เซ็นทรัล รีเทล ฝ่ามรสุมโควิด โชว์รายได้ 1.95 แสนล้าน พลิกคว้ากำไร 277 ล้าน

26 ก.พ. 2565 | 14:59 น.
อัปเดตล่าสุด :26 ก.พ. 2565 | 22:07 น.
612

เซ็นทรัล รีเทล โชว์รายได้ปี 64 กว่า 1.95 แสนล้านบาท พลิกมีกำไรสุทธิ 277 ล้านบาท หลังไตรมาส 4 ทำนิวไฮ กวาดกำไร 2,464 ล้าน บวก 124%

นายญนน์ โภคทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ CRC เปิดเผยว่า ผลประกอบการของเซ็นทรัล รีเทล ในปี 2564 มีรายได้รวมทั้งสิ้น 195,654 ล้านบาท กำไรสุทธิ 277 ล้านบาท EBITDA 20,059 ล้านบาท แม้ต้องเผชิญภาวะการระบาดของ COVID-19 เป็นระยะเวลายาวนานพร้อมๆ กันทั้งในประเทศไทย เวียดนาม และอิตาลี โดยผลประกอบการไตรมาสที่ 4 ของปี 2564 มีรายได้ 58,765 ล้านบาท บวก 15 % EBITDA 8,031 ล้านบาท บวก 42% กำไรสุทธิ 2,464 ล้านบาท บวก 124%  

 

สำหรับประเทศไทย ยอดขายในปี 2564 ที่ไม่รวมนักท่องเที่ยวต่างชาติ แซงหน้ายอดขายก่อนช่วงเกิด        โควิด 19 โดยมาจากการที่เซ็นทรัล รีเทล มีแพลตฟอร์ม Multi-Category จึงทำให้สามารถปรับเปลี่ยน portfolio ให้ทันกับความต้องการของลูกค้าที่เปลี่ยนไป โดยมุ่งโฟกัสที่กลุ่มธุรกิจฮาร์ดไลน์ ซึ่งเป็นไปตามเทรนด์ของผู้บริโภค

ญนน์ โภคทรัพย์

ทำให้กลุ่มนี้มีการเติบโตเป็นอย่างมากและยอดขายสูงกว่าช่วงก่อนเกิดการแพร่ระบาดของโควิด 19 กว่า 26% โดยมีการขยายสาขาไทวัสดุรวม 5 สาขา และเปิดร้านค้ารูปแบบใหม่ภายใต้ go! WOW 15 สาขาภายในเวลาเพียง 3 เดือนในปี 2564 ซึ่งได้รับการตอบรับจากกลุ่มลูกค้าได้เป็นอย่างดี ตอกย้ำการเป็นผู้นำบนแพลตฟอร์ม Omnichannel Home Improvement

 

นอกเหนือจากนี้ เซ็นทรัล รีเทล ยังประสบความสำเร็จในการควบรวมกิจการของ COL ที่ประกอบไปด้วย OfficeMate, B2S และ จะนำ ธุรกิจ MEB  ลีดเดอร์ในธุรกิจ E-Book และเว็บไซต์อ่านนิยายของไทยจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ภายในปีนี้ 2565 สำหรับ

 

กลุ่มธุรกิจฟู้ด เซ็นทรัล รีเทล ยังตอกย้ำการเป็นเบอร์หนึ่งของ The Best Food Destination ในประเทศไทย ด้วยการขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่องในปี 2564 เปิด 46 สาขา ตอกย้ำการเป็นผู้นำของกลุ่มฟู้ด โดย Tops Supermarket ได้รับรางวัล สุดยอดแบรนด์ที่ทรงอิทธิพลต่อผู้บริโภคมากที่สุด (Top Influential Brands)  จากอินฟลูเอ็นเชี่ยล แบรนด์ ประเทศสิงคโปร์ ร่วมกับ นิโอ ทาร์เก็ต ผู้นำด้านที่ปรึกษาชื่อเสียงองค์กรในประเทศไทย

เซ็นทรัล รีเทล

ส่วนในประเทศเวียดนาม ถึงแม้จะได้รับผลกระทบจากสถาณการณ์โควิดเป็นอย่างมากแต่เซ็นทรัล รีเทลยังคงมีแผนลงทุนอย่างต่อเนื่อง โดยมีการรีโนเวทและขยายสาขา ตอกย้ำการเป็นผู้นำในตลาดไฮเปอร์มาร์เก็ต และ ไลฟ์สไตล์ มอลล์ ครอบคลุมพื้นที่ทั้งเมืองหลักและเมืองรอง ทั้งยังขยายไปในตลาดฟู้ด

เซ็นทรัล รีเทล

โดยการเปิดมอลล์ฟอร์แมทใหม่ mini go! ที่เจาะกลุ่มลูกค้า Mass และได้เปิด Tops Market เพื่อครอบคลุมทุกกลุ่มลูกค้าในประเทศเวียดนาม แม้เวียดนามประสบปัญหาจากโควิดทำให้สาขาต้องปิดทั้งในไตรมาส 2 และ 3 เซ็นทรัล รีเทล ยังสามารถทำยอดขายในเวียดนามโตกว่าช่วงก่อนโควิดมากกว่า 8% และEBITDA มีการเติบโตประมาณ 9% จากปีที่แล้ว

 

ขณะที่ประเทศอิตาลี มีการปรับปรุงห้างสรรพสินค้ารีนาเชนเต้ (Rinascente) ที่เป็นสาขาเรือธง 3 สาขา คือมิลาน ฟลอเรนซ์ และโรม โดยใช้ช่วงที่ประเทศอิตาลีมีการล็อคดาวน์และปรับปรุงเสร็จทันช่วงที่เปิดประเทศเมื่อกลางปี 2564 จึงส่งผลให้มีผลประกอบการและจำนวนลูกค้าเติบโตดีต่อเนื่อง

 

เนื่องจากได้กำลังซื้อจากผู้จับจ่ายใช้สอยภายในประเทศ และนักท่องเที่ยวจากยุโรปกลับมา ส่งผลให้ยอดขายในไตรมาส 4 กลับมาเทียบเท่า 99% ก่อนเกิดสถานการณ์โควิด-19 ยอดขายทั้งปีของประเทศอิตาลีฟื้นตัวแรงโตได้ประมาณ 30% จากปีที่ผ่านมา และ EBITDA โตกว่า 4 เท่า จากปีที่แล้ว

เซ็นทรัล รีเทล

นายญนน์ กล่าวอีกว่า ในธุรกิจพร็อพเพอร์ตี้ มีการขยายและปรับปรุงสาขาทั้งในไทยและเวียดนาม โดยมีการเปิด GO! ไลฟ์สไตล์ มอลล์ ในเวียดนาม และศูนย์การค้าโรบินสัน ไลฟ์สไตล์ ในไทยรวมทั้งสิ้น 6 สาขา สำหรับศูนย์การค้าโรบินสัน ไลฟ์สไตล์ ยังคงรักษาระดับ Occupancy Rate ได้มากกว่า 90% และจำนวนลูกค้าที่เข้าศูนย์การค้ามีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยสิ้นปี 2564 เซ็นทรัล รีเทล มีศูนย์การค้าโรบินสัน ไลฟ์สไตล์ ท็อปส์ พลาซ่า และ GO! ไลฟ์สไตล์ มอลล์ รวมทั้งสิ้น 69 สาขา และมีพื้นที่เช่ากว่า 650,000 ตารางเมตร เพิ่มขึ้น 10% จากปีที่ผ่านมา

 

ด้านเทคโนโลยีและดิจิทัล เซ็นทรัล รีเทล ได้ยกระดับองค์กรและบุคคลากรในเรื่องของการพัฒนาเทคโนโลยีโดยมีการปรับวัฒนธรรมองค์กรให้เป็น Digital-First Culture และพัฒนา Omnichannel Platform ให้สมบูรณ์แบบที่สุด เพื่อสร้างเอกลักษณ์ให้เซ็นทรัล รีเทล เป็นผู้นำในแพลตฟอร์ม Omnichannel ทำให้ยอดขายผ่านแพลตฟอร์มนี้มีสัดส่วน 20% ของยอดขายทั้งหมด และเติบโต 109% อีกทั้งยังมีการพัฒนา CRC Data Ecosystem และพัฒนาเทคโนโลยีรูปแบบใหม่ ๆ ให้กับทุกกลุ่มธุรกิจ เพื่อรองรับการเติบโตอย่างก้าวกระโดด ตอกย้ำการเป็นผู้นำค้าปลีกแห่งอนาคต

 

“เซ็นทรัลรีเทลเร่งเครื่องเดินหน้ากลยุทธ์ CRC Retailligence อย่างเต็มรูปแบบในการยกระดับเเพลตฟอร์มออมนิเเชเเนลโดยใช้เทคโนโลยี เเละดิจิทัลใหม่ ๆ เพื่อเร่งการขับเคลื่อนให้เกิดการเติบโตในกลุ่มธุรกิจหลักทั้งในประเทศ เเละต่างประเทศ รวมถึงการร่วมมือกับพาร์ทเนอร์ระดับสากล และสร้างธุรกิจใหม่ตามเทรนด์ของโลกเเละความต้องการของผู้บริโภค ตลอดจนขยายธุรกิจภายใต้เเนวคิด Inclusive Growth สร้างความสำเร็จร่วมกันกับพาร์ทเนอร์เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน”