ไวรัสฉุดอีเวนต์ หนักสุดรอบ 35 ปี CMOงานหด 85%
ซีเอ็มโอ เผยไวรัสโคโรนาพ่นพิษ ทำงานอีเวนต์เลื่อน ยกเลิก ส่งผลรายได้ไตรมาสแรกหายไปกว่า 85% รุนแรงมากสุดในรอบ 35 ปี คาดทั้งปีรายได้ลด 30%
นายเสริมคุณ คุณาวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซีเอ็มโอ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อธุรกิจอย่างหนัก โดยธุรกิจทยอยยกเลิกหรือเลื่อนการจัดอีเวนต์ต่างๆ ทำให้บริษัทต้องยุติการจัดการ รวมถึงการให้เช่าอุปกรณ์ต่างๆ ไปด้วย เบื้องต้นประเมินว่าจะมีงานยกเลิกและเลื่อนไปกว่า 85% ส่วนที่เหลือจะเป็นงานที่ไม่ใช่งานอีเวนต์ เช่น การดูแลพิพิธภัณฑ์และศูนย์การเรียนรู้
“หลังกลางเดือนกุมภาพันธ์มีงานที่จะจัดในเดือนกุมภาพันธ์และมีนาคมยกเลิกหรือเลื่อนออกไปจัดในเดือนเมษายนหรือพฤษภาคมจำนวนมาก แต่จะเชื่อมต่อไปในไตรมาส 2 หรือไม่ขึ้นอยู่กับการแพร่ระบาดของไวรัสว่าอยู่ในระยะใด หากเข้าสู่ระยะ 3 ก็คงต้องยุติทั้งหมด”
อย่างไรก็ดี หากสามารถควบคุมและยังจำกัดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสให้อยู่ในระยะ 2 ได้ เชื่อว่าสถานการณ์ต่างๆ จะกลับมาดีขึ้นในไตรมาส 2 แต่หากควบคุมไม่ได้ก็จะส่งผลกระทบไปถึงต้นไตรมาส 3 อย่างแน่นอน ซึ่งเบื้องต้นในไตรมาส 1 มีงานต่างๆ ยกเลิกไปแล้วจำนวนมากจากเดิมที่มีการจัดงานทั้งกรุ๊ปกว่า 650 งานต่อปี
สำหรับที่ยกเลิกหรือเลื่อนออกไปส่วนใหญ่เป็นงานเอ็นเตอร์เทนเมนต์ เช่น คอนเสิร์ต กิจกรรมสงกรานต์ทั้งที่กรุงเทพฯและต่างจังหวัด รวมทั้งงานมอเตอร์ โชว์ ซึ่งบริษัทเป็นผู้จัดบูธโชว์ให้กับแบรนด์ชั้นนำ 8 บูธ นอกจากนี้ยังมีงานประชุมต่างๆ ส่วนงานที่จัดอยู่ส่วนใหญ่เป็นงานจัดโปรโมชัน งานเปิดตัวสินค้า จัดกิจกรรมต่างๆ ภายในห้างสรรพสินค้า หรือศูนย์การค้า
“วิกฤติครั้งนี้ถือว่าส่งผลกระทบต่อธุรกิจอีเวนต์มากที่สุดในรอบ 35 ปี แต่ซีเอ็มโอยังโชคดีที่มีงานดูแลพิพิธภัณฑ์ หรือศูนย์การค้าเรียนรู้ ขณะเดียวกันก็เป็นโอกาสให้บริษัทคิดสร้างสรรค์งานใหม่ๆ ที่ไม่สามารถจัดกิจกรรมออนกราวด์หรือออฟไลน์ได้ ก็หันไปทำกิจกรรมงานครีเอทีฟผ่านออนไลน์แทน ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นที่น่าพอใจพอสมควร”
ทั้งนี้ในครึ่งปีหลังบริษัทเตรียมปรับแผนรองรับ โดยเน้นการทำตลาดเชิงรุกเจาะเข้าถึงหน่วยงานของรัฐและเอกชน ที่ต้องเดินหน้าทำโครงการต่างๆ เพื่อกระตุ้นให้เกิดการใช้เงิน ให้เกิดการหมุนเวียนของกำลังซื้ออย่างไรก็ดีคาดว่าผลประกอบการของบริษัทในปีนี้จะลดลง 30% หรือหายไป 400 ล้านบาท จากเดิมที่ตั้งเป้าหมายจะมีรายได้ 1,400-1,500 ล้านบาท
หน้า 21-22 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 40 ฉบับที่ 3,558 วันที่ 19-21 มีนาคม 2563