"ราชาฤกษ์" รหัสลับวิถีการเมืองวันนี้

เคยกล่าวถึงโหรระดับครูบาอาจารย์ในอดีตมาครั้งหนึ่ง ที่มีความรู้ความสามารถในเรื่องของการวางฤกษ์

 

โหรทางการเมืองชั้นครู​ ถ้าไม่นับโหรแฉล้ม​ เลี่ยมเพ็ชรรัตน์​ บรมครูสุดยอดแห่งสยาม​ ตลอดทั้งโหรตาทิพย์อย่าง โหรเทพย์ สาริกบุตร, โหรประจวบ​ วัชรปาณ,​ ชื่อของโหรฌานศิลป์ก็ไม่ธรรมดา​ เคยพยากรณ์แม่นกระทั่งโดนผู้มีอำนาจอย่าง​จอมพลม้าขาวแดง จับเข้าคุกและส่งโรงพยาบาลบ้ามาแล้ว​ ทั้งๆ ที่ไม่ได้บ้าแต่ประการใด

 

กระแสข่าววันนี้ที่หลายคนสนใจก็คือคำว่าราชาฤกษ์ ดูเหมือนจะเป็นรหัสลับของวิถีการเมืองในวันนี้ที่เชื่อกันว่านายกลุงตู่อาจใช้ฤกษ์งามยามดี​ ในการที่จะประกาศยุบสภา ด้วยฤกษ์อันเป็นมงคลยิ่งที่เรียกว่า​ "ราชาฤกษ์"

 

ซึ่งความหมายทางโหราศาสตร์​ ฤกษ์นี้​ตามตำราโบราณ​ คือ​ ​ ฤกษ์ที่ ๘, ๑๗ และ ๒๖ เรียกว่า ราชาฤกษ์ แปลว่า ผู้ยิ่งใหญ่ ผู้มีอำนาจวาสนา พระเจ้าแผ่นดิน มีพระศุกร์เป็นผู้รักษาฤกษ์ บาทฤกษ์ทั้ง ๔ อยู่ในราศีเดียวกัน เรียกว่า บูรณะฤกษ์ เป็นฤกษ์เฉพาะกิจการของผู้หลักผู้ใหญ่ ผู้นำกิจการขึ้นไปจนถึงพระราชา เป็นฤกษ์ที่เหมาะสำหรับ งานราชพิธี งานราชการงานเมือง สร้างที่ประทับ งานที่ต้องการชักจูงให้ผู้อื่นดำเนินตาม การเข้ารับตำแหน่งงาน การแสวงหาชื่อเสียงเกียรติยศ การเข้าหาผู้หลักผู้ใหญ่ งานมงคลสมรสที่หรูหรามีเกียรติ ลาสิกขา การขึ้นบ้านใหม่ (สามัญชนควรเว้น ถ้าหาฤกษ์ไม่ได้ก็พออนุโลมใช้ได้ หากดวงชะตาความเหมาะสม) และงานมงคลทั้งปวง

การใช้​ "ราชาฤกษ์" เพื่อสร้างขวัญกำลังใจในทางการเมือง​ ย่อมทำให้เกิดความคึกคัก ฮึกเหิมเพื่อให้ได้สมปรารถนา​

 

ในปีนี้ ราชาฤกษ์ในไตรมาสแรกของปี​ เห็นจะมีวันที่ 26 ม.ค.2566 เวลา ​20:27 น. แต่ถ้าหากฤกษ์เพื่องานการเมืองตั้งแต่โบราณกาล ตามตำรารามัญนั้นจะแตกต่างจากโหราศาสตร์ไทย​ เพราะต้องใช้หลายส่วนของวิถีดวงดาวเข้ามาผนวกกัน จึงจะได้ราชาฤกษ์อันเข้มขลังและแน่น​ อาทิ​ ใช้ดวงเมืองนั้นๆ เป็นที่ตั้ง​ ใช้ดวงของเจ้าของดวงชะตาที่จะปกครองเมืองนั้นเข้ามาร่วม​ ใช้ดาวประจำเมืองคือดาวศุกร์เป็นวิถีแทรกเพื่อตัดองศาแล้วจะได้เห็นชัดว่า​ เวลาใดกันแน่ที่เหมาะแก่การทำสิ่งต้องการ​

 

โหรทั่วไปอาจใช้ตำราฤกษ์ยามสำเร็จรูปจากปฏิทินโหรซึ่งไม่ผิด แต่ทว่าอาจเป็นการเมืองในวิถีเดียว แต่งานทางการเมืองควรใช้วิถีดาวมาประกอบจะเห็นชัด​

 

เมื่อเราลองคำนวณนำเอาดวงชะตาเมือง​ ดวงชะตานายกฯ และ​ วิถีของดาวศุกร์เข้ามาประกอบจะพบว่า​ วันที่ 22 มีนาคม 2566​ เป็นวิถีที่เหมาะ​เป็นราชาฤกษ์ใหญ่​ โดยมีการเริ่มวิถีตั้งแต่ 21 มีนาคม เวลา 18:56 น.ไปถึง 22 มีนาคม เวลา​ 17:03 น. ถ้าจะประกาศการใดทางงานสำคัญ ​หรืออย่างในบริบทนี้จะประกาศยุบสภาก็ทำได้​ แต่ทว่าดูทางจะใกล้กับเวลาที่สภาจะอายุหรือไม่​

 

แต่การใช้ฤกษ์ระดับสูงแบบนี้​ สำหรับสามัญชนแม้จะเป็นผู้นำทางด้านการบริหารจุดเสี่ยงก็มีอยู่ ​ถ้าหากชะตาของผู้นั้นไม่ดีมากพอ​ หรือ​ขาดซึ่งคุณธรรม​ก็อาจพลาดพลั้งได้​ แต่สำหรับนายกรัฐมนตรี​ ลุงตู่​ เคยเขียนผ่าดวงไปแล้วว่าดวงยังดีอีก 3 ปี ​คือถึง พ.ศ.2568​ จึงเคยชี้เปรี้ยงไปว่า​ แม้เลือกตั้งครั้งหน้า​ นายกรัฐมนตรี​ ก็ยังสามารถกลับมาได้ครองตำแหน่งอีกครั้งหนึ่ง​ หากแม้มีเหตุใดๆ ให้เลื่อนให้ว่างเว้นการเลือกตั้งก็ยังคงได้ครองตำแหน่งไปได้เช่นกัน​

ผู้เป็นนักพยากรณ์ เป็นโหราจารย์​ ต้องมีใจเที่ยงธรรม​ ว่าตามวิถีแห่งดวงดาว​ โดยเฉพาะผู้ที่เกี่ยวข้องกับการเมือง​ มิเช่นนั้นจิตใจจะเอนเอียง ฝักใฝ่และเลือกข้าง แม้รู้จักนักการเมืองมากมาย​ก็คือ​มิตรสหาย​ มิได้มีประโยชน์โพดผลใดๆ ร่วมด้วยไม่ ทั้งทางตรงและทางอ้อม​ ทุกอย่างต้องตรงไปตรงมาตามวิถีแห่งดวงดาว มิเช่นนั้นจะผิดครู แต่วิถีแก้ร้ายให้คลายคืนนั้นพอมีอยู่บ้าง ถ้าทำอุ้มดาวร้ายให้คลายคืน​ เหมือนที่เสาหลักเมืองต้นที่สอง​ ที่นำพลังฤกษ์ยาม และวิถีดาวมาโอบอุ้มเสาหลักเมืองต้นแรก​ นั้นเป็นแบบอย่างหนึ่ง​

 

ราชาฤกษ์​ ไม่เหมาะกับนักการเมืองประเภทที่คิดทรยศต่อแผ่นดิน​ คิดกบฏต่อแผ่นดินเกิด​ เพราะแสงแห่งดาวฤกษ์นั้นจะย้อนทำลาย​

 

ในอดีตก็เคยมีการใช้ราชาฤกษ์เช่นนี้ แต่ทว่าอาจผิดพลาดด้านเวลาการนัดหมาย​ หรือไม่ดวงผู้ก่อการไม่ถึง​ ทำให้ทั้งโหร ทั้งผู้คิดก่อการไปอยู่เกาะตะรุเตากันหมดก็มีมาแล้ว ในยุค พ.ศ.2478 และ​ พ.ศ.2482 ทั้งที่บางคนก็มิได้ผิดแบบเป็นผู้คิดก่อการ แค่ทำหน้าที่ตามจรรยาแห่งอาชีพเท่านั้น

 

เหมือนเคยกล่าวไว้ครั้งหนึ่ง​ ปืนใหญ่หน้ากระทรวงกลาโหม​ ควรนำไปไว้ในพิพิธภัณฑ์แห่งให้หมด​ ไม่ใช่หันเข้าหาเสาหลักเมืองเยี่ยงนั้น​ เพราะทำให้ขัดฤกษ์ขัดยาม​ เพราะปืนใหญ่สมัยก่อนทุกกระบอกจะว่าคาถาในขณะเทหล่อ สร้าง​เพื่อทำลายศัตรู​ แล้วหันปลายกระบอกมาทางเสาหลักเมือง แล้วจะหาความสงบทางไหน​ได้​ อันนี้เป็นเพียงคติ​ ซึ่งบางคนอาจคิดว่าหาเกี่ยวไม่​ ก็สุดแท้แต่เหตุปัจจัย​

 

ราชาฤกษ์เป็นฤกษ์ใหญ่​ เป็นรหัสลับทางวิถีการเมืองวันนี้ เพื่อหาเวลาที่เหมาะสมในการทำงานการเมือง​ ใครก็ตามถ้าคิดทำงานการเมืองเพื่อแผ่นดินประชาชนโดยแท้จริง​ และดำรงไว้ในสถาบันหลักคือ​ ชาติ​ ศาสน์​กษัตริย์​  แม้ฤกษ์ยามเบาบางก็ยังอาจสำเร็จได้ เพราะพลังแห่งธรณีนี้มีวิถีตรงตามดวงดาวบนฟากฟ้าตั้งแต่ที่เริ่มก่อตั้งกรุง​

 

ดวงดาวพูดความจริงเสมอ...

 

ติดตาม ราชรามัญ ได้ที่นี่