เซ็นทรัล รีเทล โชว์ผลประกอบการQ2 โต 12%

14 ส.ค. 2564 | 17:32 น.
อัปเดตล่าสุด :15 ส.ค. 2564 | 00:38 น.

เซ็นทรัล รีเทล โชว์ผลประกอบการไตรมาส 2 กว่า 4.63 หมื่นล้านบาท เติบโต 12%  เผยนิวไฮทั้งกลุ่มฮาร์ดไลน์ – ออมนิแชนนอล

นายญนน์ โภคทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือเซ็นทรัล รีเทล เปิดเผยว่า เซ็นทรัล รีเทล ยังคงเดินหน้าธุรกิจต่อไปอย่างแข็งแกร่งท่ามกลางวิกฤตโควิด-19 ที่รวมเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในแผนการทำธุรกิจในปัจจุบัน

 

โดยมุ่งเน้นกลยุทธ์เชิงรุก เพื่อการเติบโตอย่างมั่นคงในระยะยาว พร้อมทั้งปรับโมเดลธุรกิจและพอร์ตโฟลิโอให้มีความยืดหยุ่น สอดคล้องตามเทรนด์ตลาด และความต้องการของผู้บริโภค ทำให้ธุรกิจออมนิแชนแนล และกลุ่มฮาร์ดไลน์เติบโตสูงเป็นนิวไฮ

ญนน์ โภคทรัพย์

จนสามารถสร้างรายได้และกำไรสูงสุดเป็นประวัติการณ์ พร้อมทั้งดันผลประกอบการในไตรมาสที่ 2 ปี 2564 ของเซ็นทรัล รีเทล เติบโตขึ้น โดยมีรายได้รวม  46,376 ล้านบาท (+12% YoY) EBITDA  4,088 ล้านบาท (+218% YoY)  และขาดทุนสุทธิลดลงเหลือ 426 ล้านบาท (+83% YoY)

 

สำหรับนิวไฮของธุรกิจเซ็นทรัล รีเทล ในไตรมาสที่ 2 ปี 2564 ประกอบด้วย

 

1. การเติบโตอย่างมีศักยภาพของธุรกิจฮาร์ดไลน์ ที่นับได้ว่าแข็งแกร่งที่สุดตั้งแต่มีการก่อตั้ง เซ็นทรัล รีเทล มา โดยเติบโตเป็นอันดับหนึ่งจากทุกกลุ่มทั้งด้านรายได้รวม EBITDA และกำไรสุทธิ ทั้งยังมีสัดส่วนยอดขายเพิ่มสูงขึ้นจาก 32% เป็น 39% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีก่อน ซึ่งเป็นผลมาจากการทำตามกลยุทธ์เชิงรุกที่ได้ตั้งเอาไว้

 

ไม่ว่าจะเป็นการควบรวม บมจ.ซีโอแอล (COL) ที่ทำให้ธุรกิจฮาร์ดไลน์สามารถขยายตัวได้อย่างรวดเร็ว และขยายฐานลูกค้าไปสู่กลุ่ม B2B รวมถึงการขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่องของไทวัสดุ ซึ่งได้เปิดให้บริการไปแล้ว 4 สาขาในปีนี้ และจะเปิดเพิ่มอีก 1 สาขาภายในสิ้นปี นอกจากนี้ยังเตรียมแผนที่จะขยายไทวัสดุไปยังประเทศเวียดนามอีกด้วย

เซ็นทรัล รีเทล โชว์ผลประกอบการQ2 โต 12%

2. การเพิ่มช่องทางการขายใหม่ ๆ ของแพลตฟอร์มออมนิแชนแนล อาทิ บริการ Personal Shopper ผู้ช่วยช้อปส่วนตัวสำหรับลูกค้าทุกคน ครอบคลุมทุกกลุ่มธุรกิจ ตั้งแต่ห้างสรรพสินค้า ไปจนถึงซูเปอร์มาร์เก็ต, การเพิ่มจำนวนสาขาของท็อปส์ที่ให้บริการควิกคอมเมิร์ซ และการเปิดตัวแอปพลิเคชัน GO! ของธุรกิจฟู้ดในประเทศเวียดนาม

 

นอกจากนี้ยังเห็นความสำเร็จของ CENTRAL App ซูเปอร์แอปพลิเคชันที่เป็น One-stop Shopping รวมสินค้าในเครือเซ็นทรัล รีเทล ครบจบในที่เดียว ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ พร้อมบริการช้อปส่งไวถึงมือภายใน 3 ชั่วโมง โดยปัจจุบัน CENTRAL App มียอดดาวน์โหลดแล้วกว่า 2.7 ล้านดาวน์โหลด ซึ่งเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดจากการเปิดตัวครั้งแรกในเดือนธันวาคม 2563

 

3. การขยายธุรกิจ Property มีการขยาย ปรับปรุง และเปลี่ยนโฉมสาขาอย่างต่อเนื่องตามแผนที่วางไว้ โดยในประเทศเวียดนาม ได้เปิดศูนย์การค้า GO! สาขาท้ายเหงียนในเดือนเมษายน และยังเตรียมเปิด GO! สาขาใหม่อีก 2 แห่ง ภายในไตรมาสที่ 3 ปี 2564 นี้

 

“ผลการดำเนินงานในไตรมาสที่ 2 คือเครื่องพิสูจน์ให้เห็นถึงกลยุทธ์เชิงรุกในการดำเนินธุรกิจและการบริหารความเสี่ยงที่มีประสิทธิภาพ โดยในครึ่งปีหลังเราจะยังคงเน้นการเติบโตและการขยายธุรกิจผ่านการลงทุน การควบรวม และการทำงานร่วมกับพาร์ทเนอร์ใหม่ๆ ควบคู่ไปกับการให้ความร่วมมือกับภาครัฐในการจัดการวิกฤตโควิด-19 

เซ็นทรัล รีเทล โชว์ผลประกอบการQ2 โต 12%

และมีมาตรการดูแลผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่ายอย่างต่อเนื่อง ทั้งพนักงาน, ลูกค้า, คู่ค้า, ผู้ถือหุ้น และชุมชน ตลอดจนยกระดับมาตรฐานด้านสาธารณสุขในการให้บริการอย่างเคร่งครัด ทำให้เราเชื่อมั่นว่าเมื่อประเทศไทยสามารถเปิดประเทศ และเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัว เซ็นทรัล รีเทล จะเป็นรายแรก ๆ ที่สามารถกลับมาเติบโตได้อย่างก้าวกระโดดและแข็งแกร่งยิ่งกว่าเดิม”