ย้อนรอยเส้นทางเปิดประเทศจนถึงยกเลิก Test&Go ท่องเที่ยวไทยขยับแค่ไหน

02 พ.ค. 2565 | 10:28 น.
อัปเดตล่าสุด :02 พ.ค. 2565 | 17:48 น.

ย้อนรอยเส้นทางเปิดประเทศยุคแรกจนถึงยกเลิก Test&Go ในวันที่ 1 พ.ค. 2565 เป็นการปลดล็อคข้อจำกัดเดินทางเข้าไทยอย่างมีนัยสำคัญ นักท่องเที่ยวขยับเข้าท่องเที่ยวไทยได้แค่ไหน

การยกเลิก Test & Go ในวันที่ 1 พ.ค. นี้ เป็นการปลดล็อคข้อจำกัดเดินทางเข้าไทยอย่างมีนัยสำคัญ ที่จะเป็นแรงขับเคลื่อนให้การท่องเที่ยวของไทย พลิกฟื้นในปี 2566 


ภายใต้ความหวังว่าไทยจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติ 20 ล้านคน คิดเป็นครึ่งหนึ่งของปี 2562  และสร้างรายได้ 80% ของปี 2562 เติบโตจากปี 2565 ซึ่งการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) มองว่า ต่างชาติจะเดินทางเข้าไทยไม่น้อยกว่า 10 ล้านคน สร้างรายได้กว่า 6 แสนล้านบาท 

ปัจจุบันแค่ 4 เดือนของปีนี้ไทยมีนักท่องเที่ยวต่างชาติ เกินกว่าทั้งปีที่ผ่านมาแล้ว โดยตั้งแต่เดือนม.ค.-19 เม.ย. 65 ไทยมีนักท่องเที่ยวต่างชาติ 646,812 คน ขณะที่ตั้งแต่เดือนม.ค.-ธ.ค. 2564 มีนักท่องเที่ยวต่างชาติอยู่ที่ 427,869 คนเท่านั้น 

 

ถือว่าเป็นผลจากพัฒนาการในการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาติของไทย

 

หลังจากก่อนหน้านี้ไทยเริ่มเปิดรับนักท่องเที่ยวมาตั้งแต่ต้นปี 2564 ซึ่งเบื้องต้นเป็นการเปิดรับนักท่องเที่ยวจากประเทศเสี่ยงตํ่า (STV) กักตัว 14 วัน เริ่มตั้งแต่ม.ค.-มิ.ย.64 มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาเพียง 40,447 คนเท่านั้น หรือเฉลี่ย 6-7 พันคนต่อเดือนเท่านั้น 

กระทั่งมีการเปิดการท่องเที่ยวในแบบแซนด์ บ็อกซ์ในเดือนก.ค. 64 ที่เริ่มจาก “ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์” และ “สมุยพลัส” ซึ่งเปิดให้พำนักในพื้นที่แซนด์บ็อกซ์ 14 วัน 

 

ต่อมาในเดือนส.ค. 64 มีการขยายพื้นที่ส่วนขยายจากภูเก็ตและสมุยไปยังกระบี่และพังงา (7+7) และการลดระยะเวลาพำนักในพื้นที่แซนด์บ็อกซ์เหลือ 7 วัน ก็ทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวขยับขึ้นมาแตะ 2 หมื่นคนต่อเดือน

 

ตามมาด้วยไทยเปิดรับนักท่องเที่ยว Test&Go โดยจำกัดประเทศต้นทางตรวจ RT-PCR เมื่อมาถึง หากผลเป็นลบเดินทางเที่ยวไทยได้โดยไม่ต้องกักตัว ทำให้นักท่องเที่ยวขยับขึ้นมาอย่างสูงมากมาแตะ 230,497 คนในเดือนธ.ค. 64 

 

การไม่กักตัวเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้นักท่องเที่ยวเลือกเดินทางท่องเที่ยว แม้ในช่วงต้นปี 2565 จะเกิดโอมิครอนขึ้น ทำให้ไทยมีการระงับ Test & Go ไปเมื่อวันที่ 22 ธ.ค. 64 ก่อนจะกลับมาเปิดรับ Test & Go อีกครั้งในเดือนก.พ. 65 แต่มีการเพิ่มข้อจำกัดให้ตรวจ RT-PCR 2 ครั้งในวันแรกและวัน 5 ไม่จำกัดประเทศต้นทาง

 

แม้จะเดินทางได้ยากขึ้นแต่การไม่กักตัวก็ทำให้ไทยยังมีนักท่องเที่ยวต่างชาติทะลุหลักแสนคน และเมื่อหลายประเทศทั่วโลกทยอยลดข้อจำกัดในการเปิดรับนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น ประกอบกับอัตราการฉีดวัคซีนที่เพิ่มขึ้น และความไม่รุนแรงของโอมิครอน

 

จึงทำให้ไทยเริ่มหันมาทยอยผ่อนคลายข้อจำกัดในการเดินทางเข้าไทยเพิ่มขึ้น โดยปรับการตรวจครั้งที่ 2 จาก Rt-Pcr เป็น Self ATK ในเดือนมี.ค. 2565 การยกเลิกแสดงผลตรวจโควิด 72 ชั่วโมงก่อนเดินทางเข้าไทย ล่าสุดคือการยกเลิก Test & Go สำหรับการเดินทางทางอากาศ 

 

โดยตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค. 2565 ผู้ที่ได้รับวัคซีน ถ้าจะเดินทางเข้าไทย จะเหลือเพียงการให้ลงทะเบียนผ่านระบบ Thailand Pass เพื่อแสดงหลักฐานการฉีดวัคซีน และวงเงินประกันภัย หรือประกันสุขภาพ 10,000 ดอลลาร์สหรัฐฯเท่านั้น เมื่อมาถึงไทยไม่ต้องตรวจอะไรเลย เพียงแต่แนะนำให้ตรวจแค่ ATK ด้วยตัวเองระหว่างพำนักเท่านั้น ระหว่างพำนักหากพบเชื้อก็ให้เข้ากระบวน การตามประกันภัย หรือตามความรับผิดชอบส่วนบุคคล

 

ส่วนผู้ที่ยังไม่ได้รับวัคซีน ให้ลงทะเบียนผ่านระบบ Thailand Pass เช่นกัน พร้อมแสดงหลักฐานการจองห้องพักระบบ AQ และกักตัว 5 วัน และตรวจ RT-PCR ในวันที่ 4 หรือวันที่ 5 ถ้าผลเป็นลบไม่ติดเชื้อสามารถเดินทางได้ หรือยื่นหลักฐานผลตรวจ RT-PCR ไม่เกิน 72 ชั่วโมงก่อนเดินทางเข้าประเทศไทย ก็สามารถเดินทางเข้าประเทศไทยได้แบบเดียวกับผู้ที่ได้รับวัคซีน 

 

 

ย้อนรอยเส้นทางเปิดประเทศจนถึงยกเลิก Test&Go ท่องเที่ยวไทยขยับแค่ไหน

 

ความสะดวกในการเดินทางจากการปลดล็อคข้อจำกัดที่ เป็นการตัดสินใจบนพื้นฐานของข้อมูลในเดือนกุมภาพันธ์ 2565 ซึ่งไทยมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามา 2.03 แสนคน ติดเชื้อ 4.5 พันคน เท่ากับ 2.25% เดือนมีนาคม เข้ามา 2.7 แสนคน ติดเชื้อ 1.5 พันคน เท่ากับ 0.58% เดือนเมษายน (วันที่ 1-20) เข้ามา 2.75 แสนคน ติดเชื้อ 0.49% ขณะที่ Test&Go ติดเชื้อ เท่ากับ 0.46%

 

ตัวเลขคนติดเชื้อที่มาจากต่างประเทศ น้อยกว่าคนติดเชื้อในประเทศไทย ความกังวลตรงนี้จะได้ผ่อนคลายขึ้น นี่เองจึงทำให้ที่ประชุมศบค.เห็นชอบให้ยกเลิก Test&Go และนำการท่องเที่ยวกลับมาฟื้นเศรษฐกิจ

 

นายวิลเลี่ยม อี. ไฮเน็ค ผู้ก่อตั้งและประธานกรรมการ บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล  จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ถ้ารัฐบาลเปิดประเทศแบบไม่มีเงื่อนไขโดยเร็ว เชื่อว่าการท่องเที่ยวของไทยจะกลับมาสู่ภาวะปกติภายใน 1 ปี แม้จะไม่มีนักท่องเที่ยวจากจีน แต่ก็ยังมีตลาดอื่น อย่างยุโรป อินเดีย อเมริกาใต้ หรือแม้แต่ซาอุดีอาระเบีย ที่ไม่ได้มีสัมพันธ์ทางการทูตกันมานานกว่า 32 ปี วันนี้เปิดแล้วโอกาสที่จะเดินทางกลับมาเที่ยวไทยก็มีสูง


ขณะที่ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า ผมมั่นใจว่าเมื่อศบค.ชุดใหญ่ปลดล็อกข้อจำกัดในการเดินทางเข้าไทยตามที่กระทรวงท่องเที่ยวฯเสนอ จะทำให้ในปีนี้คาดว่าไทยจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติอยู่ที่ 7-10 ล้านคน (ไม่รวมนักท่องเที่ยวจีน) เพราะแม้จะไม่ มีตลาดจีน แต่ก็มีการเปิดตลาดอื่นทดแทน เช่น ตลาดตะวัน ออกกลาง อินเดีย เป็นต้น