ถ้ามองว่าการสู้ชีวิตของคนยุคเมื่อ 50 ปีก่อน ค่อนข้างยากลำบาก จะต้องเปิดร้านค้าขายได้จะต้องมีทำเลที่ดี จะต้องมีสต๊อกสินค้าค่อนข้างมาก ทุกอย่างต้องใช้ทุนหมด ในโลกยุคใหม่ที่เราอาศัยนี้อาจจะพึ่งพาออนไลน์ แต่สิ่งที่ยังคงเหมือนเดิมเราก็ต้องพอมีทุนบ้าง
แต่ชีวิตของคนบางคน ยังทำงานอยู่ในรูปแบบของลักษณะ Office แล้วก็มีความคิดที่จะนำพาชีวิตให้ก้าวหน้า ซึ่งบางครั้งทุกๆ วันสะสมไปด้วยความทุกข์ ความเครียดในการทำงานตลอด ทั้งสิ่งแวดล้อม ผู้คนมากมายหลากหลายที่แตกต่างกัน แต่ถึงอย่างไรไม่ว่าจะทำงานลักษณะไหน ความสำเร็จของมนุษย์ก็คือมีชีวิตที่มีความสุขมากขึ้น มีความสะดวกสบายมากขึ้น มันก็ไม่ได้เป็นสิ่งที่ผิด แต่ว่าเป็นสิ่งปกติของความเป็นมนุษย์ทุกคนที่ปรารถนา
แต่ละยุคสมัยเช่นเดียวกันเราก็จะเห็นคนที่สมปรารถนาไปสู่เป้าหมายที่ตัวเองต้องการสำเร็จและบางคนก็ยอมแพ้ยืนอยู่ที่เดิมในมุมมองนี้ถ้าเราใช้ระบบของพุทธศาสนาเข้ามาจับเราก็อาจจะมีแนวคิดที่ว่าเขาไปถึงฝั่งฝันได้เพราะว่าบุญเก่าเขาดีกว่า เราไปไม่ถึงอาจจะเป็นเพราะกรรมเก่าของเราค่อนข้างมากจึงมีชีวิตแบบนี้
คนที่ไม่สำเร็จแล้วมองชีวิตด้วยมุมของกรรมแบบนี้ ต้องบอกว่าเป็นการเข้าใจผิดอย่างยิ่ง ลัทธิหนึ่งในครั้งพุทธกาลที่ขื่อ บุพเพกตเหตุวาท หรือ บุพเพกตวาท เขามีแนวคิดที่เชื่อว่าชีวิตของเขามีสุขหรือมีทุกข์สำเร็จหรือไม่สำเร็จ ล้วนแล้วเป็นเพราะแรงกรรมจากอดีตผลักดันให้เขาเป็นทั้งสิ้น ความคิดแบบนี้พระพุทธเจ้าทรงปฏิเสธและไม่รับเอาอยู่ในหลักของพุทธศาสนา
ดังนั้นจึงเกิดคำถามตามมาที่ว่าแล้วกรรมเก่าที่เราเชื่อกันนั้นน่ะมาจากไหนก็ต้องบอกว่าส่วนหนึ่งเป็นการผสมผสานกับศาสนาผี ซึ่งเป็นศาสนาดั้งเดิมของชาวเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ถูกผสมกลมกลืนกันมาเนิ่นนานนับพันปี
เพราะหลักกรรมเก่าตามที่พระพุทธเจ้าสอนโดยแท้จริงแล้วก็คือก้อนร่างกายของเราทั้งหมดนี้แหละคือกรรมเก่า เพราะกรรมเก่าทำหน้าที่เลือกเผ่าพันธุ์เลือกดินแดนเกิดเลือกพ่อแม่เลือก DNA ให้เรา ดังนั้นสิ่งที่เราเป็นอยู่ในปัจจุบันนี้ เกิดจากผลกรรมที่เรากระทำเองทั้งสิ้นกระทำไว้เมื่อ 10 ปีที่แล้ว 20 ปีที่แล้วหรือมากกว่านั้นได้ส่งผลสนองมาถึงเรา
ดังนั้นในมุมที่ผมคิดการที่เราไม่ประสบความสำเร็จเป็นเพราะว่าจิตของเราต่างหากใจของเราต่างหาก ที่ไม่สู้ ถ้าใจเราพร้อมไม่ว่าเราจะปรารถนาสิ่งใด ก็จะนำพาร่างกายของเราไปอยู่ในสิ่งแวดล้อมบริบทในเรื่องนั้นๆ ให้เราได้เรียนรู้ เพิ่มศักยภาพให้ตัวเอง แล้ววันหนึ่งเราก็จะสำเร็จตามที่เราปรารถนา ถ้าวันนี้คุณยังไปไม่ถึงจุดมุ่งหมายที่วางไว้ขอให้คุณลองเปลี่ยนแนวคิดอย่าไปโทษกรรมแต่หันกลับมาโอบกอดหัวใจใฝ่เรียนรู้แล้วก้าวไปตามที่ใจปรารถนาผมเชื่อว่าไม่ช้าคุณสำเร็จในชีวิตแน่นอน
วันก่อนผมได้ไปบรรยายเรื่องนี้ที่บริษัทองค์กรมหาชน หลายคนตกในภาวะความคิดลัทธิกรรมเก่ากันมากแต่ทุกคนเฝ้าทำบุญสวดทุกเช้าค่ำและก็ทำหน้าที่ของตนไป แต่ชีวิตก็ไม่สะดวกสบายขึ้นเสียที พอได้ฟังเรื่องนี้เขาบอกว่า เหมือนเอาภูเขาออกจากอกเอานรกออกจากสมองน้ำตาไหลด้วยความปีติมีความหวังไม่ถูกกดทับด้วยระบบวิธีคิดแบบเดิม
ชีวิตของมนุษย์ถ้าจะพังก็พังเพราะการกระทำของเราเองในปัจจุบัน คือ การกระทำในการเพิ่มศักยภาพการทำงาน พังเพราะวิธีการเลือกคบมิตรเพื่อนพ้องและพังเพราะแนวคิดของเราเองไม่มีอำนาจสิ่งศักดิ์สิทธิ์ใดๆ มาทำให้พัง ไม่มีกรรมที่ไหนมาทำให้พังนอกจากตัวเราเองที่ทำพังครับ
...............................................
ติดตามราชรามัญ
วิทยากร/บรรยาย ได้ที่
https://www.facebook.com/AnadonRajr