กับกลุ่มเป้าหมายของเรา โดยตั้งเป้าไว้ในการเป็นแบรนด์รองเท้าวิ่ง Top 3 ที่นักวิ่งเลือกใช้ และไม่ใช่เพียงรองเท้าวิ่ง แต่ยังรวมถึงการเติบโตของเสื้อผ้าสำหรับการออกกำลังกาย และรองเท้าแบบไลฟ์สไตล์ในนาม Saucony Original อีกด้วย”

 

“ทุกวันนี้เรื่องวิ่งเป็นเรื่องที่จับต้องได้ ใกล้ตัว และที่จริงแล้วเราทุกๆ คนก็อยู่ในโลกของการเดิน หรือวิ่งอยู่ตลอดเวลา และไม่ใช่แค่ในประเทศไทยที่ตัวเลขของผู้ที่หันมาสนใจเรื่องวิ่งเพิ่มขึ้น แต่ทั่วโลกนั้นก็มีตัวเลขของคนที่เข้าสู่วงการวิ่งเพิ่มขึ้นด้วยในทุกๆ ปี ทั้งนี้เหตุผลของคนส่วนใหญ่ก็มองว่าการวิ่งเป็นเรื่องง่ายและพัฒนาตัวเองไปสู่จุดสูงสุดของตัวเองได้ ชนะใจ และพร้อมที่จะก้าวออกไปสู่โลกของความท้าทายแบบใหม่ๆ เพียงแต่เราจะพัฒนามันไปสู่ระดับการวิ่งตรงนั้นอย่างไรตามเป้าหมายของแต่ละคน เราเชื่อว่าถ้าผู้บริโภคทั้งหลายได้ลองใช้ รองเท้าวิ่งจากแบรนด์ Saucony ในหลายๆ รุ่นแล้วก็จะต้องชอบ และเห็นถึงความแตกต่างอย่างที่นักวิ่งทั่วโลกได้เห็นอย่างแน่นอน”