ไทยเบฟ ครองคะแนนสูงสุด DJSI โลก 4 ปีซ้อน

16 พ.ย. 2564 | 10:29 น.
อัปเดตล่าสุด :16 พ.ย. 2564 | 17:40 น.

สะท้อนศักยภาพอันแข็งแกร่งขององค์กรต้นแบบไทยเบฟเวอเรจ ครองคะแนนสูงที่สุดในโลกในกลุ่มอุตสาหกรรมเครื่องดื่มของโลกจาก "ดาวโจนส์" ต่อเนื่อง 4ปีซ้อน พร้อมขับเคลื่อนองค์กรสู่ PASSION2025 ต่อเนื่อง

บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ตอกย้ำความเป็นผู้นำเครื่องดื่มครบวงจรที่มั่นคง และยั่งยืนของภูมิภาคอาเซียน Stable and Sustainable ASEAN Leader ด้วยการครองคะแนนสูงที่สุดในโลกในกลุ่มอุตสาหกรรมเครื่องดื่มของโลก จากการจัดโดย S&P Global เป็นสมาชิกในกลุ่มดัชนีความยั่งยืนดาวโจนส์(The Dow Jones Sustainability Indices-DJSI)  มาอย่างต่อเนื่อง

 

โดยไทยเบฟ ได้รับคะแนนสูงสุดจากการประเมินด้านการพัฒนาที่ยั่งยืน ประจำปี 2564 (Corporate Sustainability Assessment 2021) เป็นปีที่ 4 ต่อเนื่อง และได้รับการยอมรับให้เป็นสมาชิกของประเภท กลุ่มดัชนีโลก (World Index) เป็นปีที่ 5 และเป็นสมาชิกของกลุ่มดัชนีตลาดเกิดใหม่ (Emerging Markets Index) เป็นปีที่ 6 สะท้อนถึงศักยภาพอันแข็งแกร่งขององค์กรต้นแบบในการดำเนินธุรกิจที่ใส่ใจด้านการพัฒนาที่ยั่งยืนที่นำความภาคภูมิใจของคนไทยไปสู่ระดับโลก ด้วยศักยภาพความพร้อมที่แข็งแกร่ง สู่PASSION2025 ไปพร้อมกับการ “สร้างสรรค์และแบ่งปันคุณค่าจากการเติบโต” (Creating and Sharing the Value of Growth)

ไทยเบฟ มุ่งดำเนินธุรกิจเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืนมาอย่างต่อเนื่อง โดยได้น้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง (Sufficiency Economy Philosophy – SEP)  ตามแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และได้น้อมนำพระปฐมบรมราชโองการของพระบาทสมเด็จ พระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่จะสืบสาน รักษา และต่อยอดเพื่อประโยชน์สุขของประชาชน เป็นแนวทางในการขับเคลื่อนองค์กรสู่เป้าหมายของการพัฒนาเพื่อความยั่งยืนขององค์การสหประชาชาติในด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และเศรษฐกิจ มาเป็นแนวทางในการบริหารจัดการธุรกิจ

 

และดำเนินกิจกรรมต่างๆ ในการช่วยเหลือสังคม ที่มุ่งเน้นการดำเนินงานใน 5 มิติหลักคือ การศึกษา สาธารณสุข กีฬา ศิลปวัฒนธรรม และการพัฒนาชุมชน ที่ได้สร้างผลลัพธ์ความสำเร็จการดำเนินงานอย่างเป็นรูปธรรม และมีการติดตามผลการดำเนินการอย่างต่อเนื่อง

โดยยังตระหนักถึงความสำคัญของหลักการบริหารจัดการและการบริหารความเสี่ยงที่มีประสิทธิภาพ และมีความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม (Environmental) สังคม (Social) และเครือข่ายพันธมิตรทางธุรกิจทุกภาคส่วนตลอดห่วงโซ่คุณค่า (Value Chain) ควบคู่ไปกับการกำกับดูแลกิจการที่ดีตามหลักธรรมาภิบาล (Good governance) สอดคล้องกับจรรยาบรรณของบริษัทที่มีความโปร่งใส และตรวจสอบได้ มาเป็นกลยุทธ์สำคัญในการขับเคลื่อนการดำเนินงานที่จะบรรลุตามวิสัยทัศน์ขององค์กรได้อย่างยั่งยืน

 

ภายใต้โครงการต่างๆ อาทิ การผสานสานความร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจทุกภาคส่วนเพื่อร่วมกันดูแล และอนุรักษ์แหล่งน้ำ รวมถึงการดูแลชุมชนให้สามารถเข้าถึงแหล่งน้ำสะอาดในการอุปโภค และบริโภค เพื่อให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น และลดผลกระทบที่จะเกิดขึ้นต่อระบบนิเวศผ่านโครงการต่าง ๆ เช่น โครงการประเมินความยั่งยืนของน้ำผิวดิน และน้ำใต้ดิน โครงการบริหารจัดการน้ำอย่างมีประสิทธิภาพ การอนุรักษ์ป่าต้นน้ำ และดูแลแหล่งน้ำร่วมกับชุมชน

 

การดำเนินงานตามแนวทางการพัฒนาที่ยั่งยืน ปกป้อง และรักษาสิ่งแวดล้อม รวมถึงการเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้ทรัพยากรให้เกิดประโยชน์อย่างสูงสุด ด้วยการนำขวดพลาสติกบรรจุเครื่องดื่มหลังการบริโภคมาผลิตเป็นเม็ดพลาสติกรีไซเคิลหรือ Recycled PET นำมาผลิตเป็นผ้าห่มในโครงการ ไทยเบฟรวมใจต้านภัยหนาวด้วยนวัตกรรม Eco Friendly Blanket ที่สามารถช่วยลดการใช้พลังงานในกระบวนการผลิต และยังช่วยลดปริมาณขยะจากขวดพลาสติกได้มากถึง 7.6 ล้านขวดต่อปี โดยสามารถผลิต “ผ้าห่มผืนเขียวรักษ์โลก” ได้มากถึงปีละจำนวน 200,000 ผืน ทำให้สามารถนำขยะจากขวดพลาสติกกลับสู่ระบบรีไซเคิลได้สำเร็จแล้วจำนวน 15.2 ล้านขวดจากการดำเนินต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 2

 

นอกจากนี้ ไทยเบฟ ยังเป็นผู้ริเริ่มแพลตฟอร์มการทำงานในอีกหลายโครงการที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างยิ่ง อาทิ มูลนิธิพลังน้ำใจไทย มูลนิธิสถาบันพัฒนาวิสาหกิจเพื่อสังคมแห่งประเทศไทย Thailand Supply Chain Network (TSCN) หรือภาคีเครือข่ายธุรกิจห่วงโซ่อุปทานแห่งประเทศไทย ฯลฯ การเป็นผู้ริเริ่มการจัดงาน Thailand Sustainability Expo (TSX) ที่ประสบความสำเร็จและได้รับการตอบรับอย่างดียิ่ง ภายใต้แนวคิด“พอเพียง ยั่งยืน เพื่อโลก” ที่ตอกย้ำการสร้างพลังความร่วมมือครั้งแรกที่ยิ่งใหญ่ของประเทศไทยที่ร่วมกันขับเคลื่อนและสร้างแรงบันดาลใจในการดำเนินงานภายใต้แนวทางของการพัฒนาที่ยั่งยืน  

 

และแม้ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ไทยเบฟได้จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการพิเศษ (ThaiBev Covid-19 Situation Room (TSR)) เพื่อให้เป็นศูนย์กลางในการติดตามข่าวสาร และดำรงความต่อเนื่องทางธุรกิจของกลุ่มไทยเบฟ ให้สามารถผลิตและจัดส่งสินค้าได้อย่างต่อเนื่องเพียงพอกับความต้องการของผู้บริโภค ไปพร้อมกับใส่ใจด้วยการส่งความห่วงใยและให้การช่วยเหลือสังคม พันธมิตรทางธุรกิจ และพนักงาน ให้ก้าวข้ามสถานการณ์โควิด-19 ไปด้วยกัน จึงได้มีหน่วยงานที่อาสาไปทำประโยชน์ให้กับสังคม

 

โดยรวมทั้งในและต่างประเทศ ด้วยการสนับสนุนทุกภาคส่วนในการขับเคลื่อนมาตรการต่าง ๆ และประสานความช่วยเหลือไปยังหน่วยงานสาธารณสุข และบุคลากรทางการแพทย์ครอบคลุมทั่วประเทศ อาทิ ส่งมอบผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดจากแอลกอฮอล์ หน้ากากSurgical Mask หน้ากาก N95มอบกรมธรรม์ประกันภัยกลุ่มคุ้มครองการติดเชื้อ (COVID-19) ให้บุคลากรทางการแพทย์ทั่วประเทศรวมถึงพนักงาน คู่ค้า เอเย่นต์ในกลุ่มไทยเบฟครอบคลุมทั่วประเทศ มอบตู้แช่จัดเก็บวัคซีนโควิด-19 ให้กับสถานพยาบาล 10 จังหวัดหลักทั่วประเทศ รวมทั้งสนับสนุนอุปกรณ์ทางการแพทย์ สนับสนุนน้ำดื่ม อาหาร และผลิตภัณฑ์ในเครือ รวมไปถึงการจัดตั้งศูนย์ตรวจโควิด และศูนย์ฉีดวัคซีน ฯลฯ เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระให้กับทางภาครัฐ

 

จากการดำเนินงานที่ผ่านมาทั้งในการบริหารจัดการด้านธุรกิจ และการดำเนินโครงการต่างๆ ในการช่วยเหลือสังคมมาอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ตอกย้ำศักยภาพความพร้อมที่แข็งแกร่งทางธุรกิจในทุกมิติควบคู่ไปกับการ “สร้างสรรค์และแบ่งปันคุณค่าจากการเติบโต” อย่างยั่งยืน สู่กลไกการขับเคลื่อนการดำเนินงานที่สอดคล้องตามแนวทางการพัฒนาที่ยั่งยืนของการเป็นต้นแบบของผู้นำองค์กรในด้านความยั่งยืนระดับโลก