"อพท." เร่งยกระดับการท่องเที่ยวโดยชุมชนเชื่อมตลาดมูลค่าสูง

05 พ.ค. 2565 | 19:04 น.
อัปเดตล่าสุด :06 พ.ค. 2565 | 02:04 น.

"อพท." เร่งยกระดับการท่องเที่ยวโดยชุมชนเชื่อมตลาดมูลค่าสูง ดึงผู้ประกอบการนำเที่ยวสร้างความรู้ ความเข้าใจ

นาวาอากาศเอก อธิคุณ คงมี ผู้อำนวยการ องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน) หรือ อพท. เปิดเผยว่า อพท. โดยสำนักท่องเที่ยวโดยชุมชน ได้ดำเนินการจัดกิจกรรม การยกระดับการนำเสนอสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยวโดยชุมชนเพื่อการเชื่อมโยงสู่ตลาดมูลค่าสูง (CBT Travel Mart) เพื่อสร้างความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับการท่องเที่ยวโดยชุมชน ให้แก่ผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยว

 

ทั้งนี้ การอบรมดังกล่าวนี้มีประเด็นสำคัญที่น่าสนใจ 2 ประเด็น จากวิทยากรซึ่งเป็นผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวที่มีประสบการณ์การทำงานร่วมกับชุมชนมาอย่างดี   

 

ประเด็นแรก คือ แนวคิดการเจรจาต่อรองทางธุรกิจ (Win-Win Situation) เพื่อให้เข้าใจแนวคิดการเจรจาต่อรองรูปแบบที่ได้ประโยชน์ด้วยกันทุกฝ่าย ซึ่งเป็นรูปแบบการเจรจาต่อรอง พูดคุยกันระหว่างชุมชนและผู้ประกอบการ เพื่อให้ได้ผลประโยชน์ที่พึงพอใจทั้ง 2 ฝ่าย รวมไปถึงรูปแบบการทำงานร่วมกับชุมชนในรูปแบบของการจัดประชุมและนิทรรศการ หรือ ไมซ์ (MICE) 

ประเด็นที่สอง คือ  เรื่องการทำงานของบริษัทและชุมชนท่องเที่ยว : มีวิธีการทำงานร่วมกันโดยผู้ประกอบการท่องเที่ยวและชุมชนต้องเรียนรู้ข้อควรปฏิบัติระหว่างกันทั้งของบริษัทนำเที่ยวและชุมชนท่องเที่ยวว่าควรเป็นอย่างไร

 

และการแลกเปลี่ยนประสบการณ์การทำงานของบริษัท/ผู้ประกอบการ ที่ทำงานร่วมกับชุมชนท่องเที่ยวโดย 

 

อพท. เร่งยกระดับการท่องเที่ยวโดยชุมชน

 

อย่างไรก็ตาม ประโยชน์ที่ได้รับจากการอบรม ได้ช่วยทำให้ผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวสามารถทำงานร่วมกับชุมชนได้อย่างราบรื่นและเกิดประโยชน์กับทั้ง 2 ฝ่าย เกิดการเชื่อมโยงชุมชนเข้ากับผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวที่ใช่และใจตรงกัน

 

ส่งผลให้เกิดการกระจายรายได้ และยังได้นักท่องเที่ยวที่เหมาะสม ลงไปยังชุมชนเป้าหมายได้เป็นผลสำเร็จ

ซึ่งภายหลังเสร็จสิ้นการอบรมแล้ว ก็จะมีเสนอขายสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยว (Pitching) ของชุมชนที่ผ่านการคัดเลือก และกิจกรรมการจับคู่ธุรกิจ (Business Matching) ต่อไป

 

"มีผู้เข้าร่วมรับฟังกว่า 60 บริษัท  ได้แก่ ผู้ประกอบการท่องเที่ยวทั้งภายในประเทศ และจากประเทศเพื่อนบ้าน รวมทั้งผู้สนใจจากสถาบันการศึกษา   เพื่อนำข้อมูลความรู้ไปใช้ประโยชน์ในการทำงานร่วมกันกับชุมชน"