เม็ดเงินโฆษณาครึ่งปีร่วง -13%

เอจีบี นีลเส็น ประเทศไทย เปิดเผยว่า เม็ดเงินโฆษณาในช่วงครึ่งปีแรก (ม.ค. – มิ.ย.) ปี 2563  มีมูลค่า 51,213 ล้านบาท หดตัวลง-13% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว  ซึ่งสื่อทีวียังคงเป็นสื่อที่มีสัดส่วนของการใช้เม็ดเงินโฆษณาสูงสุด 57% ขณะที่ภาพรวมเม็ดเงินโฆษณาในเดือนมิถุนายนยังคงได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด19 โดยลดลง –24% จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว

ในปีนี้ภาพรวมอุตสาหกรรมหลักใช้เม็ดเงินโฆษณาลดลงจากปีที่แล้ว โดย 4 กลุ่มหลักได้แก่ กลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม (Food&Beverage) มูลค่า 7,153 ล้านบาท ลดลง -22% รองลงมาคือ กลุ่มผลิตภัณฑ์ดูแลส่วนบุคคลและเครื่องสำอาง (Personal Care & Cosmetic) มูลค่า 6,669 ล้านบาท ลดลง -10%  ลำดับที่ 3 คือกลุ่ม Media & Marketing มูลค่า 6,240 ล้านบาท ลดลง -2% และลำดับที่ 4 คือกลุ่มยานยนต์ (Automotive) มูลค่า 3,081 ล้านบาท ลดลง -32% 

ขณะที่กลุ่มยา (Pharmaceuticals) มูลค่า2,797 ล้านบาท และ กลุ่มสินค้าครัวเรือนในบ้าน (Household products) มูลค่า 1,865 ล้านบาท ใช้เม็ดเงินโฆษณาเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว +22% และ +3% ตามลำดับ     

ในส่วนของบริษัทที่ใช้เม็ดเงินโฆษณาสูงสุดของเดือนมกราคมถึงมิถุนายนปี 2563 โดย 3 ลำดับแรกได้แก่ บริษัท  UNILEVER (THAI) HOLDINGS CO.,LTD. มูลค่า 1,738 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว +17%โดยแคมเปญที่ใช้เม็ดเงินโฆษณาสูงสุดในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมาคือครีมนวดผมสูตรเซรั่ม เพียง 29 บาท ทางสื่อทีวีมูลค่า 13 ล้านบาท รองลงมาคือซันซิล บรีส เอ็กเซล ช่วยขจัดคราบและแบคทีเรียทางสื่อทีวีมูลค่า 10 ล้านบาท

บริษัท TV DIRECT PUBLIC CO.,LTD. มูลค่า 1,271 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว +48% โดยแคมเปญที่ใช้เม็ดเงินโฆษณาสูงสุดในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา คือ เครื่องบดสับปั่น ซื้อ 1 แถม 1ทางสื่อทีวีมูลค่า 41 ล้านบาท 

บริษัท LIFESTAR CO.,LTD. มูลค่า 1,122 ล้านบาท ซึ่งลดลงจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว -17% โดยแคมเปญที่ใช้เม็ดเงินโฆษณาสูงสุดในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมาคือ ลดกระหน่ำกลางปี คอร์ดี้ ทิเบตแอนด์ภูฏาน เซ็ต 3 ขวด ทางสื่อทีวีมูลค่า 21 ล้านบาท รองลงมาคือคอร์ดี้ ทิเบตแอนด์ภูฏาน ซื้อ 1 แถม 1 ทางสื่อทีวีมูลค่า 16 ล้านบาท