กรุงเทพฯ ฮอต จุดหมายปลายทาง นักท่องเที่ยวทั่วโลก

30 ก.ค. 2565 | 09:00 น.
586

คอลัมน์ฐานโซไซตี โดย...ว.เชิงดอย

**** คอลัมน์ฐานโซไซตี หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3805 ระหว่างวันที่ 31 ก.ค. - 3 ส.ค.2565 โดย “ว.เชิงดอย” ประจำการนำเสนอข้อมูลข่าวสาร ที่มีสาระ เป็นประโยชน์ต่อสาธารณะเช่นเคย
    

*** ช่วงวันหยุดยาวขอนำ “ข่าวดี” สำหรับกรุงเทพมหานคร สำหรับประเทศไทย และสำหรับคนไทย มาเล่าสู่กันฟัง ซึ่งจะเป็นผลดีต่อเศรษฐกิจไทยอย่างมาก เมื่อ “อโกด้า” สื่อดิจิทัลด้านการท่องเที่ยวระดับโลก สำรวจจุดหมายปลายทางยอดนิยมของนักเดินทางทั่วโลก พบวา  "กรุงเทพมหานคร" ยังเป็นอันดับ 1 

*** อโกด้า เปิดเผยอันดับจุดหมายปลายทางยอดนิยมทั่วโลกในฤดูร้อน หลังจากการเดินทางระหว่างประเทศค่อย ๆ กลับมาเป็นปกติ และผู้คนมากขึ้นหันไปท่องเที่ยวนอกประเทศอีกครั้ง หลังจากที่สถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 บรรเทาลงมาเป็นระยะเวลาหนึ่ง รวมถึงประเทศไทยยกเว้นการลงทะเบียน Thailand Pass เมื่อวันที่ 1 ก.ค.2562 นักเดินทางชาวไทยต่างก็เตรียมตัวพร้อมบินไปพักผ่อนที่เมืองฮิตในทวีปเอเชียและยุโรป(อีกครั้ง)  


โดยจากข้อมูลการจองห้องพักของอโกด้า ที่ได้รวบรวมตั้งแต่เดือน พ.ค.ถึง ส.ค.2565 พบว่า จุดหมายปลายทางยอดนิยมระดับโลกปีนี้ "กรุงเทพมหานคร" ได้กลับขึ้นมาครองอันดับ 1 อีกครั้ง ด้วยข้อบังคับด้านเดินทาง และมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดที่ผ่อนคลายลงเกือบทั้งหมด รวมถึงสถานบันเทิงยามค่ำคืน ชายหาด วัดวาอาราม วัฒนธรรม และ อาหารมากมายหลากหลายที่พร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยว

*** “กรุงเทพมหานคร” เป็นจุดหมายปลายทางในภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิกอันดับ 1 สำหรับนักเดินทางชาวสหรัฐอเมริกา และ สหราชอาณาจักร รวมถึงยังอยู่ในในท็อป 3 สำหรับทุกภูมิภาคทั่วโลก โดยประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางอันดับ 1 สำหรับนักเดินทางชาวอินเดีย ตามมาด้วยอินโดนีเซีย สิงคโปร์ ฝรั่งเศส และสวิตเซอร์แลนด์ ตามลำดับ มาเลเซียเป็นจุดหมายปลายทางอันดับ 1 สำหรับนักเดินทางชาวสิงคโปร์ ตามมาด้วยไทย และอินโดนีเซีย ขณะที่จุดหมายปลายทางยอดนิยม 3 อันดับแรกในภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิกสำหรับนักเดินทางชาวอเมริกัน คือ กรุงเทพมหานคร มะนิลา และ โตเกียว


*** ขณะที่ส่วนจุดหมายปลายทางอื่น ๆ ใน 5 อันดับแรก ได้แก่ เกาะเชจู กัวลาลัมเปอร์ โตเกียว และ โซล ตามลำดับ นอกจากนี้ "พัทยา" ยังได้เลื่อนขึ้นมาอยู่ในอันดับ 8 ในฐานะเมืองชายฝั่งทะเล ที่ขึ้นชื่อในด้านความมีชีวิตชีวาของสถานบันเทิงยามค่ำคืน หาดทรายสีทอง อาหารรสเลิศ และโรงแรมที่สวยงามด้วย ส่วนที่จุดหมายปลายทางต่างประเทศยอดนิยม 5 อันดับแรกของนักเดินทางชาวไทย คือ เกาหลีใต้ สิงคโปร์ เวียดนาม ฝรั่งเศส และ สหราชอาณาจักร ตามลำดับ
    

*** ออมรี มอร์เกนสเติร์น ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหารอโกด้า กล่าวว่า อโกด้ามองว่าการเดินทางระหว่างประเทศกำลังค่อย ๆ กลับมาเป็นปกติในปีนี้ เนื่องจากข้อจำกัดด้านการเดินทางนั้นลดลงมาก แสดงให้เห็นว่าในช่วงสองปีที่ผ่านมาผู้คนตั้งหน้าตั้งตารอไปท่องเที่ยวอีกครั้ง ไม่ว่าจะเป็นในประเทศ หรือที่ประเทศอื่นในทวีปเอเชีย รวมถึงวางแผนที่จะใช้เวลาช่วงวันหยุดอย่างเต็มที่ การได้หวนนึกถึงความทรงจำดี ๆ และกลับไปยังสถานที่ท่องเที่ยวที่เคยไปดูเหมือนจะเป็นธีมของการเดินทางท่องเที่ยวในฤดูร้อนนี้ 


*** จากข่าวดีของประเทศไทย หันไปดูเรื่องราวทาง “การเมืองไทย”กันหน่อย ผ่านศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจกันไปทั้ง 11 คน สำหรับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ 10 รัฐมนตรีที่ถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจ ต่อไปนี้เกมในสภาคงไม่มีอะไรมาทำให้ “รัฐบาลประยุทธ์ 2” ต้องหนักใจอีกแล้ว จะมีก็แต่เรื่องการดำรงตำแหน่ง “นายกฯ 8 ปี” ของ พล.อ.ประยุทธ์ ที่ฝ่ายค้านบอกว่าจะครบ 8 ปีในวันที่ 23 ส.ค.2565 นี้ แต่บางฝ่ายก็บอกว่า 8 ปี ในวันที่ 23 ส.ค.2565 เพราะ พล.อ.ประยุทธ์ รับตำแหน่งนายกฯ ครั้งแรก เมื่อวันที่ 24 ส.ค.2557 ในยุครัฐบาล คสช. ส่วนอีกฝ่ายเห็นว่า ถ้ายึดถือตามรัฐธรรมนูญ 2560 พล.อ.ประยุทธ์ จะครบ 8 ปี ในวันที่ 8 มิ.ย.2570 …เรื่องนี้ในที่สุดต้องไปจบที่ “ศาลรัฐธรรมนูญ” ซึ่งจะเป็นผู้ชี้ชะตาอนาคตทางการเมืองของ พล.อ.ประยุทธ์ ว่าจะเป็นอย่างไรต่อไป


*** ผลพวกจากการลงมติอภิปรายไม่ไว้วางใจ ที่ก่อให้เกิด “สองมาตรฐาน” ในพรรคพลังประชารัฐ ทำห้ “มาดามเดียร์” วทันยา บุนนาค ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ออกมาโพตส์เฟซบุ๊ก ระบุว่า #ความยุติธรรมควรยึดตามความถูกต้องไม่ใช่ยึดตามพวกพ้องซึ่งต้องทำให้ถูกใจ #ความยุติธรรมไม่สำคัญเท่ากับคุณเป็นคนของใคร #ความยุติธรรมที่ไม่เท่าเทียม …เดียร์ยังคงยืนยันหนักแน่นในเจตนารมณ์การสนับสนุนเอกสิทธิ์ของ ส.ส.ลงมติการอภิปรายไม่ไว้วางใจ เพราะกลไกดังกล่าว คือหนทางเดียวของการถ่วงดุลตรวจสอบการทำงานที่ถูกต้องระหว่างอำนาจฝ่ายบริหารและอำนาจฝ่ายนิติบัญญัติที่มาจากประชาชน ทั้งนี้เจตนารมณ์ดังกล่าวต้องถูกนำไปใช้โดยบริสุทธิ์ ปราศจากอคติ และการต่อรองเงื่อนไขใดๆ อย่างไรก็ตาม “เดียร์ขอแสดงความยินดีกับกลุ่ม ส.ส.สมุทรปราการ ล่วงหน้าที่จะได้รับการปูนบำเหน็จเก้าอี้รัฐมนตรีในการปรับ ครม. ครั้งหน้าด้วยนะคะ” พร้อมตบท้ายว่า คนหนึ่งโดนลงทัณฑ์..คนหนึ่งได้รับรางวัล?


*** ความเดิมก็คือว่า ก่อนหน้านั้น ส.ส.กลุ่มดาวฤกษ์ นำโดย มาดามเดียร์ วทันยา ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ โหวตงดออกเสียง นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งที่ 2 ของรัฐบาล เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2564 ปรากฏว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ แสดงความไม่พอใจอย่างมาก และยังถูกพรรคภูมิใจไทยกดดันอย่างหนักให้ลงโทษ ส.ส.ที่งดออกเสียง โดยอ้างว่าทำผิดมารยาท ทั้งๆ ที่การโหวตเป็นเอกสิทธิ์ของ ส.ส. และเป็นการงดออกเสียง ไม่ใช่โหวตสวน ขณะที่ภายในพรรคพลังประชารัฐเอง ก็มี ส.ส.บางกลุ่มร่วมวงกดดันหลายอย่าง เช่น กดดันให้ลาออกจากวิปรัฐบาล เป็นต้น 


*** ต่อมาทางพรรคได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวนข้อเท็จจริง และพิจารณาโทษของ ส.ส.ที่โหวตไม่ตรงกับแนวทางของพรรค โดยมี นายไพบูลย์ นิติตะวัน เป็นประธาน  บทสรุปของคณะกรรมการ คือ ลงโทษไม่ให้ ส.ส.กลุ่มนี้ รวมทั้งมาดามเดียร์ วทันยา บุนนาค รับตำแหน่งทางการเมืองต่างๆ เช่น ตำแหน่งกรรมาธิการ เป็นเวลา 6 เดือน เรื่องนี้จึงทำให้เกิดคำถามถึงมาตรฐานของพรรคพลังประชารัฐ และ พล.อ.ประวิตร หัวหน้าพรรค ไปพบกับ.ส.กลุ่มสมุทรปราการ ที่โหวตสวนไม่ไว้วางใจ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ปรากฏว่า พล.อ.ประวิตร  ออกตัวแทนว่า กลุ่ม ส.ส.สมุทปราการ ขอโทษแล้ว ไม่ต้องมีการสอบสวน แต่จะลงโทษอย่างไร ไว้ค่อยว่ากันอีกทีหนึ่ง ขณะเดียวกัน พล.อ.ประวิตร ยังออกมาให้สัมภาษณ์ว่า รัฐบาล รัฐมนตรีทุกคน โดยเฉพาะในพื้นที่สมุทรปราการ มี ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ ก็ร่วมมือร่วมใจกับรัฐบาลในการทำงานทุกอย่าง พร้อมขอขอบคุณประชาชนที่เลือกพรรคพลังประชารัฐ ถึง 6 คน ซึ่งถึงแม้ได้ ส.ส.มากแต่ยังไม่ได้รัฐมนตรี ไม่ต้องห่วงครับ ยังไงก็ต้องได้อะครับ ยังไงก็ต้องได้ เพราะว่าทำงานให้รัฐบาลก็ต้องได้รับการพิจารณานะครับ หลังจากปรับ ครม.เมื่อไหร่ก็ต้องได้ จะได้เป็น..