สมาคมภัตตาคารไทยชง“รัฐบาล”คลายล็อกดาวน์ให้คนฉีดวัคซีนนั่งทานในร้านได้

24 ส.ค. 2564 | 11:10 น.
อัปเดตล่าสุด :24 ส.ค. 2564 | 18:49 น.

สมาคมภัตตาคารไทย ร้อง “อนุทิน” ชงข้อเสนอมาตรการการจัดการร้านอาหารภายใต้โควิด-19 หวังคลาย ล็อกดาวน์ก.ย.นี้เปิดให้บริการนั่งทานในร้านได้ ระยะที่ 1 โดยจัดบับเบิลแอนด์ซีลสำหรับพนักงาน สถานประกอบการต้องผ่านมาตรฐาน SHA+ ให้ลูกค้าที่ฉีดวัคซีนครบโดสนั่งทานในร้านได้

นางฐนิวรรณ กุลมงคล นายกสมาคมภัตตาคารไทย เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ”ว่า ล่าสุดวันนี้ 24 สิงหาคม 2564) ทางสมาคมภัตตาคารไทย ได้ทำหนังสือถึงนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เพื่อยื่นข้อเสนอมาตรการการจัดการร้านอาหารภายใต้สถานการณ์แพร่ระบาดวิด-19 เพื่อให้สามารถเปิดให้บริการนั่งรับประทานในร้านได้ ระยะที่ 1

 

โดยระบุว่าตามที่ศบค.ได้มีประกาศข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (ฉบับที่ 25,26,27,28,29 และ30) ได้ส่งผลกระทบอย่างหนักต่อผู้ประกอบการร้านอาหารในพื้นที่ประกาศข้อกำหนดมีผลบังคับใช้ โดยในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดซึ่งห้ามนั่งรับประทานในร้าน มีผู้ประกอบการจำนวนมากต้องปิดกิจการลง หรืออีกกำลังจะมีการปิดกิจการตามมาอีกหากสถานการณ์ยังเป็นอยู่อย่างนี้ต่อไป

ฐนิวรรณ  กุลมงคล

 

เนื่องจากรายได้หลักสำคัญของร้านอาหารมากกว่า 80% มาจากการให้บริการรับประทานในร้าน อีกทั้งร้านอาหารยังประกอบไปด้วยห่วงโซ่อุปทานที่เกี่ยวข้องกับร้านอาหาร (Supply Chain) อาทิ เกษตรกร ผู้ผลิต ผู้ขาย ข้าว พืช ผัก เนื้อสัตว์ อีกเป็นจำนวนมาก และร้านอาหารยังเป็นแหล่งสร้างงาน สร้างรายได้ ที่สำคัญให้กับรัฐ ซึ่งต่างก็ได้รับผลกระทบเป็นวัฏจักรเป็นความเสียหายทั้งต่อเศรษฐกิจและสังคม

 

ที่ผ่านมามีข้อเท็จจริงที่ปรากฏชัดเจนโดยทั่วกันว่า ร้านอาหารไม่ใช่แหล่งแพร่กระจายเชื้อไวรัสโควิด-19 แต่แหล่งแพร่เชื้อสำคัญ ณ เวลานี้มาจากโรงงาน ไซต์คนงานก่อสร้าง ตลอดจนสถานที่อื่น ๆ ที่ไม่ได้มีการจัดการตามเกณฑ์มาตรฐานด้านสาธารณสุข ซึ่งต่างจากร้านอาหารที่ตลอดระยะเวลาแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 มีการจัดการตามด้านสาธารณสุขตามมาตรฐานที่ศบค.กำหนดเป็นอย่างดี

 

หากกระทรวงสาธารณสุข และ ศบค.ได้มีการผ่อนคลายการปฏิบัติให้กลุ่มร้านอาหาร ร้านเครื่องดื่ม ดังเช่นได้มีการผ่อนคลายการปฏิบัติให้กลุ่มโรงงาน กลุ่มก่อสร้าง เพื่อให้ร้านอาหารในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดได้กลับมาเปิดให้บริการนั่งรับประทานในร้านได้อีกครั้งโดยเร็ว จะเป็นการช่วยฟื้นฟูให้กิจการร้านอาหารให้ผ่านพ้นวิกฤตไปได้คงการจ้างงาน ขับเคลื่อนระบบห่วงโซ่อุปทานที่เกี่ยวข้องกับร้านอาหาร (Supply Chain)โดยที่รัฐไม่ต้องใช้งบประมาณมาช่วยเหลือ

ดังนั้น สมาคมภัตตาคารไทยในฐานะตัวแทนผู้ประกอบการภัตตาคาร ร้านอาหาร ร้านเครื่องดื่ม จึงได้จัดทำมาตรการจัดการจัดการร้านอาหารภายใต้สถานการณ์แพร่ระบาดวิด-19 เพื่อให้สามารถเปิดให้บริการนั่งรับประทานในร้านได้ ระยะที่ 1 มานำเสนอแก่ท่านรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และคณะแพทย์ที่เกี่ยวข้องได้พิจารณา เพื่อสร้างความมั่นใจว่า ภายใต้มาตรการดังกล่าวนี้ร้านอาหารจะเป็นสถานที่มีความปลอดภัยสูงต่อการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 ข้อเสนอรายละเอียดมาตรการ ข้อพื้นฐานสำคัญและจำเป็น สถานประกอบการด้านอาหารและเครื่องดื่มจะต้องมีสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยสำหรับลูกค้าและพนักงาน

 

ทั้งนี้ให้สอดคล้องกับ มาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัยในสถานประกอบการ ประเภท ภัตตาคาร ร้านอาหาร สตรีทฟู้ด (SHA+) และเป็นไปตามมาตรฐานที่กรมอนามัยสธ. และ ศบค. กำหนด โดยแยกย่อยการจัดการออกเป็น 3 ส่วน ดังนี้

สมาคมภัตตาคารไทยชง“รัฐบาล”คลายล็อกดาวน์ให้คนฉีดวัคซีนนั่งทานในร้านได้

 

ส่วนที่ 1 มาตรการสำหรับพนักงานภายในร้าน

 

จัดให้มีมาตรการบับเบิลแอนด์ซีล (Bubble and Seal) ภายในสถานประกอบการ โดยให้พนักงานทำงานประจำตำแหน่ง และพื้นที่ความรับผิดชอบเท่านั้น ห้ามอยู่มั่วสุมข้ามแผนก ข้ามพื้นที่ปฏิบัติงานที่กำหนดไว้ เช่น พนักงานแผนกครัวห้ามออกมาหน้าร้าน และห้ามสุงสิงกับพนักงานแผนกอื่น ๆ เป็นต้น เพื่อป้องกันการแพร่กระจายเชื้อ และหากมีการติดเชื้อจะสามารถควบคุมการแพร่ระบาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลงบันทึกการเข้างานทุกคน และลงบันทึก Timelineแบบละเอียดทั้งในและนอกเวลาทำงาน

 

พนักงานที่จะปฏิบัติหน้าที่ได้จะต้องผ่านการฉีดวัคซีนตามชนิด และจำนวนที่ศบค.กำหนดไว้ โดยขอให้สาธารณสุขจัดสรรโควตาวัคซีนให้กับกลุ่มบุคลากรร้านอาหาร เนื่องจากเป็นกลุ่มเสี่ยงที่มีความเกี่ยวข้องต่อความปลอดภัยของบุคคลอื่น ๆ กำหนดให้มีการตรวจ ATK สัปดาห์ละ 1 ครั้ง โดยขอให้สาธารณสุขจัดหาชุดตรวจในราคาพิเศษไม่เกิน 100 บาทให้กับกลุ่มสถานประกอบการร้านอาหาร พนักงานทุกคนจะต้องสวมอุปกรณ์ป้องกัน หน้ากากอนามัย Face Shield หมวกอนามัย ถุงมือตลอดเวลาปฏิบัติงาน

 

มีแอลกอฮอล์ฆ่าเชื้อติดตัวเตรียมพร้อมใช้งานตลอดเวลาล้างมือทั้ง 2 ข้างตาม 7 ขั้นตอนด้วยสบู่ หรือ แอลกอฮอล์ ก่อนปฏิบัติงานทุกครั้งก่อนเสิร์ฟอาหาร ก่อน-หลังเก็บจาน ต้องทำความสะอาดมือด้วยแอลกอฮอล์ทุกครั้ง งดรับประทานอาหารนอกร้านให้รับประทานอาหารภายในร้าน พื้นที่ที่กำหนด

 

ในกรณีที่มีผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 ในสถานประกอบการ ให้ปฏิบัติตามระเบียบขั้นตอนปฏิบัติออกโดยกระทรวงสาธารณสุข ศบค.และ กทม. อย่างเคร่งครัด หากปรากฏว่าร้านอยู่ใน Timeline ผู้ติดเชื้อมาใช้บริการให้ปฏิบัติตามระเบียบขั้นตอนปฏิบัติออกโดยกระทรวงสาธารณสุขและศบค. อย่างเคร่งครัด

 

ด้วยมาตรการดังกล่าวนี้ จะช่วยสร้างความปลอดภัยต่อทั้งบุคคลากรของร้านและผู้มาใช้บริการ และสร้างความเชื่อมั่นให้กับฝ่ายคณะแพทย์ได้ว่า ร้านอาหารจะเป็นสถานที่ปลอดภัยไม่เป็นแหล่งแพร่กระจายไวรัสโควิด-19 ซึ่งหากร้านอาหารในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดกลับมาให้บริการนั่งรับประทานในร้านได้โดยเร็ว จะลดความสูญเสียต่อเศรษฐกิจและสังคมอันเป็นผลจากการต้องปิดกิจการของร้านอาหารจำนวนมาก

 

หรือหากทางกระทรวงสาธารณสุขโดยท่านรัฐมนตรีและคณะแพทย์จะมีข้อเสนอมาตรการเพิ่มเติมใด ๆ เพื่อให้ร้านได้กลับมาเปิดให้บริการนั่งในร้านได้โดยเร็วทางผู้ประกอบการร้านอาหารก็พร้อมให้ความร่วมมือเหมือนเช่นที่เราให้ความร่วมมือด้วยดีตลอดมา

 

ส่วนที่ 2 มาตรการความปลอดภัยและความสะอาดภายในร้าน

 

ต้องเป็นสถานที่ประกอบการที่ผ่านมาตรฐาน SHA+ ผ่านการประเมิน Thai Stop Covid Plus โดยกรมอนามัย และหรือสถานประกอบการที่เป็นไปตามมาตรฐานที่กรมอนามัยสธ. และ ศบค. กำหนด เป็นสถานประกอบการที่มีการระบายอากาศได้ดีจัดที่นั่งไม่เกิน 50% ของพื้นที่นั่งร้าน และเว้นระยะห่างระหว่างที่นั่งขั้นต่ำ 1.5 เมตรทุกที่นั่งต้องมีฉากกั้นระหว่างกัน มีมาตรการทำความสะอาดฆ่าเชื้อทุก 2 ชั่วโมง ทุกครั้งที่ลูกค้าลุกออกจากร้านต้องมีการทำความสะอาดเช็ดโต๊ะ เก้าอี้ ฉากกั้น และบริเวณพื้นด้วยแอลกอฮอล์ใช้เครื่องดูดฝุ่นแทนการกวาดพื้นเพื่อป้องกันการแพร่กระจายของฝุ่นละออง อุปกรณ์ ภาชนะ เครื่องใช้ทุกชนิด

สมาคมภัตตาคารไทยชง“รัฐบาล”คลายล็อกดาวน์ให้คนฉีดวัคซีนนั่งทานในร้านได้

 

ต้องมีมาตรการล้างทำความสะอาด ฆ่าเชื้อทุกครั้งเมื่อใช้เสร็จ ภายในครัวต้องมีการทำความสะอาดฆ่าเชื้อด้วยแอลกอฮอล์ Food Grade และพนักงานในแผนกครัวต้องหน้ากากอนามัย Face Shield หมวกอนามัย ถุงมือตลอดเวลาปฏิบัติงานกำหนดจุดตั้งแอลกอฮอล์ฆ่าเชื้อตามจุดต่าง ๆ ในร้าน เพื่อให้ลูกค้าใช้ทำความสะอาด

ส่วนที่ 3 มาตรการสำหรับลูกค้า

 

อนุญาตให้นั่งรับประทานอาหารในกลุ่มได้สูงสุด 2 คน ยกเว้นกรณีทีมาในครอบครัวเดียวกัน ทั้งนี้ ไม่เกิน 5 คน ทั้งนี้ ก็ต่อเมื่อลูกค้าทั้งหมดมีคุณสมบัติตรงตามเกณฑ์ใด ๆ ต่อไปนี้อนุญาตให้นั่งรับประทานอาหารในกลุ่มได้สูงสุด 2 คน ยกเว้นกรณีที่มาในครอบครัวเดียวกัน ทั้งนี้ ไม่เกิน 5 คน ทั้งนี้ ก็ต่อเมื่อลูกค้าทั้งหมดมีคุณสมบัติตรงตามเกณฑ์ใด ๆ ต่อไปนี้

 

ก. ได้รับการฉีดวัคซีนชนิดและจำนวน ครบตามจำนวนที่ศบค.กำหนด

 

ข. หายจากโรคโควิด-19 และแสดงผลการทดสอบเป็นลบ ก่อนเข้ารับประทานในร้าน

 

ค. บุตรอายุไม่เกิน 16 ปี

 

ในกรณีที่ไม่สามารถตรวจสอบสถานะลูกค้าว่ามีคุณสมบัติตรงตามข้อ 3.1 หรือไม่ให้ดำเนินการบริการซื้อกลับบ้านแก่ลูกค้าท่านนั้น นำระบบจองคิวใช้บริการล่วงหน้ามาใช้ เพื่อลดการรับลูกค้าวอล์คอินให้น้อยที่สุดลูกค้าที่มาใช้บริการนั่งรับประทานภายในร้านทุกคนจะต้องลงทะเบียนก่อนเข้าร้าน และลงทะเบียนออกจากร้านผ่านแอปไทยชนะ โดยมีพนักงานค่อยแจ้งเตือนให้ลูกค้าลงทะเบียนทุกครั้ง

 

อนุญาตให้ร้านอาหาร ร้านเครื่องดื่มที่เป็นพื้นที่เปิดโล่งและมีอากาศถ่ายเทสะดวกตามธรรมชาติ สามารถให้บริการลูกค้าที่ได้รับวัคซีนและไม่ได้รับวัคซีนได้ โดยให้นั่งรับประทานได้โต๊ะละไม่เกิน 2 คน และโต๊ะต้องมีฉากกั้น มาการเว้นระยะห่างขั้นต่ำ 1.5 เมตร กำหนดจุดพักคอยใช้บริการภายใต้มาตรการเว้นระยะห่างมีมาตรการตรวจคัดกรองอุณหภูมิและฉีดพ่นแอลกอฮอล์ Food Grade ฆ่าเชื้อก่อนเข้าใช้บริการ

สมาคมภัตตาคารไทยชง“รัฐบาล”คลายล็อกดาวน์ให้คนฉีดวัคซีนนั่งทานในร้านได้

 

กรณีร้านแบบบุฟเฟ่ต์ งดเดินตักอาหาร งดสัมผัสอุปกรณ์ในร้าน โดยให้มีพนักงานค่อยให้บริการ กำหนดระยะเวลาใช้บริการ สำหรับร้านตามอาหารตามสั่ง คาเฟ่ และร้านอาหารทั่วไปไม่เกิน 1 ชั่วโมง และ สำหรับร้านประเภทบุฟเฟ่ต์ไม่เกิน 2 ชั่วโมง ลูกค้าต้องสวมหน้ากากอนามัยภายในร้านตลอดเวลา ยกเว้นขณะรับประทานอาหาร อุปกรณ์ทานอาหาร ช้อน ส้อม ตะเกียบ แก้วน้ำ ทิชชู่ ไม้จิ้มฟัน จัดใส่ในถุงแยกเป็นชุด ๆ สำหรับลูกค้าต่อคน งดให้ลูกค้าตักน้ำแข็ง บริการน้ำดื่มด้วยตัวเอง ห้ามใช้สิ่งอำนวยความสะดวกส่วนกลางสำหรับบริการตนเอง เช่น เครื่องปรุงรส

 

ขณะสั่งอาหารต้องอยู่ภายใต้มาตรการเว้นระยะห่าง ห้ามจำหน่าย และโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ภายในร้านในลักษณะการจัดกิจกรรมบันเทิง รื่นเริง หรือรวมกลุ่มสังสรรค์ ซึ่งรวมถึงการบริโภคที่บริเวณกลางแจ้ง และ/หรือโต๊ะ/เก้าอี้ ที่สถานประกอบการดังกล่าวเป็นผู้ดูแล และปิดให้บริการเวลา 23.00 น.

 

ทั้งนี้ข้อเสนอดังกล่าวทางสมาคมภัตตาคารไทย หวังว่าทางกระทรวงสาธารณสุขจะพิจารณา เพื่อให้เกิด การคลายล็อค หรือผ่อนปรนให้สามารถนั่งรับประทานอาหารในร้านด้วยมาตรการดังกล่าวที่ได้นำเสนอ ในระยะเวลาต้นเดือนกันยายน ศกนี้ หรือโดยด่วนที่สุด เพื่อลดผลกระทบของธุรกิจที่เกิดขึ้น