3 ข่าวดี ของประเทศไทย

12 มิ.ย. 2565 | 10:00 น.
2.7 k

คอลัมน์ฐานโซไซตี โดย...ว.เชิงดอย

*** คอลัมน์ฐานโซไซตี หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3791 ระหว่างวันที่ 12-15 มิ.ย.2565 โดย “ว.เชิงดอย” ประจำการนำเสนอข้อมูลข่าวสาร ที่มีสาระ เป็นประโยชน์ต่อสาธารณะเช่นเคย 


*** ไปเริ่มกันที่ข่าวดีดีก่อน เป็นข่าวดีเกี่ยวกับสถานการณ์การแพร่การแพร่ระบาดของ “โควิด-19” ในประเทศไทย ที่ นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ออกมาบอกว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิดในปัจจุบันที่ดีขึ้นตามลำดับ โรคนี้น่าจะเข้าสู่ระยะท้ายๆ แล้ว ทุกจังหวัดเข้าสู่ระยะขาลง (declining) ไม่มีการระบาดใหญ่ เปิดเทอมก็ไม่พบปัญหา เปิดสถานบันเทิงก็ยังไม่พบปัญหา แต่เฝ้าระวังต่อว่าจะมีปัญหาในอนาคตหรือไม่ มีการประเมินคาดการณ์โดยผู้เชี่ยวชาญว่า เราผ่านระยะการระบาดใหญ่มาแล้ว สามารถเข้าสู่การดูแล เฝ้าระวังตามสมควร ส่วนจะประกาศลดระดับการเตือนภัยโควิด-19 หรือไม่ ขอรอดูสถานการณ์หลังเปิดผับบาร์ก่อน คาดว่ากลางเดือนมิ.ย.นี้

*** ข่าวดีเรื่องที่สองคือ หลังไทยฟื้นความสัมพนธ์กับประเทศซาอุดิอาระเบีย โอกาสดีดีหลายอย่างก็ตามมา โดยเฉพาะด้าน “แรงงานไทย”ที่กำลังมองหางานทำ หรืออยากจะเปลี่ยนงาน ล่าสุด สุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ออกมาเปิดเผยว่า กระทรวงแรงงาน โดยกรมการจัดหางาน ได้เปิดรับสมัครคนหางานเพื่อไปทำงานที่ซาอุดีอาระเบียกับนายจ้าง มีตำแหน่งงานต่าง ๆ รวมทั้งสิ้น 309 อัตรา ระยะเวลาการจ้าง 2 ปี สามารถต่ออายุได้ ซึ่งตำแหน่งงานที่รับก็มีทั้ง พยาบาลวิชาชีพ ที่รับ100 อัตรา ค่าจ้างเดือน 29,163 บาท พยาบาลผู้ดูแล  100 อัตราค่าจ้างเดือนละ 27,340 บาท ผู้ช่วยพยาบาล 100 อัตรา ค่าจ้างเดือนละ 26,429 บาท  


*** นอกจากนั้นยังมีตำแหน่งงานด้าน ช่างเชื่อม 3 อัตรา ค่าจ้างเดือนละ 16,404 – 18,227 บาท ช่างไฟฟ้าอุตสาหกรรม 3 อัตราค่าจ้างเดือนละ 22,783 – 27,340 บาท ผู้ควบคุมเครื่องกลึง 3 อัตรา ค่าจ้างเดือนละ 22,783 – 27,340 บาท เอา...ใครสนใจ สามารถยื่นใบสมัครได้ด้วยตนเอง ที่สำนักงานจัดหางานจังหวัดทุกจังหวัด สำนักงานจัดหางานกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1-10 หรือ กองบริหารแรงงานไทยไปต่างประเทศ ฝ่ายจัดส่งไปทำงานไต้หวันและประเทศอื่น ๆ ชั้น 12 อาคารสำนักงานประกันสังคม กรุงเทพมหานครพื้นที่ 3 ถนนมิตรไมตรี แขวงดินแดง เขตดินแดง กรุงเทพมหานคร ระหว่างวันที่ 15 – 23 มิ.ย.2565 นี้  และประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิสอบสัมภาษณ์ภายในวันที่ 6 ก.ค.2565 ทางเว็บไซต์ กองบริหารแรงงานไทยไปต่างประเทศ หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ สายด่วนกระทรวงแรงงาน โทร. 1506 กด 2 กรมการจัดหางาน หรือสายด่วนกรมการจัดหางาน โทร. 1694
 

*** พูดถึง “ประเทศซาอุฯ” อีกด้านหนึ่งก็มีข่าวที่จะเป็นผลดีต่อเรื่อง “การท่องเที่ยวของไทย” โดยเมื่อวันอังคารที่ 7 มิ.ย.2565 ที่ผ่านมา หลังการประชุมครม.ของไทย ดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.ต่างประเทศ ได้ออกมาเปิดเผยว่า ครม.เห็นชอบให้เพิ่มราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย ในรายชื่อประเทศที่ผู้ถือหนังสือเดินทาง หรือ เอกสารใช้แทนหนังสือเดินทาง ซึ่งเข้ามาในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราว เพื่อการท่องเที่ยวได้รับการยกเว้นการตรวจลงตรา และอยู่ในราชอาณาจักรไม่เกิน 30 วัน หรือ “ฟรีวีซ่า” โดยกระทรวงการต่างประเทศ จะเร่งดำเนินการให้เร็วที่สุด โดยจะเริ่มดำเนินการให้ได้ภายในปี 2565 นี้ แน่นอน ซึ่งจะส่งผลดีต่อการเดินทางสำหรับนักท่องเที่ยวจากซาอุดีอาระเบีย และกลุ่มประเทศตะวันออกกลางเดินทางเข้ามาในประเทศไทยมากขึ้น ขณะที่ พิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา ก็ได้ตั้งเป้าหมายในปี 2565 จะดึงนักท่องเที่ยวชาวซาอุฯ ให้มาท่องเที่ยวไทยให้ได้ 2 แสนคน สร้างรายได้ประมาณ 20,000 ล้านบาท หลังจากที่ไทยต้อเสียโอกาสในตลาดนี้ไปแล้วกว่า 30 ปี ที่ผ่านมา


*** ไปปิดท้ายอีกหนึ่งข่าวดีเกี่ยวกับเรื่อง “ปลดล็อกกัญชา” พ้นจากยาเสพติด ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 9 มิ.ย.2565 ที่ผ่านมา ซึ่งตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข ที่ออกมาส่งผลให้ส่วนต่างๆ ของ “กัญชา” ได้แก่ ช่อดอก เปลือก ลำต้น เส้นใย กิ่งก้าน ราก ใบ ไม่ว่าสด หรือ แห้ง กาก หรือ เศษที่เหลือจากการสกัดกัญชา และยางกัญชา ไม่มีสถานะเป็นยาเสพติดอีกต่อไป เว้นแต่สารสกัดจากกัญชา-กัญชง ที่มีปริมาณสารเตตราไฮโดรแคนนาบินอล หรือ THC ที่มีน้ำหนักเกิน 0.2% เท่านั้น ที่ยังถือเป็นยาเสพติด  เมื่อ “กัญชา” ไม่เป็นยาเสพติด จะส่งผลดีต่อการสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจ สร้างรายได้ให้แก่ประชาชน เพราะมีการอนุญาตให้ผลิตภัณฑ์สุขภาพที่มีส่วนประกอบของกัญชากัญชงและสารสกัด CBD ได้ เช่น เครื่องสำอาง ผลิตภัณฑ์อาหาร ผลิตภัณฑ์สมุนไพร และตำรับยาไทย 


*** ส่วนกรณีที่มีบางฝ่ายกังวลว่า “กัญชา” จะมีผลเสียต่อสังคม ต่อ“เยาวชน” หากไม่มีมาตรการควบคุมการใช้กัญชาในทางที่ผิดที่เพียงพอนั้น  ทางกระทรวงสาธารณสุข ก็ได้มออกประกาศกำหนดให้ “กลิ่นควันกัญชากัญชง” เป็นเหตุรำคาญ ตามพรบ.การสาธารณสุข ซึ่งลงนามในวันที่ 8 มิ.ย.2565 โดยจะมีโทษจำคุก 3 เดือน ปรับไม่เกิน 25,000 บาท หรือทั้งจำและปรับ รวมถึงห้ามจำหน่ายให้ใช้ในสตรีมีครรภ์ สตรีให้นมบุตร และผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปี … เหรียญมี 2 ด้าน “กัญชง-กัญชา” ก็เช่นกัน ใช้ดีมีประโยชน์ก็ดีไป แต่ถ้าใช้ไปทางไม่ดีก็เสียหายต่อผู้ใช้ได้เช่นกัน