ธุรกิจครอบครัวจะยืนหยัดได้อย่างยั่งยืน ต้องเริ่มจาก “การวางคนให้เหมาะกับบทบาท” เพราะศักยภาพของสมาชิกแต่ละคนคือ “พลังขับเคลื่อนสำคัญ” ที่ฉายแสงได้เต็มที่เมื่ออยู่ในตำแหน่งที่ใช่ แม้บางครั้งการทำงานร่วมกันอาจเจอความท้าทายจากความแตกต่างของศักยภาพ แต่หากรู้จักเสริมจุดแข็งและจัดสรรหน้าที่ให้สอดคล้องกับความสามารถ
สมาชิกในครอบครัวมักทุ่มเทได้เหนือกว่าพนักงานทั่วไปหลายเท่า บทความนี้จะเผย 6 บทบาทสำคัญของสมาชิกครอบครัวที่เปรียบดั่ง “ฟันเฟือง” และ “รากฐานที่แข็งแกร่ง” ช่วยให้องค์กรเติบโตอย่างมีเสถียรภาพ และผ่านทุกอุปสรรคไปด้วยกันได้อย่างมั่นคง
1. ผู้ไกล่เกลี่ยความขัดแย้ง (The Mediator) แม้ความขัดแย้งเป็นเรื่องธรรมดา แต่ในธุรกิจครอบครัวอาจบานปลายได้ง่ายเพราะความสัมพันธ์ที่ซับซ้อน แม้แต่อารมณ์ขัดแย้งเล็กน้อยก็ส่งผลร้ายต่อทั้งธุรกิจและครอบครัวได้ ผู้ไกล่เกลี่ยคือคนที่จับตาดูความตึงเครียดระหว่างคนในครอบครัว และรีบเข้ามาเจรจาไกล่เกลี่ยอย่างตรงไปตรงมา เขามองเห็น “ภาพใหญ่” ของธุรกิจ จึงโฟกัสที่เป้าหมายร่วมมากกว่าความแตกต่าง แม้บทบาทนี้จะไม่เด่นชัดสำหรับคนนอก แต่เขาคือผู้คอยประคองไม่ให้ธุรกิจและครอบครัวแตกหัก
2. ผู้กล้ารับความเสี่ยง (The Risk Taker) ธุรกิจครอบครัวมักระมัดระวังเรื่องเงินและมุ่งเน้นกำไรระยะยาว แต่บางครั้งการตัดสินใจช้าก็อาจทำให้เสียโอกาสได้ แม้บางคนมองว่าไม่ระวัง แต่ “ผู้กล้ารับความเสี่ยง ” คือคนที่กล้าตัดสินใจถูกจังหวะ แม้ดูเสี่ยง เพราะมองเห็นโอกาสที่คนอื่นไม่กล้าไขว่คว้า การเดิมพันที่เหมาะสมอาจสร้างกำไรมหาศาลได้ และเขาคือคนที่พร้อมคว้าโอกาสนั้นก่อนใคร
3. ผู้ปฏิบัติจริง (The Pragmatist) ธุรกิจครอบครัวมีงานยุ่งทั้งจัดการงานซับซ้อน ดูแลเอกสารกฎหมาย บัญชี และงานประจำน่าเบื่อ พร้อมรักษาความสัมพันธ์ครอบครัว แม้หลายคนอยากทำแต่เรื่องที่ชอบ แต่การหลีกเลี่ยงงานสำคัญจะสร้างปัญหา “นักปฏิบัติจริง” คือคนที่ยอมลุยงานหนัก จัดการงานที่คนอื่นไม่ยอมทำ เพราะรู้ว่าถ้าไม่ทำเดี๋ยวก็ย้อนกลับมาเป็นเรื่องใหญ่ ไม่เหมือนคนที่คิดแต่เรื่องเพ้อฝัน เขาคือผู้ลงมือทำจริงๆ จนช่วยธุรกิจและครอบครัวให้ผ่านวิกฤตได้
4. ผู้นำตัวจริง (The Leader) ผู้นำธุรกิจครอบครัวส่วนใหญ่ส่งต่อผ่านการสืบทอดตำแหน่ง โดยมักยึดตามลำดับการเกิดเป็นหลัก ผู้นำจึงต้องพิสูจน์ความสามารถและคุณค่าของตัวเองเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้ทั้งพนักงานและสมาชิกครอบครัว ผู้นำที่แท้จริงต้องเข้าใจองค์กรอย่างลึกซึ้ง
รู้วิธีจุดประกายศักยภาพของคนในทีม และนำพาทุกคนไปสู่เป้าหมายเดียวกันมีน้ำหนึ่งใจเดียว เป็นผู้ชนะใจคนด้วยวิสัยทัศน์ชัดเจน และสร้างแนวทางปฏิบัติได้จริงเป็นรูปธรรม แม้องค์กรจะมีพื้นที่สำหรับผู้นำหลายคน แต่สมาชิกครอบครัวเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่พร้อมรับบทบาทนี้ได้อย่างแท้จริง
5. ผู้สร้างสรรค์นวัตกรรม (The Creative) ธุรกิจครอบครัวมักถูกมองว่าเชยและไม่ยอมเปลี่ยน เพราะยึดความเชี่ยวชาญที่ส่งต่อกันหลายรุ่น แม้วิธีเดิมอาจจะดีแต่ก็เสี่ยงที่จะล้าหลังในโลกที่กำลังเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว “นักสร้างสรรค์นวัตกรรม” คือผู้จุดประกายนวัตกรรม ปรับธุรกิจด้วยแนวทางพลิกเกม ไม่ว่าจะทำงานส่วนไหนอย่างบัญชี ขาย หรือลอจิสติกส์ ก็ใช้มุมมองใหม่พัฒนาองค์กรให้ทันสมัย เขาคือกำลังสำคัญที่ขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงได้ทุกตำแหน่ง
6. ผู้ปกป้องความสัมพันธ์ในครอบครัว (The Family Champion) ธุรกิจครอบครัวส่งผลต่อเศรษฐกิจโลกอย่างยิ่ง และความสำเร็จเกิดจากความพิเศษของ “ครอบครัว” ที่มีทั้งข้อดีและข้อเสียจนทำให้ธุรกิจแข็งแกร่ง แต่เมื่อเวลาผ่านไป ความเครียดจากการบริหารงานอาจทำลายสายสัมพันธ์นี้ได้ นักปกป้องความสัมพันธ์จึงเป็นผู้คอยฟื้นฟูและรักษาความเป็นครอบครัวไว้
แม้อาจไม่ได้ทำงานในธุรกิจโดยตรง แต่เขาคือคนที่ยึดหลัก “ครอบครัวต้องมาก่อน” และลงมือทำทุกอย่างเพื่อให้ทุกคนยังคงรวมตัวเป็นหนึ่งเดียว ไม่ว่าจะเป็นลุงที่คอยจัดปาร์ตี้บาร์บีคิวหรือแม่ที่จัดมื้อเย็นรวมญาติทุกสัปดาห์ คนเหล่านี้คือแรงสนับสนุนสำคัญที่มองไม่เห็นแต่ขาดไม่ได้ของธุรกิจครอบครัว
ที่มา: James Lee. 2014. The 6 Types of Family Members You Need in Your Family Business. Available:
https://www.tharawat-magazine.com/grow/6-essential-family-business-members/