ลูมิน็อกซ์ เปิดตัวนาฬิการักษ์โลก ผลิตจากขยะทะเลไทย

02 เม.ย. 2565 | 09:25 น.
อัปเดตล่าสุด :02 เม.ย. 2565 | 14:29 น.
1.4 k

ลูมิน็อกซ์ จับมือ ศรีทองพาณิชย์ อัพไซเคิล ขยะทะเลไทย ผลิตตัวเรือนและสาย นาฬิการักษ์โลก Survival Master Series พร้อมเปิดตัวในไทย รับ Earth Day วันคุ้มครองโลก

นางวิภาวรรณ มหาดำรงค์กุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศรีทองพาณิชย์ จำกัด เปิดเผยว่า ลูมิน็อกซ์ (Luminox) จับมือศรีทองพาณิชย์ ผู้แทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการในประเทศไทย สานต่อนโยบายเพื่อความยั่งยืน (sustainability) โดยการสร้างสรรค์นาฬิกาคอลเลกชันใหม่ล่าสุด เพื่อเปิดตัวในวันคุ้มครองโลก หรือ Earth Day 22 เมษายน 2565

ลูมิน็อกซ์ เปิดตัวนาฬิการักษ์โลก ผลิตจากขยะทะเลไทย

ลูมิน็อกซ์ ได้ร่วมมือ แบร์ กริลส์ (Bear Grylls) นักผจญภัยชื่อดังชาวอังกฤษ มาร่วมพรีเซ็นต์นาฬิกาโครโนกราฟรุ่นใหม่ เซอร์ไววัล มาสเตอร์ ซีรีส์ (Survival Master Series) ที่มาพร้อมตัวเรือน ขอบตัวเรือนรวมถึงสาย ทั้งหมดผลิตโดยใช้พลาสติกอัพไซเคิล โดย #tide องค์กรด้านสิ่งแวดล้อมจากสวิตเซอร์แลนด์ ได้นำขยะขวดน้ำที่เก็บมาจากทะเลไทยมาผ่านกระบวนการย่อยสลายให้นำมาใช้ซ้ำได้ใหม่ 

นาฬิกาโครโนกราฟรุ่นใหม่นี้ มีโทนสีสุดเท่ หน้าปัดและสาย ทั้ง เหลือง (Yellow), เขียว (Green) และน้ำเงิน (Blue) โดยแต่ละรุ่นจะมาพร้อมตัวเรือนและขอบตัวเรือนสีเขียวที่ทำจากวัสดุอัพไซเคิล พร้อมด้วยโลโก้ แบร์ กริลส์ ซึ่งโดดเด่นอยู่ ณ ตำแหน่ง 4 นาฬิกา ส่วนฝาหลังประทับรวมไว้ด้วยโลโก้ของทั้ง ลูมิน็อกซ์, แบร์ กริลลส์ และ #tide เพื่อเป็นที่ระลึกถึงความร่วมมือถึงแบรนด์แห่งความยั่งยืนครั้งสำคัญ โดยราคาอยู่ที่ 34,600 บาท

ลูมิน็อกซ์ เปิดตัวนาฬิการักษ์โลก ผลิตจากขยะทะเลไทย

สำหรับแนวทางการตลาด ศรีทองพาณิชย์ ได้พัฒนาช่องทางขายทั้งรุปแบบออนไลน์และออฟไลน์ รวมทั้งการจับมือกับช้อปปี้ นำนาฬิกาคอลเลคชั่นใหม่นี้ จัดโปรโมชั่นพิเศา นอกจากนี้ ยังจัดกิจกรรมกระตุ้นการบริหารจัดการขยะทะเลรณรงค์การดูแลทะเลและสัตว์ทะเล ด้วยการร่วมมือกับกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง

มอนเดนน์ (Mondaine) บริษัทแม่ของลูมิน็อกซ์ มุ่งมั่นให้อุตสาหกรรมนาฬิกาสวิสได้ก้าวเข้าสู่การบรรลุถึงความพยายามเพื่อความยั่งยืนถาวร โดยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สุทธิให้เป็นศูนย์ เริ่มตั้งแต่ปี ค.ศ. 2020 ที่ผ่านมา 

 

นอกจากนี้ ยังคงเดินหน้าผลักดันงานออกแบบ และการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์อันยั่งยืนยาวนานมากยิ่งขึ้น โดยมีเป้าขยายและเพิ่มสัดส่วนกลุ่มนาฬิการักษ์โลก ที่ร่วมดูแลสิ่งแวดล้อม จากปัจจุบันที่มีสัดส่วนราว 10% ให้เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง