แนวทางปฏิรูป-เปิดประเทศ สู่การฟื้นฟูความรุ่งเรืองของจีน

11 ก.พ. 2566 | 10:00 น.

แนวทางปฏิรูป-เปิดประเทศ สู่การฟื้นฟูความรุ่งเรืองของจีน : คอลัมน์ลวดลายมังกร โดย... พลโท ดร.ไชยสิทธิ์ ตันตยกุล ผู้เชี่ยวชาญด้านยุทธศาสตร์และการป้องกันประเทศ หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3860

พลโท ดร.ไชยสิทธิ์ ตันตยกุล ผู้เชี่ยวชาญด้านยุทธศาสตร์และการป้องกันประเทศ ได้ประมวลและนำเสนอประเด็นสำคัญที่ ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง เน้นย้ำในการปฏิรูปและเปิดประเทศ เพื่อนำไปสู่การฟื้นฟูความรุ่งเรืองของประชาชาติจีน กล่าวคือ 

1.เป้าหมายเชิงยุทธศาสตร์ในการพัฒนาเศรษฐกิจจีน ก็คือ สร้างระบบเศรษฐกิจสมัยใหม่ บนพื้นฐานการปรับขึ้นคุณภาพ ประสิทธิภาพ และแรงขับเคลื่อน ยกอัตราการผลิตให้สูงขึ้นทุกด้าน เพิ่มความคิดสร้างสรรค์และกำลังการแข่งขันทางเศรษฐกิจให้เข้มแข็งขึ้น  

จีนจะแน่วแน่ปฏิบัติตามแนวคิดการพัฒนาใหม่ มุ่งปฏิรูปโครงสร้างจากแง่อุปทานเป็นแนวหลัก และเดินหน้าสร้างอุตสาหกรรม เทคโนโลยีสารสนเทศ เมือง และเกษตรกรรมสมัยใหม่ 

เร่งสร้างประเทศให้เป็นประเทศที่มีความสร้างสรรค์ ดำเนินยุทธศาสตร์สร้างเขตชนบทให้มีความเจริญ ดำเนินยุทธศาสตร์การพัฒนาภูมิภาคอย่างกลมกลืนกัน เร่งปรับระบบเศรษฐกิจตลาดสังคมนิยมให้สมบูรณ์ขึ้น ตลอดจนเปิดเสรีทางเศรษฐกิจในระดับที่สูงยิ่งขึ้น

2.จีนจะพิทักษ์อธิปไตย ความมั่นคงและสิทธิประโยชย์ด้านการพัฒนาของประเทศตนอย่างเด็ดเดี่ยว พร้อมกันนี้ จะยึดนโยบายเปิดเสรีตามหลักการแห่งการอำนวยประโยชน์และได้ชัยชนะด้วยกัน  ยกคุณภาพและระดับแห่งการเปิดเสรีให้สูงขึ้นต่อไป 

จีนจะยืนหยัดเดินหนทางแห่งการพัฒนาที่สันติ ใช้ทฤษฎีความรับผิดชอบ และประโยชน์ที่ถูกต้อง ชูวิสัยทัศน์การบริหารโลกด้วยการร่วมหารือ ร่วมสร้าง และร่วมแบ่งปัน มีส่วนร่วมในการปฏิรูปและสร้างระบบการบริหารโลกอย่างจริงจัง เดินหน้าสร้างประชาคมที่มีความผูกพันของมวลมนุษย์

3.ใช้แผนนำร่องว่าด้วยการปฏิรูประบบตรวจสอบแห่งชาติทั่วประเทศ ซึ่งกำหนดแนวทางปฏิบัติในการลงลึก ปฏิรูประบบการตรวจสอบเจ้าหน้าที่รัฐที่ใช้อำนาจสาธารณะทั้งปวงในทั่วประเทศ โดยจะจัดตั้งคณะกรรมการตรวจสอบระดับมณฑล เมือง และ อำเภอ โดยการนำร่องปฏิรูประบบการตรวจสอบในกรุงปักกิ่ง มณฑลซานซี และ มณฑลเจ้อเจียง เรียบร้อยแล้ว จึงกำหนดให้เดินหน้านำร่องสู่พื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศ

ขณะเดียวกัน พลโท ดร.ไชยสิทธิ์ ยังได้นำเสนอข้อมูลกรณีที่คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ได้จัดการอภิปรายอย่างเปิดเผยเกี่ยวกับการสร้างสันติภาพ เมื่อวันที่ 26 ม.ค.2566 โดย นายจาง จวิน ผู้แทนถาวรของจีนประจำสหประชาชาติ ได้เน้นย้ำ 4 ประเด็นในที่ประชุม ประกอบด้วย งานสร้างสันติภาพต้องยึดหลักการพัฒนาเป็นหลัก การยึดประชาชนเป็นศูนย์กลาง การปฏิบัติงานให้ดีในการเสริมสร้างศักยภาพ รวมทั้งการส่งเสริมขันติธรรมและความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน

สำหรับหัวข้อของการอภิปรายในวันนั้นคือ "การลงทุนในบุคลากรเพื่อสร้างความยืดหยุ่นต่อความท้าทายที่ซับซ้อน" โดย นายจาง จวิน กล่าวสุนทรพจน์ว่า การสร้างสันติภาพเป็นส่วนสำคัญในการบรรลุสันติภาพที่ยั่งยืน และมีความสำคัญและโดดเด่นยิ่งกว่าในสถานการณ์ปัจจุบัน จีนสนับสนุนคณะมนตรีความมั่นคงในการหารือเชิงลึกเกี่ยวกับประเด็นนี้ รวมทั้งดำเนินการร่วมกับคณะกรรมาธิการการสร้างสันติภาพแห่งสหประชาชาติและหน่วยงานต่างๆ ของสหประชาชาติ ซึ่งเน้นใน 4 ประเด็นดังต่อไปนี้

                               แนวทางปฏิรูป-เปิดประเทศ สู่การฟื้นฟูความรุ่งเรืองของจีน

ประเด็นแรก งานสร้างสันติภาพควรยืนหยัดในการให้ความสำคัญกับการพัฒนา สำหรับหลายประเทศ การพัฒนาเป็นทางออกพื้นฐานสำหรับความท้าทายต่างๆ ในการสร้างสันติภาพ โดยต้องยึดมั่นในลำดับความสำคัญของการพัฒนา เน้นทรัพยากรในการขจัดความยากจน รับประกันการดำรงชีวิตของผู้คน เผยแพร่การศึกษา สาธารณสุข และสาขาอื่นๆ  

และสนับสนุนการพัฒนาอุตสาหกรรม การเกษตร และโครงสร้างพื้นฐานให้ทันสมัย ประเทศที่พัฒนาแล้วต้องปฏิบัติตามคำมั่นสัญญาอย่างจริงจังเกี่ยวกับความช่วยเหลือด้านการพัฒนาอย่างเป็นทางการ และการจัดหาเงินทุนด้านสภาพอากาศ และชดเชยหนี้ในอดีต สถาบันการเงินระหว่างประเทศควรปฏิบัติตามความรับผิดชอบของตน มีส่วนร่วมอย่างลึกซึ้งในงานสร้างสันติภาพ และสร้างความร่วมมือ

ประเด็นที่สอง งานสร้างสันติภาพต้องยึดแนวทางที่มีประชาชนเป็นศูนย์กลาง งานรักษาสันติภาพและการสร้างสันติภาพของสหประชาชาติควรรักษาเจตนารมณ์ดั้งเดิมของ "กฎบัตรสหประชาชาติ" ยึดมั่นในแนวคิดที่มีประชาชนเป็นศูนย์กลาง และปกป้องผลประโยชน์ของประชาชนในทุกประเทศ พัฒนาความเป็นอยู่และความเป็นอยู่ของประชาชน และสนับสนุนประชาชนในการแสวงหาชีวิตที่ดีขึ้นเป็นเป้าหมายของการต่อสู้  

งานสร้างสันติภาพของสหประชาชาติควรเคารพอธิปไตย และความเป็นผู้นำของประเทศที่เกี่ยวข้องอย่างเต็มที่ สนับสนุนพวกเขาในการสำรวจเส้นทางการพัฒนาที่เหมาะสมกับสภาพของประเทศตนเอง และโดยเฉพาะอย่างยิ่งสร้างเงื่อนไขที่เอื้ออำนวยและสภาพแวดล้อมระหว่างประเทศสำหรับการพัฒนาของทุกประเทศ

ประเด็นที่สาม ในการทำงานสร้างสันติภาพ เราต้องทำงานที่ดีในการเสริมสร้างศักยภาพประเทศหลังความขัดแย้งอยู่ในภาวะคับขัน และเป็นการยากที่จะพึ่งพา "การถ่ายเลือด" จากภายนอกเพียงอย่างเดียว จำเป็นต้องตระหนักถึงการเปลี่ยนจาก "การถ่ายเลือด" เป็น "การผลิตเลือด" การเสริมสร้างขีดความสามารถในทุกด้านคือสิ่งสำคัญที่สุด ลำดับความสำคัญ

ประเด็นที่สี่ การสร้างสันติภาพควรส่งเสริมความครอบคลุมและความสามัคคี เป็นภารกิจสำคัญสำหรับประเทศหลังความขัดแย้ง ที่จะต้องประกันว่า ทุกกลุ่มและทุกชั้นของสังคมมีส่วนร่วมในการปกครองของรัฐบนพื้นฐานที่เท่าเทียมกัน และตระหนักว่าประชาชน คือ นายของประเทศ สำหรับประเทศกำลังพัฒนาจำนวนมากที่มีความขัดแย้งภายใน  

ในขณะที่เคารพความหลากหลายและการมีส่วนร่วม ทุกฝ่ายต้องก้าวข้ามความแตกต่างทางชาติพันธุ์และพรรคพวก เพื่อร่วมกันรักษาเสถียรภาพของชาติในระยะยาว กองกำลังภายนอกควรมีบทบาทที่สร้างสรรค์และละเว้นจากการแทรกแซงกิจการภายในของประเทศอื่น ๆ โดยพลการ การต่อสู้กับฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งรังแต่จะยิ่งเพิ่มการแบ่งแยกและการเผชิญหน้าทำให้สถานการณ์ซับซ้อนและวุ่นวายมากขึ้น

นอกจากนี้ นายจาง จวิน กล่าวว่า จีนจะยังคงสนับสนุนการสร้างสันติภาพต่อไปด้วยการปฏิบัติจริง และนำไปสู่การบรรลุถึงสันติภาพที่ยั่งยืน

(ข้อมูลจากเว็บไซต์ http://www.gov.cn/xinwen/2021-07/03/content_5622084.htm , http://www.qstheory.cn/zhuanqu/2021-07/14/c_1127655296.htm ) และเว็บไซต์ https://www.csjcs.com/news/show/141/1539049_0.html )