ธุรกิจพร้อมลุยคิกออฟ5จังหวัดเปิดประเทศ1พ.ย.

ขณะนี้ภาคธุรกิจของไทยอยู่ระหว่างเตรียมความพร้อมรับแผนการเปิด5จังหวัดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติฉีดวัคซีนแล้วไม่ต้องกักตัว หลังจากศบค.ชุดเล็กได้ข้อสรุปเบื้องต้นว่าจะเปิดพื้นที่ พัทยา อ.บางละมุง อ.สัตหีบ พื้นที่อ.เมืองฯ อ.แม่ริม อ.แม่แตง อ.ดอยเต่า จ.เชียงใหม่ พื้นที่หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ พื้นที่ชะอำ จ.เพชรบุรี และกรุงเทพฯในวันที่ 1 พ.ย.นี้ จากแผนเดิมที่วางไว้ในวันที่ 1 ต.ค.นี้ เพื่อรอให้ประชากรในพื้นที่ได้รับวัคซีนเข็มที่ 2 ไม่น้อยกว่า 70% ต่อพ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ อีก 2 เดือนและลดวันกักตัวจาก 14 วันเหลือ 7 วัน ซึ่งจะนำเรื่องเข้าพิจารณาในการประชุมศบค.ชุดใหญ่ที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธานในวันที่ 27 ก.ย.นี้

นางมาริสา สุโกศล หนุนภักดี นายกสมาคมโรงแรมไทย (ทีเอชเอ) เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ”ว่าการเปิด5จังหวัดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่จะเกิดขึ้น เป็นสิ่งที่ภาคเอกชนเฝ้ารอคอย โดยเฉพาะ “กรุงเทพ แซนด์บ็อกซ์” เนื่องจากเป็นเมืองที่มีขนาดเศรษฐกิจที่ใหญ่ ก่อนโควิดกรุงเทพมีนักท่องเที่ยวต่างชาติ 24 ล้านคน ขณะที่ภูเก็ต มีนักท่องเที่ยวต่างชาติ 10 ล้านคน แม้การกลับมาเปิดกรุงเทพฯอีกครั้งเอกชนรู้ดีว่าอาจจะยังไม่มีนักท่องเที่ยวมากมายจากผลกระทบของโควิด

เพราะนักท่องเที่ยวหลักโดยเฉพาะตลาดเอเชีย อย่าง จีน ยังไม่สามารถเดินทางท่องเที่ยวได้ จะมีเดินทางบ้างก็เป็นนักท่องเที่ยวยุโรป แม้อาจจะยังไม่มากนัก แต่ก็เริ่มเห็นความต้องการเดินทางเข้ากรุงเทพฯจากกลุ่มนักธุรกิจต่างชาติ เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น ที่ตอนนี้ติดอยู่ในประเทศแถวแอฟริกาใต้ หรือเอเชียใต้ คนที่ฉีดวัคซีนแล้วก็อยากเข้ามาถ้ากรุงเทพเปิดเมืองโดยไม่กักตัว

ล่าสุดทีเอชเอ ผู้ประกอบการท่องเที่ยว สมาคมค้าปลีก และธุรกิจที่เกี่ยวข้อง ได้ประชุมร่วมกับผู้ว่ากทม. รวมถึงการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และหน่วยงานด้านสาธารณสุข เพื่อเตรียมความพร้อมในการเปิดเมืองแล้ว ถือเป็นสัญญาณที่ดี เพราะการเปิดเมืองย่อมดีกว่าการปิดเมือง เพราะอย่างน้อยธุรกิจจะได้กลับมาทำมาหากินได้บ้าง แต่การเปิดเมืองก็ต้องยืนอยู่บนพื้นฐานของความปลอดภัย เพราะเราต้องอยู่คู่กับโควิดให้ได้ด้วย

จากการหารือการเปิดเมืองจะใช้โมเดลเดียวกับ “ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์” ในส่วนของธุรกิจโรงแรมก็จะเตรียมความพร้อมเพื่อผลักดันให้ธุรกิจเข้ามาตรฐาน SHA+ เพื่อให้สามารถรับนักท่องเที่ยวในพื้นที่แซนด์บ็อกซ์ได้ การแต่งตั้ง SHA MANAGER ดูแลนักท่องเที่ยวที่เข้าพัก การเตรียมเรื่องการตรวจเชื้อRT-PCR จำนวน 3 ครั้งสำหรับนักท่องเที่ยวพำนัก 14 วัน การเตรียมตัวของบุคคลากร ซึ่งปัจจุบันพนักงานในธุรกิจโรงแรมแม้จะเหลืออยู่เพียงครึ่งเดียวก็ยังเพียงพอต่อการบริการ เพราะนักท่องเที่ยวก็ยังคงไม่กลับมาเท่าเดิม การเตรียมเรื่องการให้นักท่องเที่ยวโหลดแอพฯหมอชนะเพื่อติดตามตัวในพื้นที่แซนด์บ็อกซ์ เป็นต้น

นอกจากนี้หากศบค.เห็นชอบให้ลดวันกักตัวจาก 14 วันเหลือ 7 วันก็จะช่วยอย่างมาก แต่ถ้ายังลดวันกักตัวไม่ได้ การเชื่อมโยงการท่องเที่ยวแบบ 7+7 ที่เปิดให้เที่ยวในพื้นที่แซนด์บ็อกซ์ระหว่างกันได้ เช่นอยู่กรุงเทพฯ7วัน ภูเก็ต 7 วัน รวมเป็น 14 วันก็จะช่วยกระตุ้นท่องเที่ยวได้มาก

นายสรเทพ โรจน์พจนารัช ประธานชมรมผู้ประกอบธุรกิจร้านอาหาร เปิดเผยว่าการเปิด Bangkok Sandbox เป็นสิ่งที่ดีที่ต้องจัดเตรียมเอาไว้ แต่หากถามว่าจะเปิดเมื่อไร คำตอบเดียวคือ เมื่อฉีดวัคซีนได้ 70% หากมั่นใจจะกำหนดให้เปิดประเทศในวันที่ 1 ม.ค. 2565 ก็ได้ เชื่อว่าผู้ประกอบการก็ยอมเจ็บ เพราะที่ผ่านมาก็เจ็บมามากแล้ว รอให้ชัวร์แล้วเปิดดีกว่า เพราะก็ไม่อยากให้เกิดการระบาดในระลอก 5 ทำให้ต้องกลับมาล็อกดาวน์อีกครั้ง ซึ่งจะส่งผลกระทบอย่างหนัก

นายภาณุศักดิ์ ซื่อสัตย์บุญ ผู้จัดการทั่วไป เดอะพิซซ่า คอมปะนี บริษัท เดอะ ไมเนอร์ ฟู้ด กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ถ้ายังไม่เปิดก็ต้องใช้เวลา 3- 6 เดือนเพื่อที่จะให้กำลังซื้อกลับมา แต่ถ้าเปิดเมือง เปิดประเทศการฟื้นตัวก็จะเร็วขึ้น ตอนนี้บริษัทก็พยายามที่จะวางแผนธุรกิจล้อไปกับรัฐบาลว่าถ้ารัฐบาลเปิดประเทศ จะต้องทำอะไรบ้าง ถ้ายังไม่เปิดประเทศจะต้องวางแผนรับมืออะไรบ้าง และเห็นว่าเมื่อเปิดเมืองแล้วรัฐบาลควรจะยกเลิกพ.ร.ก.ฉุกเฉิน และหวังว่าครั้งนี้จะเป็นการล็อกดาวน์ครั้งสุดท้ายเพราะว่าการแก้ปัญหาไม่ใช่การปิดๆเปิดๆ แต่สิ่งสำคัญคือ การฉีดวัคซีนให้กับประชาชนให้ครบให้เร็วที่สุด

ข่าวหน้า1หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ วันที่ 26-29 กันยายน 2564