หนีตาย... คุมดอกเบี้ยลีสซิ่ง

15 ต.ค. 2564 | 08:30 น.
1.8 k

คอลัมน์เมาธ์ทุกอำเภอ By...เจ๊เมาธ์

*** สิ่งที่เกิดขึ้นทันทีหลังการแถลงข่าวกำหนดการเปิดเมืองของนายกฯ คือ การที่ค่าเงินบาทซึ่งอ่อนค่าลงไปราว 34 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ กลับแข็งค่า 33.50 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ เนื่องจากนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศมองว่า เป็นจุดเปลี่ยนทำให้เศรษฐกิจไทยสามารถกลับมา “พลิกฟื้น” รวมถึงอาจจะดัน “จีดีพี” ของประเทศ กลับมาโตมากกว่าที่เคยประมาณการณ์กันเอาไว้ 
 

ขณะเดียวกันหุ้นกลุ่มเปิดเมืองหลายตัว กลับมาเล่นเก็งกำไรกันอย่างคึกคัก โดยมีหุ้นในกลุ่มบันเทิงและสุขภาพ กลุ่มโรงแรม กลุ่มสายการบิน และกลุ่มค้าปลีก ...เจ๊เมาธ์แนะนำว่า หุ้นที่ถูกไล่ราคาขึ้นมาแรง ๆ  จะต้องอยู่ห่างเอาไว้บ้าง เพราะไม่แน่ว่า อาจจะเกิดการพักตัวได้ในอนาคตอันใกล้นี้เจ้าค่ะ
 

*** หุ้นเปิดเมืองที่ถูกพูดถึงมาก น่าจะหนีไม่พ้นหุ้นที่อยู่ใน “เชฟโซน” อย่าง AOT เนื่องจากว่า ใครก็ตามที่เดินทางเข้ามาในประเทศ จะต้องผ่านด่านการเก็บ “ค่าต๋ง” ของ AOT ก่อนที่จะได้ทำอย่างอื่น
 

นักลงทุนต้องทำใจยอมรับว่า ผลการดำเนินงานปีนี้ มีรายได้ไม่ถึง 20% จากช่วงก่อนโควิด ขาดทุนสะสมอยู่กว่า1.1 หมื่นล้าน และคาดว่าขาดทุนเพิ่มขึ้นอีกใน Q3 /64 รวมถึงยังจะมีภาระดอกเบี้ยที่เกิดจากการกู้เงินเพื่อเสริมสภาพคล่องตามมา

 

ดังนั้น..หากมองในระยะยาวหุ้นที่อยู่ใน “เชฟโซน” อย่าง AOT ยังพอมีความน่าสนใจอยู่บ้าง แต่ถ้ามองในระยะสั้นถึงกลาง เจ๊เมาธ์คิดว่าหุ้นตัวนี้มีเริ่มมีความน่าสนใจน้อยลงไปแล้ว
 

สำหรับเจ๊เมาธ์ “เชฟโซน” เหมาะสำหรับการพัก...และเก็บตัวรอเวลาเท่านั้น ส่วนถ้าถึงเวลาจะ “ลุย” ควรมองหาหุ้นที่มีโอกาสที่จะไปต่อได้มากกว่านี้นะคะ หุ้นดีที่มีโอกาสโตได้มากกว่านี้ยังมีอีกหลายตัวค่ะ
 

*** ราคาหุ้น TRUE ขยับขึ้นมากว่า 20% ไม่ถึงเดือน ทั้งที่ผลดำเนินงานยังขาดทุน แต่มีแนวโน้มดีขึ้น Q4/64  เนื่องจากต้นทุนการใช้งานคลื่น 850 MHz อาจจะสามารถลงได้จากการเจรจาเรื่องค่าใช้จ่ายกับทาง NT …. 
 

อีกเรื่องที่ทำให้ TRUE น่าสนใจขึ้นมา คือ ถูกโยงเข้ากับ CP Group จับมือกับ SCB เพื่อจัดตั้งกองทุน Venture Capital ขนาด 20,000-27,000 ล้านบาท ลงทุนธุรกิจเทคโนโลยีด้านบล็อกเชน, สินทรัพย์ดิจิทัล, Decentralized Finance, FinTech ซึ่งบริษัทด่านหน้าในการทำธุรกรรมด้านนี้ หนีไม่พ้น TRUE อยู่แล้ว  จังหวะนี้ ถือเป็นจุดเปลี่ยนที่น่าสนใจของ TRUE มากค่ะ 
 

*** หุ้นกลุ่มลีสซิ่ง เป็นหุ้นที่พร้อมไปซ้ายหรือขวา ตามมาตรการกำกับดูแลของแบงก์ชาติ และสคบ.ส่วนใหญ่เป็นเรื่องดอกเบี้ยที่คิดกับลูกค้าเช่าซื้อ จะรถยนต์ หรือจักรยานยนต์  รวมทั้งการขอความร่วมมือช่วยเหลือลูกค้าในยามวิกฤตที่ต้องการอุ้มลูกค้า ตามมาตรการของรัฐ 
 ฉะนั้น หุ้นในกลุ่มลีสซิ่ง จึงมีความอ่อนไหวตามนโยบายที่ออกมาควบคุม  ซึ่งล่าสุด สคบ. จะคุมดอกเบี้ยไม่ให้เกิน 15% ต่อปี... ข่าวนี้ ทำหุ้นลีสซิ่ง พี่ใหญ่อย่าง MTC และ SAWAD ไม่ไปถูกทางเลยล่ะ นั่นหมายความถึงรายได้-ค่าธรรมเนียมดอกเบี้ยที่จะหายไป ส่งผลต่อกำไรในอนาคต
 

แต่อย่าพึ่งปักใจเชื่อตอนนี้ ต้องรอความแน่นอน ให้ สคบ. ฟันธง !!!! ออกมาก่อนว่า ฉันจะคุม 15% แล้วนะ ... ถึงตอนนั้น ใครจะทิ้ง - จะถือหุ้นลีสซิ่ง ชั่งใจดูก่อนแล้วกัน เจ๊เมาธ์ไม่ชี้แนะ แค่ให้ข้อมูล ตอนนี้ก.ล.ต.แร๊งงงง ค่ะ 
 

หน้า 13 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 41 ฉบับที่ 3,723 วันที่ 17 - 20 ตุลาคม พ.ศ. 2564