ข้อมูลที่รั่วไหล วีรกรรม “ฟรอนท์รัน” ของไข่มุกดำ

03 ธ.ค. 2564 | 06:00 น.
1.8 k

คอลัมน์เมาธ์ทุกอำเภอ By…เจ๊เมาธ์

*** มาถึงเดือนสุดท้ายของปี ที่ผ่านมาก็มีเรื่องดีเกิดขึ้นหลายอย่างกับตลาดหุ้นไทยเรา ส่วนเรื่องที่น่ารังเกียจและยังค้างคาใจเจ๊เมาธ์ เราในฐานะนักสื่อสารมวลชนก็คงจะไม่ยอมให้ผ่านไปง่ายๆ เจ้าค่ะ
 

*** อย่างเรื่องของ “ไข่มุกดำ”… จอมต้มตุ๋นแห่งการหุ้น ก็ได้สร้างวีรกรรมอีก ทำให้หุ้นธรรมดาๆ กลายเป็นหุ้น “ยี้” ที่นักลงทุนด่าได้ทั้งตลาด ไม่ต้องถอยหลังไปไกลมาก...เอาแค่หุ้นโรงงานทำสี “D” กับหุ้นถ่านหิน “T” เป็นตัวอย่างก็ได้…  ซึ่งถ้าจะถามว่าหนักแค่ไหน ก็แค่...ผู้ถือหุ้นใหญ่หลายคนต้องเก็บตัวเพราะไม่กล้าเจอหน้าใครเป็นเดือนเท่านั้นเองเจ้าค่ะ
 

มิหนำซ้ำ ล่าสุดได้ข่าวว่า “ไข่มุกดำ” ก็เข้าไป “ฟรอนท์รัน” หุ้นอีกหลายตัว… แบบใช้ข้อมูลภายในของบริษัทหลักทรัพย์ “F” ไปซื้อขายหุ้น… แปลความง่ายๆ คือ พอลูกค้าไปธุรกรรมกับ บล. F… คุณไข่มุกดำ ก็ให้เส้นสายคาบข่าวมาบอกใบ้เพื่อซื้อหุ้นก่อน… ใครไม่เชื่อไปตรวจสอบการซื้อขายหุ้น “TCC” “YGG” และหุ้น “ECL”… เป็นต้น
 

ทำแบบนี้ ไม่รู้ลูกค้า รายไหนอยากจะไปดีลกับพวก บริษัทหลักทรัพย์ ที่ไม่รักษาความลับลูกค้าอีก… เฮ้ออออ… 
 

นอกจากนี้ คุณไข่มุกดำ ยังจะเข้าไปจับดีลการเพิ่มทุนรอบใหม่ของหุ้นตัวโลจีสติกส์อีกตัวหนึ่ง ชื่อย่อ “N”… ซึ่งเพิ่มทุนแล้ว เพิ่มทุนอีก… ปีนี้เพิ่มอีกเป็นรอบที่ 2 หลังจากรอบแรกขายให้พรรคพวก ที่เข้ามาซื้อกิจการ ... รอบล่าสุดหมาด ๆ ขายพีพี แลกกิจการที่รับซื้อเข้ามา  

 

*** แน่นอนว่า ถ้าหากนี่เป็นแค่การเพิ่มทุนปกติก็คงจะไม่มีความจำเป็นที่จะต้องใช้บริการมือโปรสายมืด ที่ชอบงานแบบนี้ แต่เพราะการเพิ่มทุนรอบใหม่ครั้งนี้คือการเพิ่มทุนซ้ำซากชนิดที่ยังไม่รู้ว่าเพิ่มทุนแล้วจะเอาเงินไปแจกกัน...เอาเงินไปทำประโยชน์หรือมีสาระอะไร รวมถึงยังไม่รู้ว่าใครอยู่เบื้องหลัง ดังนั้นเรื่องการทำราคาหุ้นแบบที่ไม่ต้องสนใจพื้นฐานหรือไม่สนใจอนาคตและไม่ต้องกลัวคนด่า รวมไปถึงเป็นการทำเพื่อเป็นกลบกลิ่นที่แม้แต่คนมีประสบการณ์เมื่อได้ยินหรือได้เห็นก็ยังต้องออกอาการขนลุกขนชัน นาทีนี้มันต้องเป็นคุณพี่ไข่มุกดำจอม “ฟรอนท์รัน” ของเจ๊เมาธ์เท่านั้นนะคะ เรื่องแบบนี้คนอื่นไม่มีใครกล้า...แต่คุณพี่เค้าทำได้เจ้าค่ะ ท่านผู้กำกับไม่เข้าไปดูหน่อยเหรอค่ะ    
 

*** หลายวันมานี้เจ๊เมาธ์สังเกตเห็นหุ้นตัวโหดอย่าง UKEM แอบขยับราคาอีกครั้ง รอบนี้เจ๊เมาธ์ก็ได้ข่าวมาว่าเป็นการปั่นสตอรี่เรื่องการขายหุ้น GIFT ซึ่งทาง UKEM ถือหุ้นอยู่มากกว่า 65% ก็...ประมาณว่าถ้าได้ขายก็น่าจะทำเงินได้ไม่น้อยทีเดียว แต่ถ้าใครที่เคยตามหุ้นตัวนี้...รวมถึงมีประสบการณ์กับหุ้นตัวนี้มาบ้างก็น่าจะได้รู้ว่าเจ้ามือของ UKEM เป็นนักปั่นประเภท Hardcore ตัวจริง ดันจริงและตบโหด 
 

ส่วนที่ว่าจะโหดแค่ไหนเจ๊เมาธ์ไม่จำเป็นที่จะต้องขยายความให้มาก ถ้าใครอยากรู้ก็ลองดูได้นะคะ ดูท่าทางรอบนี้น่าจะกำลังหาสตอรี่ใหม่ๆ มาเล่นอีกแล้วค่ะ

*** ต้องยอมรับว่าการลงทุนในหุ้นเป็นการลงทุนเพื่ออนาคต แต่กรณีของหุ้นกินรวบอย่าง AOT ดู้หมือนว่าจะแตกต่างออกไป เพราะการที่ AOT ได้ขยายมาตรการความช่วยเหลือผู้ประกอบการเชิงพานิชย์และสายการบินอีก 1 ปี จะทำให้ทั้งรายได้และกำไรของบริษัทฯหายไปอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งหากจะนับเป็นตัวเลขก็น่าจะอยู่ราวๆ 4 พันล้านบาท ประมาณว่า...ถ้าหากผลการดำเนินงานออกมาขาดทุน..ก็จะขาดทุนมากกว่าเดิมอีก 4 พันล้านบาท หรือถ้าหาโชคดีมีกำไร...กำไรที่ว่าก็จะน้อยลงไปอีก 4 พันล้านบาทด้วยเช่นกัน ดังนั้นถ้านักลงทุนที่หวังว่าจะลงทุนใน AOT เพราะคาดหวังเรื่องของผลการดำเนินงานที่จะฟื้นตัวขึ้นในเร็ววันนี้ก็คงต้องทำใจเอาไว้บ้างนะคะ ถ้าทำใจแล้วหรือทำใจได้...ทุกอย่างก็ไม่ใช้ปัญหาเจ้าค่ะ


ถึงแม้ราคาหุ้นจะร่วงลงมาต่ำกว่าราคาจองซื้อ (ราคา IPO) แต่เจ๊เมาธ์ก็คิดว่าไม่ต้องถอดใจกับหุ้นลีสซิ่งอย่าง TIDLOR นะคะ ที่เจ๊กล้าบอกว่าไม่ต้องถอดใจก็เป็นเพราะว่าราคาหุ้นในระดับราคา 35-36 บาท ถือว่าเป็นราคาที่เหมาะสมเนื่องจากราคาหุ้นได้ผ่านการตกผลึกและได้สะท้อนราคาที่เหมาะสมเพื่อการแข่งขันกับหุ้นลีสซิ่งตัวอื่นๆ (SAWAD, MTC) ซึ่งหลังจากนี้ใครที่ยังไม่มีก็อาจจะใช้จังหวะนี้ในการเก็บเพื่อถือยาวได้ หรือถ้าใครที่มีอยู่แล้ว หรือใครที่กำลังติดดอย..ก็ถือว่านี่เป็นจังหวะที่จะถัวราคาเพื่อให้มีต้นทุนที่ต่ำลงมา ไม่จำเป็นต้องคิดมากนะคะ เพราะไม่ว่าจะมองจากมุมรายได้
 

มุมกำไรหรือมองจากปัจจัยทางเทคนิค...ระดับนี้เหมาะกับ TIDLOR มากค่ะ
 

*** อย่างที่เจ๊เมาธ์เคยบอกมาตลอดว่า บริษัทที่เข้ามาระดมทุนในตลาดหุ้นแบบที่ไม่มีตัวเปรียบเทียบมักจะประสบความสำเร็จได้ง่ายกว่าหุ้นตัวที่มีคู่แข่ง ในกรณีนี้เจ๊เมาธ์กำลังพูดถึงหุ้น IPO อย่าง HL หุ้นน้องใหม่ที่ทำธุรกิจร้านขายยาแบบ Chain Store ซึ่งพึ่งจะเข้าตลาด แน่นอนว่าหุ้นที่พึ่งเข้าตลาด...ราคาหุ้นในช่วงแรกอาจจะยังไม่สามารถชี้วัดราคาในอนาคตได้ แต่เจ๊เมาธ์เชื่อว่า สำหรับหุ้นที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับปัจจัย 4 รวมถึงเป็นหุ้นที่อยู่ในเมกะเทรนด์ของโลกตัวนี้น่าจะมีอนาคตที่น่าจับตามองเป็นอย่างยิ่ง เอาเป็นว่าไม่จำเป็นที่จะต้องเชื่อเจ๊...แต่ขอให้จับตาดูให้ดี หุ้นตัวนี้น่าสนใจมากค่ะ

 

หน้า 13  หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 41 ฉบับที่ 3,737 วันที่ 5 - 8 ธันวาคม พ.ศ. 2564