“โบ๊ทลากูน”ผนึก“เบอร์เจส” บูมไทยสู่ตลาดท่องเที่ยวซูเปอร์ยอช์ตท็อปเอ็นด์

30 ส.ค. 2562 | 14:01 น.
680

โบ๊ทลากูนยอช์ตติ้งจับมือเป็นพันธมิตรกับเบอร์เจส เบอร์หนึ่งของโลกด้านซูเปอร์ยอช์ตและเมกะยอช์ต หวังเพิ่มขีดความสามารถท่องเที่ยวไทยและภูมิภาคสู่ตลาดซูเปอร์ยอช์ตระดับ Top End  

นายวริศ ยงสกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท โบ๊ทลากูนยอช์ตติ้ง จำกัด กล่าวว่า “บริษัทเล็งเห็นโอกาสของการขยายตลาดเรือยอช์ตขนาดยักษ์ในไทยและภูมิภาค ที่กำลังเป็นที่ต้องการของลูกค้ากลุ่มไฮเอ็น ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีศักยภาพมาก มีกำลังซื้อสูง รวมถึงมีจำนวนที่เพิ่มขึ้น ความร่วมมือกับ เบอร์เจส ( Burgess) ครั้งนี้จะทำให้ โบ๊ทลากูนยอช์ตติ้ง เป็นผู้ประกอบการด้านเรือยอช์ตรายใหญ่ของไทยที่ให้บริการอย่างครบวงจร

“โบ๊ทลากูน”ผนึก“เบอร์เจส” บูมไทยสู่ตลาดท่องเที่ยวซูเปอร์ยอช์ตท็อปเอ็นด์

ที่สามารถตอบสนองต่อความความต้องการของลูกค้าได้อย่างไร้ข้อจำกัด ทั้งการซื้อขาย การเช่าซูเปอร์ยอร์ต เมกะยอช์ตเพื่อการท่องเที่ยวในที่ต่าง ๆ ของโลก โดยงานแรกจะมีเรือซูเปอร์ยอช์ตและเมกะยอช์ต จำนวน 4 ลำ ราคาลำละ 1,500-2,500 ล้านบาท เดินทางมาเอเชียเพื่อการท่องเที่ยว ซึ่งจะเปิดโอกาสให้กลุ่มลูกค้าของบริษัทสามารถใช้บริการเช่าได้ด้วย

เนื่องจากเรือซูเปอร์ยอช์ต มีความยาวมากกว่า 30 เมตร เปรียบเสมือนเป็นโรงแรมขนาดใหญ่ ที่สามารถเคลื่อนที่ได้ มีบริการที่ครบวงจร ระบบรักษาความปลอดภัย และยังมีของเล่นต่าง ๆ อาทิ เจ็ทสกี เรือดำน้ำ เฮลิคอปเตอร์ และเรือยาง เป็นต้น ซึ่งจะสร้างรายได้ให้กับคนในท้องถิ่นทั้งโรงแรม ร้านอาหาร การท่องเที่ยวและอื่น ๆ โดยมีการประมาณการว่าซูเปอร์ยอช์ต 1 ลำ ที่เดินทางมาแวะพักที่ประเทศไทยจะใช้จ่ายประมาณ 35-70 ล้านบาทต่อทริป 

“โบ๊ทลากูน”ผนึก“เบอร์เจส” บูมไทยสู่ตลาดท่องเที่ยวซูเปอร์ยอช์ตท็อปเอ็นด์

อีกทั้งจากข้อมูลของ The Superyacht Migration Report ระบุว่า ซูเปอร์ยอช์ตที่เดินทางมาภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จะนิยมมาเที่ยวประเทศไทยและสิงคโปร์มากที่สุด และในระหว่างปี 2558-2561 มีซูเปอร์ยอช์ตเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวประเทศไทยเพิ่มขึ้นกว่า 50% (จาก 27 ลำในปี 2558 เป็น 41 ลำในปี 2561)

โดยโบ๊ทลากูนยอช์ตติ้ง ใช้กลยุทธ์การขยายจุดแข็งไปสู่กลุ่มลูกค้าระดับบนสุด (top end) ของยอดปิรามิด ที่ปัจจุบันมีตลาดของเรือยอช์ตเติบโตขึ้นปีละ 5% จนถึง 10 % ประเทศไทยมีการเข้า-ออกของเรือยอช์ต ประมาณ 2,000 ลำต่อปี มั่นใจรัฐบาลสนับสนุนการท่องเที่ยว ถือเป็นการโปรโมทการท่องเที่ยวระดับบนสุด โดยกลุ่มลูกค้าจะเป็นตลาดยุโรปเป็นส่วนใหญ่ การเป็นพันธมิตรกับ เบอร์เจส ไม่เพียงจะช่วยขยายศักยภาพของ โบ๊ทลากูนยอช์ตติ้ง แต่ยังช่วยอำนวยความสะดวกให้กับกลุ่มลูกค้าระดับบนสุดที่ต้องการเช่าเรือซูเปอร์ยอช์ต เมกะยอช์ตเพื่อท่องเที่ยวตามที่ต่าง ๆ ทั่วโลกอีกด้วย

ปัจจุบัน โบ๊ทลากูนยอช์ตติ้ง มีสาขา 9 แห่งใน 5 ประเทศ คือปีนัง ประเทศมาเลเซีย จาการ์ต้า ประเทศอินโดนีเซีย สิงคโปร์ มัลดีฟส์ และ 5 ประเทศไทย คือ กรุงเทพฯ พัทยา สมุย กระบี่ และภูเก็ต มีเรือยอช์ต กว่า 200 ลำ ที่ลูกค้าใช้งานอยู่ทั่วภูมิภาค และมีศูนย์ซ่อมและบำรุงรักษาเรือยอช์ตของตนเอง มีท่าจอดเรือที่ กระบี่ และ ภูเก็ต บนเนื้อที่ 80 ไร่ ที่ใช้เทคโนโลยีด้านการซ่อมบำรุงที่ทันสมัย มีทีมวิศวกรเฉพาะทางต่างชาติ