เมจิ คัมแบ็ก หวนชิงแชร์ตลาดนมผงในรอบ 25 ปี

28 ก.ค. 2565 | 10:35 น.
อัปเดตล่าสุด :28 ก.ค. 2565 | 18:26 น.

ไทย เมจิ ฟู๊ด หวนคืนตลาดนมผงไทย ดึง “Meiji GU FORMULA GOLD EZcube 3” นมผงชนิดก้อน เปิดเซกเมนต์ใหม่ เป็นหัวหอกชิงส่วนแบ่งตลาด 5% ของตลาดนมผงไทยมูลค่า 13000 ล้านบาทภายใน 5 ปี

นับเป็นความเคลื่อนไหวที่น่าจับตามองอย่างมากสำหรับ บริษัท ไทย เมจิ ฟู๊ด จำกัด ผู้นำเข้าผลิตภัณฑ์คุณภาพ ภายใต้  เมจิ กรุ๊ป ประเทศญี่ปุ่น อาทิ  “เมจิช็อกโกแลต กัมมี และบิสกิต” “เมจิ อะมิโน คอลลาเจน” ที่ครั้งนี้ขอหวนคืนตลาดนมผง หลังจากถอดสินค้าผมผง ออกจากตลาดประเทศไทยเมื่อครั้งเจอกับวิกฤติเศรษฐกิจต้มยำกุ้งปี 2540  

เมจิ คัมแบ็ก หวนชิงแชร์ตลาดนมผงในรอบ 25 ปี

ซึ่งการกลับมาในรอบ 25 ปีนี้นับเป็นความท้าทายอย่างมากสำหรับ ไทย เมจิ ฟู๊ด ที่แม้จะเบอร์ต้นในตลาดนมผงประเทศญี่ปุ่น แต่สำหรับประเทศไทย “ไทย เมจิ ฟู๊ด” เปรียบเสมือนผู้เล่นหน้าใหม่ แน่นอนว่าการกลับเข้ามาในวันที่อัตราการเกิดของประชากรไทยลดน้อยลง

 

ขณะที่สภาพตลาดถูกกินส่วนแบ่งจากแบรนด์ดังฝั่งยุโรป อเมริกา ไปแล้ว  การเข้ามาเล่นในเซกเมนต์เดิมจึงเป็นมีแต่ข้อจำกัด “ไทย เมจิ ฟู๊ด” จึงตัดสินใจนำเข้าผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุด “Meiji GU FORMULA GOLD EZcube 3” (เมจิ จียู ฟอร์มูล่า โกลด์ อีซี่คิวบ์ 3) ผลิตภัณฑ์นมผงรูปแบบก้อน ซึ่งได้เปิดตัวในประเทศญี่ปุ่นเป็นครั้งแรกในปี ค.ศ. 2007 เข้ามาทำการตลาดในประเทศไทย

เมจิ คัมแบ็ก หวนชิงแชร์ตลาดนมผงในรอบ 25 ปี
ส่งผลให้ “ไทย เมจิ ฟู๊ด” กลายเป็นผู้เล่นรายรายแรกและรายเดียวในประเทศไทย ในนมผงก้อน ซึ่งถือว่า เป็นการเปิดตัวคัมแบ็ก ได้อย่างน่าสนใจ ซึ่งผู้บริหาร นาโอกิ คาวามาตะ ซีอีโอ บริษัท ไทย เมจิ ฟู๊ด จำกัด  ให้เหตุผลของการกลับเข้าสู่ตลาดนมผงเมืองไทยว่า เป็นเพราะแนวโน้มการเติบโตของตลาดนมผงสำหรับเด็ก มีสัดส่วนที่ใหญ่เมื่อเทียบกับนมผงสูตรอื่น และผู้นำที่ค่อนข้างมีความแข็งแกร่ง รวมถึงเศรษฐกิจไทยยังมีแนวโน้มที่ดี

โดยไทย เมจิ ฟู๊ดคาดการณ์ว่าจะสามารถชิงส่วนแบ่งการตลาดจากตลาดนมผงไทยมูลค่า 13,000 ล้านบาทได้บางส่วนหรือประมาณ 5% ของตลาดนมผงโดยรวมภายในปี 2023  เพราะถึงแม้ตลาดจะชะลอตัวโดยช่วงก่อนโควิดตลาดนมผงมีมูลค่า 15,000 ล้านบาท แต่สำหรับนมผงพรีเมี่ยมสำหรับเด็กยังมีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่อง และส่วนใหญ่จะเป็นผลิตภัณฑ์นมผง ที่มีจุดขายต่าง ๆ ที่เฉพาะและราคาที่ค่อนข้างสูง 


ทั้งนี้ผู้บริหารเชื่อว่า  “เมจิ อีซี่คิวบ์” จะเป็นที่ต้องการของคุณแม่คนไทยในปัจจุบัน เพราะผู้บริโภคหลักที่ขับเคลื่อนภาพรวมตลาดดังกล่าวจะเป็นกลุ่มคุณแม่ในช่วงวัยทำงาน และต้องการเลือกสิ่งที่ดีให้กับลูกแต่ไม่ค่อยมีเวลาว่าง หรือมีไลฟ์สไตล์เดินทางท่องเที่ยวมากขึ้น ทำให้กระแสตลาดนมและอาหารสำหรับเด็กเริ่มมีแนวโน้มเน้นไปที่ความสะดวก 

 

“ ก่อนหน้านี้ ไทย เมจิ ฟู๊ด ออกสินค้าและนำเข้ามาขายในประเทศไทยหลายตัว เพราะเราเห็นว่า ไทยเป็นตลาดที่สำคัญตลาดหนึ่งของเรา และนมผงเองก็เองผลิตภัณฑ์สำคัญตัวหนึ่งของเราที่ญี่ปุ่นเรามีมาร์เก็ตแชร์กว่า 40% ในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาเราจึงตัดสินใจที่จะกลับมาทำตลาดนมผงในไทยอีกครั้ง เพราะศักยภาพตลาดไทยมีแนวโน้มการเติบโตของนมผงสูตร3 และการเติบโตของนมผงพรีเมียมยังสูงที่สุดในตลาด ครั้งนี้เราจะเริ่มจากการเปิดตัว “Meiji GU FORMULA GOLD EZcube 3” ซึ่งเป็นผมผงชนิดก้อนที่ยังไม่เคยมีในตลาดไทยมาก่อนเพื่อขยายตลาด ”

เมจิ คัมแบ็ก หวนชิงแชร์ตลาดนมผงในรอบ 25 ปี

นอกจากนี้ผู้บริหารยังยอมรับการเข้ามาชิงแชร์ตลาดนมผงไทยไม่ใช่เรื่อง เพราะตลาดนมผงไทยและญี่ปุ่นมีความแตกต่างกัน ในประเทศไทยนมผงเมจิไม่เป็นที่รู้จัก ผู้บริโภคไทยรู้จักแบรนด์นมผงจากอเมริกาหรือยุโรปดังนั้นตลาดนมผงไทยจึงถูกผูกขาดจากเจ้าใหญ่ๆแต่ขณะเดียวกันสัดส่วนนมผงสูตร 3 ยังมีมากกว่านี้ญี่ปุ่นจึงยังมีโอกาสสำหรับไทยเมจิในการกลับเข้ามาทำตลาด

 

“ตลาดไทยมักถูกคลองตลาดโดยแบรนด์ยุโรปอเมริกาซึ่งแบรนด์เหล่านี้มีความแข็งแกร่งมากในขณะที่ภาพรวมตลาดนมผงค่อนข้างหดตัวลงแต่ผลิตภัณฑ์พรีเมี่ยมกับโตโยต้าได้ดีจุดแข็งของแบรนด์ยุโรปอเมริกาเขามีจุดขายคือสารอาหารซึ่งคุณแม่ก็อยากเลือกหรือจะพานมผงที่ดีที่สุดให้กับลูกแต่ก็ยังต้องทำงานจึงทำให้เกิดความยุ่งยากในการชงนม 

 

ดังนั้นเรา เล็งเห็นโอกาสสำหรับนมผงชนิดก้อนในตลาดนมผงในประเทศไทย เนื่องจากผู้บริโภคบางคนรู้สึกว่านมผงไม่สะดวกในการใช้เนื่องจากต้องใช้ช้อนตวงเพื่อที่จะป้องกันการหกเลอะเทอะ หรือการตวงที่ผิดพลาด อีกทั้งความชื้นจากช้อนตวงที่อาจจะทำให้นมผงจับตัวเป็นก้อนเมจิ อีซี่คิวบ์ จึงจะถูกผลิตขึ้นมาด้วยเทคโนโลยีที่มีเอกลักษณ์ของเมจิที่ออกแบบมาในรูปแบบก้อน เพื่อตอบโจทย์คุณแม่ที่ต้องการความสะดวกและลดเวลาในการชงนม ทำให้การเตรียมนมเป็นเรื่องง่าย ไม่ต้องง้อช้อนตวง

 

และ ไม่ต้องกังวลกับการทำหก เพราะอีซี่คิวบ์ วัดตวงปริมาณนมมาให้แล้ว ทำให้ชงง่าย ละลายง่าย และ ง่ายต่อการเตรียม  มาในแพคเกจจิ้งที่แยกเป็นซอง พกง่าย สะดวก และง่ายที่จะนำไปใช้ ทำให้เป็นผลิตภัณฑ์ที่น่าดึงดูด เมื่อเทียบกับนมผงที่ต้องใช้เวลาในการตวงและผสมและอาจจะมีการหกเลอะเทอะดังนั้นจุดขายของเมจิจึงตอบสนองเรื่องของความสะดวกในการชงนมในขณะที่สารอาหารเราครบถ้วนเพราะพัฒนามาจากการวิจัยน้ำนมแม่” 



 

อย่างไรก็ตาม นอกจากการนำเข้าผลิตภัณฑ์ที่มีความแตกต่างและเป็นเซ็กเมนต์ใหม่แล้วกลยุทธ์ในการเข้าสู่ตลาดนมผงไทย ผู้บริหารมองว่าจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องทำให้ผู้บริโภคได้ทดลองสัมผัสผลิตภัณฑ์ให้มากที่สุด ขณะเดียวกันก็ต้องทำให้ลูกค้ารู้จักแบรนด์เมจิมากที่สุดซึ่งไทยเมจิได้ตัดสินใจดึงนักร้องชื่อดัง “ลีเดีย” ศรัณย์รัชต์ ดีน พร้อมด้วยลูกชาย “น้องดีแลน” ขึ้นแท่นแบรนด์แอมบาสเดอร์สำหรับผลิตภัณฑ์ใหม่นี้เป็นครั้งแรก เพื่อให้ผู้บริโภครู้จักและเข้าถึงแบรนด์ให้มากที่สุดเพราะไม่เคยมีผลิตภัณฑ์ตัวนี้มาก่อนในประเทศไทย  และในระยะยาวบริษัทจะสร้างแคตตากอรี่ใหม่ในตลาดไทยที่เป็นสินค้าพกพาสะดวก ชงง่าย



 

ในส่วนของการจัดจำหน่ายผู้บริหารมองว่าการให้ผู้เชี่ยวชาญรายการกระจายสินค้าเข้ามาดูแลการจัดจำหน่ายจะทำให้บริษัทสามารถขยายช่องทางการขายในประเทศไทยได้อย่างรวดเร็วจึงให้บริษัท มุ่งพัฒนา อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) เข้ามาเป็นผู้ดำเนินการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เมจิ อีซี่คิวบ์ ทั่วประเทศ เพราะมีความพร้อมและความเชี่ยวชาญทั้งด้านโลจิสติกส์และซัพพลายเชน รวมไปถึงเครือข่ายการจัดจำหน่ายทั่วประเทศที่แข็งแกร่ง ทั้งช่องทางโมเดิร์นเทรด รีเทลเชน อาทิ ไฮเปอร์มาร์เก็ต ซูเปอร์มาร์เก็ต ร้านค้าทั่วไป เครือข่ายร้านขายของชำอื่นๆ และยังรวมไปถึง ร้านสะดวกซื้อ ร้านขายยา ร้านแม่และเด็ก และช่องทางอีคอมเมิร์ซต่าง ๆ เช่นกัน

 

นอกเหนือจากประเทศไทย อีซี่คิวบ์ยังมีวางจำหน่ายในประเทศญี่ปุ่น ไต้หวัน เวียดนาม และ ฮ่องกง โดย เมจิ เป็นผู้ผลิตรายต้นๆ ในธุรกิจขนมและผลิตภัณฑ์ที่ทำมาจากนม