สำนักงานการบินพลเรือน ย้ำ "มาตรการการเดินทางเข้าภูเก็ต"

17 ก.ค. 2564 | 19:40 น.
อัปเดตล่าสุด :18 ก.ค. 2564 | 02:55 น.

สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทยหรือ กพท. ออกประกาศ เรื่อง ภูเก็ตขอความร่วมมือ CAAT ย้ำ "มาตรการการเดินทางเข้าจังหวัดภูเก็ต" ทั้งคนไทย และชาวต่างชาติ ทางบกด่านตรวจท่าฉัตรไชย ท่าเรือ และสนามบิน

จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ที่ทวีความรุนแรงขึ้น จังหวัดภูเก็ตโดยนายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ได้ขอความร่วมมือให้สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย หรือ กพท. (CAAT) เน้นย้ำ มาตรการตรวจคัดกรองการเดินทางเข้าจังหวัดภูเก็ต สำหรับคนไทยจากต่างจังหวัดและคนต่างชาติที่พำนักในประเทศไทย ตั้งแต่วันที่ 15-31 กรกฎาคม 2564

 

โดยขอให้ผู้โดยสารตรวจสอบ มาตรการของจังหวัดภูเก็ต ที่ประกาศล่าสุดเมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม 2564 เพื่อเตรียมพร้อมก่อนการเดินทาง ซึ่งจังหวัดภูเก็ตได้ยกระดับความเข้มข้นของมาตรการและบังคับใช้อย่างจริงจังเพื่อแก้ไขและบรรเทาสถานการณ์ฉุกเฉินให้คลี่คลายลงโดยเร็ว มีผลตั้งแต่วันที่ 15-31 กรกฎาคม 2564 มีรายละเอียดสำคัญ ดังนี้

 

1. การเดินทางเข้าจังหวัดภูเก็ต ทางด่านตรวจท่าฉัตรไชย ท่าเรือทุกท่า และช่องทางภายในประเทศทางท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต ผู้เดินทางยกเว้นเด็กอายุไม่เกิน 6 ปี ที่เดินทางมากับผู้ปกครอง ต้องเป็นผู้ที่มีคุณสมบัติอย่างใดอย่างหนึ่งและต้องถือปฏิบัติ ดังต่อไปนี้

 

  • 1.1 ได้รับวัคซีนป้องกัน COVID-19 ครบ 2 เข็ม หรือครบโดสตามจำนวนวัคซีนแต่ละชนิด หรือได้รับวัคซีนชนิด AstraZeneca จำนวน 1 เข็ม มาแล้วเป็นระยะเวลาอย่างน้อย 14 วัน หรือเป็นผู้ที่หายจากอาการป่วยด้วยโรค COVID-19 มาแล้วไม่เกิน 90 วัน หรือได้รับการตรวจหาเชื้อCOVID-19 ด้วยวิธีการ RT - PCR หรือวิธีการ Antigen Test ไม่เกิน 7 วัน นับแต่วันที่ได้รับการตรวจ
  • 1.2 ผู้เดินทางที่มาจากจังหวัดพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด 10 จังหวัด และพื้นที่ควบคุมสูงสุด 24 จังหวัด ต้องเป็นผู้ที่ได้รับวัคซีนป้องกันโรค COVID-19 ครบ 2 เข็ม หรือครบโดสตามจำนวนวัคซีนแต่ละชนิด หรือได้รับวัคซีนชนิด AstraZeneca จำนวน 1 เข็ม มาแล้วเป็นระยะเวลาอย่างน้อย 14 วัน หรือเป็นผู้ที่หายจากอาการป่วยด้วยโรค COVID-19 มาแล้วไม่เกิน 90 วัน และต้องได้รับการตรวจหาเชื้อ COVID-19 ด้วยวิธีการ RT - PCR หรือวิธีการ Antigen Test ไม่เกิน 7 วัน นับแต่วันที่ได้รับการตรวจ
  • 1.3 กรณีนักเรียน-นักศึกษาอายุไม่ถึง 18 ปี ที่ไม่สามารถเข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันโรค COVID-19 ได้ และมีความจำเป็นต้องเดินทางผ่านเข้า-ออก จ.ภูเก็ต เพื่อการเรียนการศึกษาให้หน่วยงานต้นสังกัดของสถานศึกษาหรือศึกษาธิการจังหวัด ออกบัตรประจำตัวเป็นรูปแบบเดียวกันแสดงต่อเจ้าหน้าที่เมื่อเดินทางผ่านเข้า-ออกจังหวัดภูเก็ต และให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดภูเก็ตตรวจหาเชื้อ COVID-19 ด้วยวิธีการ RT-PCR และออกใบรับรองการตรวจหาเชื้อ COVID-19 ให้ใช้ได้ไม่เกิน 1 เดือน
  • 1.4 ต้องดาวน์โหลดและติดตั้งแอปพลิเคชัน “หมอชนะ” บนสมาร์ตโฟน และยินยอมเปิดแชร์ตำแหน่งที่ตั้ง (Location) ตลอดระยะเวลาที่อยู่ในจังหวัดภูเก็ต
  • 1.5 แสดงเอกสารหลักฐานข้างต้น ต่อเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อก่อนเข้าจังหวัดภูเก็ต
  • 1.6 ให้สังเกตติดตามอาการตนเอง (Self-Monitoring) ตามมาตรการป้องกันควบคุมโรค หากพบอาการป่วยหรือสงสัยว่ามีอาการป่วยด้วยโรค COVID-19 ให้พบแพทย์โดยด่วน

อย่างไรก็ตาม ผู้ติดเชื้อ COVID-19 ที่จงใจปกปิดข้อมูลการเดินทางหรือแจ้งข้อมูลเท็จต่อเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ ทำให้เป็นอุปสรรคต่อการสอบสวนและควบคุมโรคเป็นผลให้เชื้อโรคแพร่ออกไป อาจเข้าข่ายเป็นการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ ซึ่งเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558 ด้วย

2. ขอความร่วมมือผู้ที่เดินทางเข้าไปยังจังหวัดภูเก็ต ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรค COVID-19 (D-M-H-T-T-A) ได้แก่

D - Distancing เว้นระยะห่างระหว่างกัน

M - Mask Wearing สวมหน้ากากผ้า/หน้ากากอนามัยเสมอ

H - Hand Washing ล้างมือบ่อย ๆ

T - Temperature ตรวจวัดอุณหภูมิ

T - Testing ตรวจหาเชื้อ COVID-19

A - Application ติดตั้งและสแกนแอปพลิเคชันไทยชนะและหมอชนะ

หมายเหตุ

- จังหวัดพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด 10 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร สมุทรปราการ นนทบุรี ปทุมธานี นครปฐม สมุทรสาคร สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส

- พื้นที่ควบคุมสูงสุด 24 จังหวัด ได้แก่ พระนครศรีอยุธยา ฉะเชิงเทรา สุพรรณบุรี สระบุรี ชัยนาทนครนายก นครสวรรค์ อ่างทอง อุทัยธานี ปราจีนบุรี สิงห์บุรี ลพบุรี สมุทรสงคราม กาญจนบุรี ราชบุรี เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชลบุรี ระยอง นครราชสีมา ตาก นครศรีธรรมราช กระบี่ ระนอง