เพ็ญภาค ส่งเครื่องดื่มสมุนไพรพญานาคเปิดตลาดเครื่องดื่มสมุนไพรอัดแก๊ส

นางไปรยา ไทยชาติ ผู้อำนวยการฝ่ายผลิตภัณฑ์และการตลาด บริษัท เพ็ญภาค เบฟเวอเรจ จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทเห็นโอกาสที่จะทำให้ผู้บริโภคสามารถรับประโยชน์จากสมุนไพรไทยในรูปแบบที่ง่าย อร่อย พร้อมได้สุขภาพดี แคลอรี่น้อย มีสารเคมีปรุงแต่งน้อยที่สุด จึงได้คิดค้นเครื่องดื่มสมุนไพรอัดแก๊สเป็นเจ้าแรกในประเทศไทย ที่มาพร้อมสรรพคุณของสมุนไพรแท้ รสชาติดี ดื่มได้ทุกเวลา เพิ่มความกระปรี้กระเปร่าด้วยคาร์บอเนต และมีส่วนผสมของกัวราน่า ที่เป็นคาเฟอีนธรรมชาติ ถือเป็นเครื่องดื่มสมุนไพรชูกำลังที่มีความแตกต่างจากเครื่องดื่มทั่วๆ ไปในตลาด

อาทิเครื่องดื่มสมุนไพรพญานาค “พลังกระชายดำ” มีส่วนผสมของกระชายดำ ดอกคำฝอย อบเชยมะขามป้อม ชะเอม 

โดยเริ่มวางจำหน่ายครั้งแรกเมื่อเดือนสิงหาคมปี 2561 กลุ่มเป้าหมายเป็น ผู้ชาย 70% และผู้หญิง 30% โดยแบ่งสัดส่วนตามลักษณะของการทำงาน ได้แก่  50% กลุ่มคนทำงานที่ต้องใช้แรงกายเป็นหลัก 30% กลุ่มคนที่ทำงานที่บ้านหรือทำงานอิสระ เช่น ฟรีแลนซ์ นักดนตรี ขายของออนไลน์ และอีก 20% คือ กลุ่มคนที่ใช้แรงในการทำกิจกรรมยามว่างนอกเหนือจากการทำงาน

ซึ่งได้เสียงตอบรับเป็นอย่างดีจากผู้บริโภคมาโดยตลอด ยอดขายเติบโตอย่างเนื่องผ่านช่องทาง Traditional Trade, Modern Trade และ Online รับกระแสที่คนหันมาใส่ใจสุขภาพมากขึ้นจนเป็นเมกะเทรนด์ของโลก โดยเฉพาะในช่วงการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยปัจจุบันมีกิจกรรมส่งเสริมการตลาดผ่านโปรแกรมสะสมเลขใต้ฝา “แต้มพญานาค” ที่ Line Official Account : @pharyanak เพื่อแลกของรางวัล และลุ้นรางวัลใหญ่ ฯลฯ

นอกจากเครื่องดื่มสมุนไพรพญานาค “พลังกระชายดำ” แล้ว บริษัทฯ ยังวางจำหน่ายเครื่องดื่มสมุนไพรพญานาค พร้อมท์ ที่แตกต่างด้วยชนิดสมุนไพร รสชาติ และกลิ่น แต่จัดเต็มสรรพคุณจากสมุนไพรสกัด 3 ชนิด ได้แก่ ถั่งเช่า กระชายดำ ตังกุย ที่เน้นการบำรุงร่างกายให้แข็งแรงทั้งสองรสชาติมีวางจำหน่ายที่ 7-11 ทุกสาขาและซูเปอร์มาร์เก็ตทั่วประเทศ ส่วนตลาดต่างประเทศ ปัจจุบันมีจำหน่ายในประเทศ CLMV ได้แก่ กัมพูชา ลาว พม่า และเวียดนาม รวมถึงรัสเซีย

ล่าสุดเครื่องดื่มสมุนไพรพญานาค “พลังกระชายดำ” (ขวดสีขาว) ยังได้รับรางวัล Superior Taste Award 2ดาว ประจำปี 2021 จาก International Taste Institute สถาบันประเมินผลและรับรองรสชาติอาหารและเครื่องดื่มระดับโลก ประเทศเบลเยี่ยม การันตีรสชาติความอร่อยโดยคณะกรรมการที่มากด้วยประสบการณ์และความสามารถในการชิมรสชาติกว่า 200 คน รวมถึงเชฟและซอมเมอลิเยร์จากร้านอาหารติดดาวมิชลินมากกว่า 20 ประเทศในยุโรปอีกด้วย