"ออโรร่า"ชูขายทองออนไลน์ชิงส่วนแบ่งตลาดฝ่าวิกฤตโควิด-19

19 ก.ค. 2564 | 12:38 น.
อัปเดตล่าสุด :19 ก.ค. 2564 | 19:37 น.

ออโรร่าเผยตลาดทองคำมูลค่ากว่า 80,000 ล้านบาทลดลง 30% จากโควิด-19 แพร่ระบาด เดินหน้าขายทองผ่านช่องทองออนไลน์ชิงส่วนแบ่ง พร้อมนำเข้านวัตกรรมจากต่างประเทศสร้างผลิตภัณฑ์ตอบโจทย์ความต้องการลูกค้า

นายอนิพัทย์ ศรีรุ่งธรรม ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการตลาด บริษัท ออโรร่า ดีไซน์ จำกัด ผู้บริหารร้านทองออโรร่า (AURORA) เปิดเผยว่า ตลาดเครื่องประดับทองคำมีมูลค่ากว่า 80,000 ล้านบาท ในปีที่ผ่านมาลดลงกว่า 30% จากผลกระทบกับสถานการณ์การแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 (Covid-19) ซึ่งก็ไม่ต่างจากกลุ่มธุรกิจอื่น ๆ แต่ทองคำยังคงถูกยกเป็นหนึ่งในสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนโดดเด่นที่สุด ท่ามกลางวิกฤตและการแข่งขันที่ดุเดือดของร้านทองที่มีมากกว่าหมื่นร้านทั่วประเทศ
ทั้งนี้ การแข่งขันในตลาดร้านทองค่อนข้างดุเดือด โดยแต่ละร้านแข่งกันด้วยราคา ขณะที่ออโรร่าจะเน้นที่การสร้างแบรนด์ผ่าน 3 สิ่ง ได้แก่ การขายทองแท้เปอร์เซ็นต์สูง การบริการหลังการขายโดยไม่เสียค่าบริการ ทั้งล้าง ซ่อม หรือต่อ และสุดท้ายที่เป็นจุดแข็ง คือ รับซื้อคืนในราคาสูงสุด โดยทำ 3 อย่างควบคู่กับการขายทองมาตลอด จนกระทั่งถึงจุดที่แบรนด์ต้องการตอกย้ำความมั่นใจให้กับลูกค้าและทำให้เป็นรูปธรรมมากขึ้นด้วยการออกใบรับประกัน 3 ใบให้กับลูกค้าเพื่อการันตีให้กับลูกค้า โดยเทียบเท่าร้านทองย่านเยาวราช ซึ่งหมายความว่าลูกค้าสามารถกลับมาขายทองที่ร้านและราคาดีที่หักเพียง 3% ได้ทุกสาขาทั่วประเทศ 
นอกจากการจำหน่ายในร้านทองทั่วประเทศกว่า 220 สาขาแล้ว เพื่อตอบโจทย์พฤติกรรมและเข้าถึงผู้บริโภคได้มากขึ้น แบรนด์ยังทำตลาดออนไลน์ขายผ่านช่องทาง E-commerce เกือบทุกแพลตฟอร์ม รวมถึงเว็บไซต์ออนไลน์ของตัวเอง โดยที่เป็นแบรนด์แรกของประเทศไทยที่จำหน่ายบนช่องทางออนไลน์

"แบรนด์เข้าสู่ช่องทางออนไลน์มาประมาณ 3 ปี ซึ่งสัดส่วนรายได้อยู่ที่ประมาณ 5-10% ของรายได้รวมทั้งหมด โดยการขายผ่านออนไลน์นั้นเกิดจากความต้องการของลุกค้าในพื้นที่ที่ร้านยังไม่สามารถเข้าไปตอบสนองความต้องการได้อย่างทั่วถึง  ที่สำคัญ สินค้าที่ซื้อออนไลน์ก็ได้รับบริการหลังการขายมาตรฐานเดียวกับซื้อหน้าร้านทุกอย่าง ซึ่งปัจจุบันสามารถส่งสินค้าได้เร็วที่สุดภายใน 3 ชั่วโมงสำหรับเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ถ้าเป็นต่างจังหวัดอย่างช้าสุดก็ประมาณ 2-3 วัน ทั้งหมดนี้ทำให้ลูกค้ามั่นใจและกล้าที่จะสั่งซื้อกับบริษัท ด้วยมาตรการหลายขั้นตอนเริ่มจากสินค้าไปพร้อมใบรับประกัน 3 ใบเช่นเดียวกับซื้อที่หน้าร้าน รวมถึงส่งคลิปวิดีโอขั้นตอนการบรรจุสินค้าตั้งแต่ต้นจนจบ หน้ากล่องพัสดุระบุชื่อลูกค้าชัดเจน อีกทั้งยังมีการทำประกันการขนส่งกับสินค้าทุกกล่องเต็มจำนวนราคา หากสินค้ายังไม่ถึงมือลูกค้าไม่ต้องรับผิดชอบ และหากแกะออกมาแล้ว สินค้ามีปัญหาถ่ายคลิปวิดีโอไว้ และติดต่อส่งคืนให้บริษัทได้"

อนิพัทย์ ศรีรุ่งธรรม
นายอนิพัทย์ กล่าวต่อไปอีกว่า ล่าสุดได้ดำเนินการนำนวัตกรรมใหม่จากต่างประเทศที่สามารถเปลี่ยนทองคำน้ำหนักน้อย ราคาจับต้องได้ ให้อยู่ในรูปทรงที่มีมูลค่า เพื่อตอบโจทย์โจทย์ความต้องการลูกค้าที่ต้องการให้ของขวัญกับผู้ใหญ่ ในราคาที่ไม่สูงมาก ด้วยการพัฒนาออกแบบทองให้เป็นทรง กิมตุ้ง หรือเงินจีนรูปเรือสำเภาจีน ด้วยน้ำหนักทอง 0.2 กรัม นอกจากนี้แบรนด์ยังพร้อมที่จะทดลองทำสิ่งใหม่เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าเสมอ 

"จุดแข็งของแบรนด์อีกอย่างหนึ่งที่สำคัญก็คือ มีการการันตีด้วยการรับรองคุณภาพสินค้าและร้านทองมาตรฐานโลกอย่าง World Branding Award จากประเทศอังกฤษ หรือแม้แต่สถาบันระดับประเทศในรางวัล Top Company Award"
ปัจจุบัน บริษัทามีฐานสมาชิกเกือบ 1 ล้านคน โดยมีส่วนแบ่งทางการตลาดประมาณ 20% นอกจากนี้ แบรนด์ยังคาดว่าจะเปิดแบรนด์ใหม่หรือธุรกิจใหม่เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้ามากขึ้น ควบคู่ไปกับการจำหน่ายเพชร ซึ่งแบรนด์เป็นพาร์ตเนอร์กับแบรนด์เพชรระดับโลก