ท่องเที่ยวเยียวยา"แหม่มสวิส"1ล้าน เร่งเดินแผนเรียกความเชื่อมั่น

06 ส.ค. 2564 | 13:35 น.
อัปเดตล่าสุด :06 ส.ค. 2564 | 22:58 น.

“พิพัฒน์”เสียใจคดี “ฆ่าแหม่มสวิส” เร่งเยียวยา 1 ล้านบาท ชี้กระทบ “ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์”ด่างพร้อย เร่งบูรณาการฝ่ายความมั่นใจ รัฐ-เอกชน เรียกความเชื่อมั่นนักท่องเที่ยว พร้อมเดินหน้าเปิดโครงการท่องเที่ยวเชื่อมโยงภูเก็ต7+7 วันที่22 สิงหาคมนี้

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่าจากกรณีนักท่องเที่ยวชาวสวิสถูกฆ่าที่จังหวัดภูเก็ต ผมรู้สึกเสียใจมากๆกับเหตการณ์ที่เกิดขึ้น ในฐานะที่เราเป็นคนเชิญชวนนักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยว และมองว่าเหตุการณ์นี้ไม่ควรเกิดขึ้นสำหรับภาวะปัจจุบันที่เราเปิด “ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์

 

โครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์มีหลายประเทศจับตาดูว่าเราจะเดินได้ขนาดไหน เดินอย่างไร ถ้าเราประสบความสำเร็จ หลายประเทศก็จะเรียนแบบเพื่อนำไปเปิดแซนด์บ็อกซ์ของเขา แต่ถ้าเราไม่ประสบความสำเร็จ เขาก็จะเอาสิ่งที่ไม่ประสบความสำเร็จของเรา ไปแก้ไขเพื่อเปิดรับนักท่องเที่ยว ซึ่งทุกภูมิภาคจับตาดูเราอยู่และคิดว่าภูเก็ตเดินมาดีแล้ว

พิพัฒน์ รัชกิจประการ

 

สำหรับเหตุการณ์เสียชีวิตของนักท่องเที่ยวที่เกิดขึ้น ผมได้นำเรียนนายกรัฐมนตรีตั้งแต่ช่วงบ่าย3โมงเมื่อวานนี้ และท่านได้กำชับให้ผมและผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ลงมาทำงานกับภูเก็ต ซึ่งถือว่าท่านสั่งการโดยตรง

 

ในช่วงบ่ายของวันนี้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องทั้งหมดทั้งภาครัฐและเอกชนจะมีการประชุมร่วมกัน ซึ่งทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จะเข้ามาคลี่คลายคดีนี้

ในส่วนของกระทรวงการท่องเที่ยว เราก็จะดำเนินการเยียวยาผู้เสียชีวิตชาวต่างชาติ ซึ่งจะดูแลเรื่องค่าใช้จ่ายของญาติผู้เสียชีวิตที่จะเดินทางมาไทย การส่งร่างกลับประเทศ โดยทางสำนักปลัดกระทรวงท่องเที่ยว มีกองทุนเยียวยาสูงสุดไม่เกิน 1 ล้านบาท ซึ่งเราให้อัตราสูงสุด

 

ตอนนี้ผมยังไม่ได้รับรายงานจากญาติของผู้เสียชีวิต แต่ก็จะต้องมีการประสานงานต่อไปซึ่งทางกระทรวงการต่างประเทศ ได้ประสานไปยังสถานทูตสวิสเซอร์แลนด์เพื่อแสดงความเสียใจแล้วตั้งแต่เกิดเหตุการณ์

 

ทั้งสิ่งสำคัญคือการร่วมบูรณาการกับทุกภาคส่วน เพื่อสรุปปัญหาที่เกิดขึ้นต่อกรณีนี้ ที่ส่งผลกระทบต่อโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ด้วย เพราะเป็นสภาพความมั่นใจของนักท่องเที่ยว เราจะทำให้ดีสุด กำชับขอความร่วมมือจากฝ่ายความมั่นคง ไม่ว่าตำรวจ ทหาร จังหวัด ป้องกันไม่เกิดเหตุซ้ำซ้อนของภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ขึ้นมาอีก

ท่องเที่ยวเยียวยา\"แหม่มสวิส\"1ล้าน เร่งเดินแผนเรียกความเชื่อมั่น

โดยสิ่งแรกที่ต้องทำคือการเรียกความเชื่อมั่นให้แก่นักท่องเที่ยว ซึ่งผบ.ตร.จะนำทีมร่วมกันหาตัวคนร้ายที่ทำร้ายนักท่องเที่ยว ซึ่งนักท่องเที่ยวชาวสวิสท่านนี้เดินทางเข้ามาในโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ตั้งแต่วันที่ 13-27 กรกฏาคม2564 เมื่อครบกำหนด 14 วันก็เดินทางต่อไปเที่ยวกระบี่ และเดินทางกลับมาที่ภูเก็ตในวันที่ 31 ก.ค. และวันที่3 ส.ค.ก็หายตัวไป

 

ทางตำรวจอยู่ระหว่างสอบ สวนการเสียชีวิต ว่าเสียในที่เกิดเหตุ หรือเสียจากที่อื่นแล้วนำร่างมาไว้ที่เกิดเหตุ เพราะพื้นที่ดังกล่าวรถขึ้นไม่ได้ ต้องใช้การเดินทางประมาณครึ่งชั่วโมง ซึ่งคงไม่ช้าที่จะสรุปได้ และฝ่ายความมั่นคงก็จะหาตัวคนร้ายมาให้ได้

 

ขณะที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.)ก็สื่อสารแสดงความเสียใจต่อนักท่องเที่ยวสวิสและครอบครัวผู้เสียชีวิต กับสิ่งที่เกิดความผิดพลาดในไทย

เรื่องนี้แม้จะเกิดในภูเก็ต แต่ทุกหน่วยงานต้องรับผิดชอบร่วมกัน แม้แต่เราซึ่งเป็นหน่วยงานเชิญนักท่องเที่ยวเข้ามาก็ต้องรับผิดชอบ แม้ว่าที่ผ่านมา ก่อนเปิดภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ เราก็มีแผนเรื่องการดูแลความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวอยู่ด้วย

 

ที่ผ่านมามีการยกระดับการรักษาความปลอดภัยของไทย มาอยู่ในอันดับ 111 ของโลกจาก 150 ประเทศ แต่เรื่องนี้อยู่นอกเหนือความคาดหมาย ซึ่งทุกคนล้วนเสียใจ ทั้งจากเหตุการณ์ครั้งนี้ ก็ต้องมีการยกระดับความปลอดภัยที่สูงขึ้นกว่าที่ผ่านมาที่ต้องเน้นบูรณาการทำงานร่วมกันทุกภาคส่วนทั้งฝ่ายความมั่นคง จังหวัดต่างๆและตำรวจท่องเที่ยว

 

โดยเฉพาะในพื้นที่เราเตรียมจะเปิดรับนักท่องเที่ยวเพิ่มเติม ทั้งกระบี่ พังงา สุราษฏร์ธานี ต้องทำให้เข้มข้นขึ้น และมาเกิดในช่วงที่ทำให้ภาพลักษณ์ของประเทศไทยด่างพร้อย ทุกฝ่ายต้องสร้างความมั่นใจให้แก่นักท่องเที่ยว

 

โดยผมจะหารือกับผบ.ตร.ขอให้ท่านกำชับให้ตำรวจในแต่ละพื้นที่เข้มงวดให้เพิ่มขึ้น ขณะที่ในส่วนของตำรวจท่องเที่ยวเอง มีกำลังพลเพียง 2 พันคนเท่าเท่านั้นที่ต้องดูแลนักท่องเที่ยวทั้งประเทศ ซึ่งที่ผ่านมากองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยวก็พยายามอบรมอาสาสมัครท่องเที่ยวเข้ามาช่วยก็มีราว 3 พันคน

 

แต่ยังไงก็ไม่พอ ก็คงต้องฝึกเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะอาสาสมัครในชุมชนต่างๆให้ครบทุกชุมชนหรือทุกหมู่บ้าน และจะหารือกับนายกเพื่อขอให้มีอุปกรณ์ หรือเทคโนโลยีเข้ามาเสริมศักยภาพการทำงานของตำรวจท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น

ท่องเที่ยวเยียวยา\"แหม่มสวิส\"1ล้าน เร่งเดินแผนเรียกความเชื่อมั่น ท่องเที่ยวเยียวยา\"แหม่มสวิส\"1ล้าน เร่งเดินแผนเรียกความเชื่อมั่น

 

ส่วนแนวโน้มการฟื้นฟูการท่องเที่ยว ถ้าภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ไม่สะดุดกลางคัน ก็มั่นใจว่าในช่วงไตรมาส4 ปีนี้ จะมีรายได้เข้ามามากกว่าเดือนก.ค.หลายเท่าตัว จากเดือนก.ค.ที่มีรายได้จากการท่องเที่ยว 828 ล้านบาท ถ้ารวมรายได้ทางตรงและทางอ้อมที่จะหมุนเวียน2.5 เท่า ก็ได้กว่า 2-3 พันล้านบาทแล้ว จากการหมุนรอบในระบบเศรษฐกิจทั้งด้านเกษตร ซัพพลายเชนต่างๆ

 

โดยเฉพาะกระบี่ พังงา สมุย ก็น่าจะมีรายได้จากการท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น โดยเราจะเตรียมเปิดโครงการท่องเที่ยว7+7 (เส้นทางท่องเที่ยวเชื่อมโยงภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์) โดยอยู่ในภูเก็ต ครบ 7 วันอีก 7 วันไปเที่ยวต่อที่เกาะพีพี –เกาะไหง-ไร่เลย์ จ.กระบี่ เขาหลัก เกาะยาวน้อย เกาะยาวใหญ่ จ.พังงา เกาะสมุย จ.ภูเก็ต ได้ในช่วงวันที่ 22 ส.ค.นี้

ท่องเที่ยว7+7

 

ส่วนการเจรจาทราเวล บับเบิ้ล ตอนนี้ต้องชะลอไว้ก่อน เนื่องจากยอดติดเชื้อภายในประเทศเพิ่มสูงทะลุ 2 หมื่นคน ตอนนี้เราไปคุยกับใครก็เขาไม่มีใครอยากคุย ต้องรอให้เราคุมการติดเชื้อลดลงเหลือระดับพันคน หรือหลักร้อยคน ก็คงจะไปคุยได้ต่อไป

 

อย่างไรก็ตามนอกจากนี้หลังการประชุมร่วมกับฝ่ายความมั่นคงล่าสุดเสร็จสิ้นในช่วงบ่าย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาพร้อมด้วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้แถลงข่าวกรณีพบศพนักท่องเที่ยวสาวชาวสวิตเซอร์แลนด์เสียชีวิตในธารน้ำตกโตนอ่าวยนต์ ภูเก็ต

 

ล่าสุดตำรวจแบ่งกำลัง 3 ชุด ออกติดตามไล่ล่าคนร้าย เร่งหาตัวผู้กระทำความผิดมาให้ได้เร็วที่สุดเพื่อเกิดความกระจ่างต่อสังคม เพื่อเรียกความเชื่อมั่นกลับมา เนื่องจากเป็นเหตุสะเทือนขวัญ กระทบภาพลักษณ์ท่องเที่ยว ดูคลิปการแถลงข่าวคลิ๊กที่นี่