อภ.ลุยเพิ่มผลิตยาฟาวิพิราเวียร์ต้านโควิด 40 ล้านเม็ดต่อเดือน เริ่ม ต.ค.นี้

08 ส.ค. 2564 | 15:41 น.
อัปเดตล่าสุด :09 ส.ค. 2564 | 00:14 น.
871

องค์การเภสัชกรรมจับมือบริษัทผู้ผลิตยาในประเทศ เพิ่มกำลังการผลิตยารักษา 7 โรคเรื้อรัง ให้มีใช้ต่อเนื่องช่วงโควิดระบาดหนัก โชว์แผนเพิ่มผลิตยาฟาวิพิราเวียร์เป็น 40 ล้านเม็ดต่อเดือนต้านเชื้อโควิด ตั้งแต่ ต.ค.นี้เป็นต้นไป

 

นายแพทย์วิฑูรย์ ด่านวิบูลย์ ผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรม (อภ.) กล่าวว่า  จากการที่องค์การฯได้ทำการปรับแผนการผลิตยาฟาวิพิราเวียร์(ยาฟาเวียร์) ให้เพิ่มขึ้น ประกอบกับในช่วงนี้พบว่าความต้องการใช้ยารักษากลุ่มโรคเรื้อรังเพิ่มขึ้นมากกว่าปกติที่ได้วางแผนไว้ ทำให้มีผลกระทบต่อสายการกำลังการผลิตยารักษาโรคเรื้อรัง ที่องค์การฯผลิตอยู่ เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม ที่ผ่าน จึงได้จัดประชุมวางแผนการผลิตยาของประเทศในสถานการณ์ระบาดโควิด-19 โดยมีสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา(กองยา) องค์การเภสัชกรรม โรงงานเภสัชกรรมทหาร สภากาชาดไทย และสมาคมไทยอุตสาหกรรมผลิตยาแผนปัจจุบัน (TPMA)  ร่วมประชุมด้วย เพื่อวางแผนและจัดสรรกำลังการผลิตยาในภาพรวมให้เหมาะสมและเพียงพอต่อความต้องการของประเทศ

 

โดยในส่วนขององค์การฯ เห็นว่าเพื่อให้ผู้ป่วยโรคเรื้อรังมียาใช้เพียงพอ อย่างต่อเนื่อง จึงได้ขอความร่วมมือจากสมาคมไทยอุตสาหกรรมผลิตยาแผนปัจจุบัน ซึ่งดูแลบริษัทผู้ผลิตยาเอกชนในประเทศ ร่วมดำเนินการผลิตยารักษาโรคเรื้อรังจำนวน 7 รายการ  ประกอบด้วย  1.ยาซิมวาสแตติน (Simvastatin) ใช้ลดระดับคลอเรสเตอรอลชนิดไม่ดีและไตรกลีเซอไรด์ในหลอดเลือด 2.ยาเมทฟอร์มิน (Metformin) ยาใช้รักษาโรคเบาหวาน

 

3.ยาลอซาร์แทน (Losartan) ใช้ลดความดันโลหิตที่ออกฤทธิ์ทำให้หลอดเลือดขยายตัว  4.ยาโพรพาโนลอล (Propanolol)ใช้รักษาโรคความดันโลหิตสูง  5.วิตามินB1 6 12    6.ยากรดโฟลิก (Folic acid) รักษาภาวะโลหิตจางจากเม็ดเลือดแดง และภาวะขาดกรดโฟลิก  7.ยาฟลูออกซิทีน รักษาโรคซึมเศร้า (Fluoxetine)  และยาลอราตาดีน (Loratadine) รักษาภูมิแพ้ ซึ่งปัจจุบันองค์การฯไม่ได้ผลิตแล้ว  

 

ทั้งนี้ยา 7 รายการในข้างต้นองค์การฯยังคงมีการผลิตและสำรองให้ผู้ป่วยในช่วงเปลี่ยนผ่านนี้ และองค์การฯได้ขอความร่วมมือให้ บริษัทผู้ผลิตยาเอกชนอื่น ๆ ซึ่งมีทะเบียนตำรับยาดังกล่าวอยู่ ดำเนินการผลิตเพิ่มขึ้น ซึ่งจากการประชุม สมาคมไทยอุตสาหกรรมผลิตยาแผนปัจจุบันยินดีที่จะนำไปวางแผนร่วมกับบริษัทผลิตยาเอกชนอื่น ๆ เพื่อเร่งทำการผลิตต่อไป

 

นอกจากนี้ยังพบว่าขณะนี้มีบริษัทผู้ผลิตยาในประเทศบางบริษัทได้เริ่มทำการวิจัยพัฒนายาฟาวิพิราเวียร์ ขึ้นมาบ้างแล้ว  ซึ่งสิ่งที่เป็นน่ายินดีที่จะทำให้ประเทศไทยมีความมั่นคงในส่วนยาฟาวิพิราเวียร์เพิ่มมากขึ้น

 

อภ.ลุยเพิ่มผลิตยาฟาวิพิราเวียร์ต้านโควิด 40 ล้านเม็ดต่อเดือน เริ่ม ต.ค.นี้

 

แผนการผลิตยาฟาวิพิราเวียร (ยาฟาเวียร์) ขององค์การเภสัชกรรม ในเดือนสิงหาคม จำนวน2.5 ล้านเม็ด กันยายนผลิตเพิ่มเป็น 23 ล้านเม็ด และตั้งแต่เดือนตุลาคมเป็นต้นไป จะผลิตเพิ่มเป็นไม่น้อยกว่า 40 ล้านต่อเดือน ซึ่งจะมีการบริหารจัดการและการสำรองยาฟาวิพิราเวียร์ ทั้งจากการนำเข้าจากต่างประเทศและผลิตเอง ให้เพียงพอสอดคล้องกับสถานการณ์ของการระบาดของโรคโควิด 19 ของประเทศ”

 

ดร.ภญ.มุกดาวรรณ  ประกอบไวทยกิจ

 

 ดร.ภญ.มุกดาวรรณ ประกอบไวทยกิจ รองผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรม กล่าวต่อไปว่า อภ. ไม่ได้นิ่งนอนใจต่อสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 และได้มีการวางแผนการผลิตยาในส่วนของยาอื่น ๆ อย่างต่อเนื่อง และอภ.ยังคงยืนหยัดที่จะทำหน้าที่ด้วยความมุ่งมั่น ทุ่มเท ดำเนินการในทุกภารกิจทั้งด้านยา วัคซีน และเวชภัณฑ์ ให้กับพี่น้องประชาชน และขอขอบคุณทุกภาคส่วนที่ได้ร่วมกันแสดงศักยภาพโดยมุ่งหวังให้ประเทศไทยผ่านพ้นวิกฤตินี้ไปได้