‘บีลิงค์ มีเดีย’รุกสื่อปีระกา ชู4แพลตฟอร์มเจาะวัยรุ่น
บีลิงค์ มีเดีย ชู 4 แพลตฟอร์มรุกสื่อปีระกา เผยเตรียมเซ็นสัญญาคว้าสัมปทานสื่อในมหาวิทยาลัยอีก 7 แห่ง พร้อมร่วมทุนพาร์ตเนอร์ใหม่ขยายบริการด้านออนไลน์ เสริมแกร่งย้ำเบอร์ 1 สื่อเจาะใจวัยรุ่น มั่นใจดันยอดปี 60 โต 25%
นายกฤษณะ ถนอมทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บีลิงค์ มีเดีย จำกัด ผู้บริหารสื่อโฆษณาในอาคาร เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า ในปีหน้าบริษัทชู 4 แพลตฟอร์มในการดำเนินธุรกิจเต็มสูบ เพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำสื่อที่มีกลุ่มเป้าหมายเฉพาะชัดเจน หรือทาร์เก็ต แพลตฟอร์ม ประกอบด้วย 1. Tutorial platform สำหรับนักเรียนในระดับชั้นมัธยม ซึ่งบริษัทบริหารพื้นที่สื่อโฆษณาในโรงเรียนชั้นนำกว่า 500 แห่งทั่วประเทศ รวมถึงแหล่งรวมสถาบันกวดวิชา ได้แก่อาคารวรรณสรณ์ (เคมี อ. อุ๊) อาคารสยามกิตติ์ (ศูนย์รวมสถาบันกวดวิชา สยามสแควร์ ซึ่งบีลิงค์ฯ เพิ่งได้สัมปทานในการบริหารพื้นที่สื่อ จะเริ่มดำเนินงานในปี 2560) เป็นต้น
2. University platformซึ่งปัจจุบันบริษัทบริหารพื้นที่สื่อในมหาวิทยาลัยกว่า 40 แห่ง รวมกว่า 700 ป้าย 3. Office platform โดยบริษัทเป็นผู้บริหารพื้นที่สื่อในฟูดคอร์ต ของอาคารสำนักงานขนาดใหญ่ราว 66 ตึกในย่านซีบีดี และ 4 Total solution platform ซึ่งเป็นผนึกรวมสื่อต่างๆ รวมถึงการคิดสร้างสรรค์ การจัดกิจกรรมพิเศษ (อีเวนต์) แบบครบวงจรให้กับลูกค้า ทั้งออฟไลน์และออนไลน์ ซึ่งในปีหน้าบริษัทจะเซ็นสัญญาร่วมลงทุนกับบริษัทผู้เชี่ยวชาญด้านออนไลน์ ในการเปิดตัวสื่อออนไลน์ ซึ่งจะทำให้บริษัทเป็นผู้ให้บริการครบวงจร
"ปัจจุบันลูกค้าต้องการสื่อที่ครบวงจร และมีกลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจน ซึ่งจะสามารถตอบโจทย์สินค้าได้ ไม่ใช่จะเลือกเฉพาะเทรดดิชันนัล มีเดีย หรือนิวมีเดีย แต่ต้องเป็นการผสมผสานที่ลงตัวและเหมาะกับกลุ่มเป้าหมายซึ่งปัจจุบันมีการแบ่งแยกเซ็กเมนต์ที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้น สร้างความได้เปรียบให้กับบริษัท ซึ่งเป็นผู้นำด้านสื่อสำหรับกลุ่มคนรุ่นใหม่"
ด้วยประสบการณ์ที่ทำงานและมุ่งเจาะเซ็กเมนต์คนรุ่นใหม่มากว่า 10 ปี ทำให้บีลิงค์ มีเดียมีความได้เปรียบซึ่งปัจจุบันยังไม่มีคู่แข่งทางตรง ส่วนใหญ่จะเป็นคู่แข่งทางอ้อม
สำหรับในปี 2560 บริษัทมีแผนจะเซ็นสัญญาเข้าบริหารพื้นที่โฆษณาในมหาวิทยาลัยอีก 7 แห่ง เช่น มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม , เลย , สกลนคร และกำแพงเพชร ฯลฯ ขณะที่ในปีนี้ เซ็นสัญญาไปแล้ว 5 แห่ง เช่น มหาวิทยาลัยศิลปากร , แม่ฟ้าหลวง , ทักษิณ เป็นต้น นายกฤษณะ กล่าวว่า การทำธุรกิจสื่อในปัจจุบันต้องมีกลุ่มเซ็กเมนต์ที่ชัดเจน ซึ่งมองว่าในสื่อกลุ่มนี้ยังเป็นบลูโอเชี่ยน มีโอกาสเติบโตได้อีกมาก โดยเฉพาะในภาวะที่ผู้ประกอบการมีงบน้อย จำเป็นจะต้องใช้จ่ายให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมาย เพื่อสร้างให้เกิดมูลค่าสูงสุด
"ทุกสื่อพยายามปรับตัวให้ทันกับการเปลี่ยนแปลง การเมิร์จระหว่างสื่อเก่า (เทรดดิชันนัล มีเดีย)และสื่อใหม่ (นิวมีเดีย) จะช่วยสร้างความแข็งแกร่งและเติมเต็มให้มีบริการครบวงจรยิ่งขึ้น"
ด้านผลประกอบการของบริษัทในปีนี้บริษัทตั้งเป้าหมายที่จะมีรายได้ราว 120-130 ล้านบาทเติบโตเพิ่มขึ้น 15-16% ตามเป้าหมายที่วางไว้ ส่วนในปีหน้าคาดว่าจะมีรายได้ราว 150-160 ล้านบาทเติบโต 25% จากการดำเนินธุรกิจภายใต้ 4 แพลตฟอร์ม และการเพิ่มบริการสื่อออนไลน์ ขณะที่การขยายตลาดในต่างประเทศจะเน้นการทำตลาดที่เมียนมาเพียงอย่างเดียว หลังจากที่เข้าไปทำหน้าที่ด้านการบริหารสื่อให้กับนักธุรกิจท้องถิ่น โดยปัจจุบันมียอดบิลลิ่งราว 20-30 ล้านบาท
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,221 วันที่ 25-28 ธันวาคม 2559