ปัญหาผิวที่มากับ “แดด-ฝุ่น”

22 เม.ย. 2566 | 06:00 น.
อัปเดตล่าสุด :23 ก.ค. 2566 | 19:25 น.

ปัญหาผิวที่มากับ “แดด-ฝุ่น” คอลัมน์ Tricks for Life

สภาพอากาศที่คนไทยต้องเชิญกับ “แสงแดด” และ “ฝุ่น PM 2.5” ทำให้หลายคนเจ็บป่วยง่าย

นอกจากระบบภายในแล้ว ภายนอก “ผิว” ก็ได้รับผลกระทบอย่างเห็นได้ชัด

เพราะแสงแดดที่ร้อนจัดทำให้ผิวไหม้แดด ริ้วรอย ฝ้า กระตามมา และรังสีอัลตราไวโอเลต ยังทำลายคอลลาเจนและอีลาสตินในชั้นหนังแท้ ทำให้เกิดริ้วรอยต่างๆ ซึ่งแนวทางแก้ปัญหาหนึ่งคือ การทาครีมกันแดดทุกวัน และควรทาก่อนออกแดดอย่างน้อย 30 นาที

การทาครีมกันแดดที่ได้ผลดีควรทาให้เพียงพอ ไม่บางหรือหนาจนเกินไป ควรเลือกครีมกันแดดที่สามารถป้องกันได้ทั้ง UVA และ UVB และต้องไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้ มีความคงตัวสูงไม่ว่าจะโดนน้ำ หรือเหงื่อ ก็จะไม่เหนียวเหนอะหนะ

ปัญหาผิวที่มากับ “แดด-ฝุ่น”

หากเป็นไปได้ควรหลีกเลี่ยงการโดนแสงแดดโดยเฉพาะในช่วงเวลา 10.00 น-16.00 น. นอกจากนี้ ในช่วงหน้าร้อนมักทำให้เกิดเหงื่อ ซึ่งอาจก่อให้เกิดปัญหาผิวต่างๆ ได้แก่

ผด มีลักษณะเป็นผื่นแดงเล็กกระจายสม่ำเสมอหรือบางครั้งจะเป็นเม็ดใส ๆ ในเด็กมักขึ้นรอบ ๆ คอ หน้าผาก หน้าขา และรักแร้ ในผู้ใหญ่มักพบในบริเวณร่มผ้าที่มีการเสียดสี เช่น คอ หนังศีรษะ หน้าอก ลำตัว และข้อพับ แนะนำให้อยู่ในที่อากาศเย็น มีลมโกรก สวมใส่เสื้อผ้าที่เบาสบาย ในเวลาที่เหงื่อออกมาก ให้อาบน้ำหรือใช้ผ้าซุบน้ำเช็ด

ผื่นผิวหนังอักเสบจากเชื้อรา

เกลื้อน จะมีลักษณะเป็นผื่นวงกลมหลาย ๆ วง มีขุยละเอียด สีต่างกัน เช่น สีจางหรือสีขาว แดง น้ำตาล หรือดำ มักไม่มีอาการคัน พบมากในผู้เล่นกีฬาที่มีเหงื่อออกมาก อยู่ในที่ร้อนมาก ๆ สวมเสื้อผ้ารัดแน่นหรือเสื้อผ้าที่อับชื้น เนื่องจากการเกิดความอับชื้นทำให้เกิดการติดเชื้อราได้ง่าย

ปัญหาผิวที่มากับ “แดด-ฝุ่น”

กลาก จะมีลักษณะเป็นวง มีขอบเขตชัดเจน เป็นขุย เริ่มต้นด้วยอาการคันแล้วตามด้วยผื่นแดง ต่อมาจะลามเป็นวงออกไปเรื่อยๆ และมักจะคันมาก ส่วนใหญ่มักพบในบริเวณที่มีความอับชื้น ดังนั้น ต้องดูแลรักษาความสะอาดของร่างกายให้ดี บางครั้งกลากอาจจะติดจากการใช้ของร่วมกับคนที่เป็นโรค หรือติดจากสัตว์เลี้ยงก็ได้

ผื่นผิวหนังอักเสบจากการติดเชื้อแบคทีเรีย-ในฤดูร้อนมีเหงื่ออกมาก ทำให้เกิดการมีกลิ่นตัวได้ง่าย โดยเฉพาะในบริเวณที่มีความอับชื้น เช่น รักแร้และในร่มผ้า

โรคเท้าเหม็น (Pitted Keratolysis) เป็นโรคที่มีการติดเชื้อแบคทีเรียที่ผิวหนังบริเวณชั้นนอก มีอาการเท้าแห้งลอก เท้าจะเหม็นมากกว่าคนทั่วไป มีหลุม รูพรุนเล็กๆ บริเวณฝ่าเท้าและง่ามเท้า

ผื่นผิวหนังอักเสบจากการติดเชื้อแบคทีเรีย (Erythrasma) จะมีลักษณะเป็นผื่นแดงแห้งๆ ออกน้ำตาล มักพบบริเวณรักแร้ ขาหนีบ ซอกนิ้วเท้า

ผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง (Atopic dermatitis)-มีโอกาสเกิดมากในช่วงฤดูร้อน เพราะมีเหงื่อเป็นตัวกระตุ้น จะมีลักษณะเป็นผื่นแดง แห้งลอก มีอาการคันมาก มักพบตามข้อพับแขน ข้อพับขา ใบหน้า แขน ขา ซอกคอ แนะนำควรหลีกเลี่ยงอากาศร้อนหรือมีฝุ่นละอองมาก เพราะอาจทำให้เกิดอาการคันมากขึ้น

ผื่นผิวหนังอักเสบบริเวณผิวมัน (Seborrheic dermatitis)-มีโอกาสเกิดได้เมื่อรับแสงแดดจัดหรือโดนความร้อนมากๆ จะมีลักษณะเป็นผื่นแดง มีสะเก็ดเป็นมัน ขอบเขตชัดเจน มักพบบริเวณร่องข้างจมูก หว่างคิ้ว หน้าหลังใบหู และหนังศีรษะ

นอกเหนือจากแสงแดดและความร้อน ฝุ่น PM 2.5 ก็เป็นปัจจัยที่สามารถทำลายผิวของเราได้ ดังนั้นจึงแนะนำให้ล้างทำความสะอาด ขจัดสารอนุภาคละอองฝุ่นที่ตกค้างออกจากผิวหนัง, ทาครีมให้ความชุ่มชื้นแก่ผิว เป็นการทำให้ชั้นผิวหนังมีความแข็งแรงมากขึ้น, และหลีกเลี่ยงการออกนอกอาคารโดยไม่จำเป็น หากมีความจำเป็นต้องออกนอกอาคาร ควรสวมหน้ากากที่มีคุณสมบัติป้องกันฝุ่นPM 2.5 ได้ รวมทั้งเลือกสวมใส่เสื้อแขนยาว และกางเกงขายาว เป็นต้น

หน้า 15 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 43 ฉบับที่ 3,881 วันที่ 23 - 26 เมษายน พ.ศ. 2566