Content สำหรับ Gen Z

 การออกแบบ content มักขึ้นอยู่กับกลุ่มเป้าหมาย (target group) ของสินค้าหรือบริการที่เราต้องการนำเสนอ ตัวอย่างเช่น content ในกลุ่มคนรักสุขภาพ ก็มักจะใส่เนื้อหาที่เป็นข้อมูลเชิงลึกด้านโภชนาการหรือการออกกำลังกาย เนื่องจากกลุ่มเป้าหมายต้องการแนวทางในการดูแลสุขภาพที่ถูกต้องและไม่ส่งผลเสียต่อร่างกายของตัวเอง

หรือ content ในกลุ่มคนรักสวยรักงาม ก็มักจะต้องทำรีวิวเครื่องสำอางหรือผลิตภัณฑ์ดูแลผิวต่างๆ เพื่อให้กลุ่มเป้าหมายได้คอยติดตามอย่างต่อเนื่องว่ามีสินค้าตัวไหนที่จะตอบโจทย์หรือแก้ปัญหาของตัวเองได้

รูปแบบของ content ในปัจจุบันนั้นมีความหลากหลายมากขึ้นเพื่อดึงดูดความสนใจจากกลุ่มเป้าหมายต่างๆ เพราะถึงแม้ว่าเราจะวางกลุ่มเป้าหมาย (target segmentation) ไว้แค่กลุ่มเดียวหรือไม่กี่กลุ่ม แต่ content ของเราก็อาจไปดึงดูดได้ทั้งกลุ่มเป้าหมายหลัก (primary target) และกลุ่มเป้าหมายรอง (secondary target) เราจึงต้องออกแบบ content ทั้งในรูปแบบภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหว การเลือกสี การเลือกฟอนท์ เทมแพลต หรือการเล่าเรื่องต่างๆ ให้มีความน่าดึงดูดและไม่น่าเบื่อจนเกินไป

อีกทั้งปัจจัยด้านเวลาและความรีบเร่งในชีวิตประจำวันของคนทั่วไป ส่งผลให้พฤติกรรมผู้บริโภค (consumer behavior) นั้นเปลี่ยนแปลงไป โดยคนมักเลือกดู content ที่สามารถให้ข้อมูลครบถ้วนแต่กระชับ แล้วตัดสินใจได้ทันทีว่าดีหรือไม่ดี ถูกใจหรือไม่ถูกใจ จะดูต่อหรือไม่ดูต่อ ส่วนใหญ่มักไม่เลือกดู content ที่ยาวเกินไปหรือให้ข้อมูลที่ยืดเยื้อ เนื่องจากไม่ได้มีเวลามากพอในการพิจารณาเลือกสินค้าหรือบริการกันมากนัก เพราะต่างก็มีภารกิจที่จะต้องทำในแต่ละวันกันอย่างมากมายและยุ่งเหยิง

โดยเฉพาะในกลุ่ม Gen Z หรือกลุ่มวัยรุ่น จะยิ่งไม่ชอบ content ที่มีเนื้อหาหรืองานตัดต่อที่มากเกินไป มักชอบดูอะไรเป็นกระแสในปัจจุบัน ตัวอย่างเช่น ลิปซิงค์หรือเต้นตามเพลง หรือ content ตามเทศกาลต่างๆ เนื่องจากวัยรุ่นเป็นวัยที่ชอบความสนุกสนาน ความเรียบง่าย แต่มีส่วนร่วมในการใช้ชีวิตกับสิ่งแวดล้อมและผู้คนในสังคม ดังจะเห็นได้จากสื่อโซเชียลต่างๆ ทั้งบน Facebook, Instagram, TikTok หรือ Reels ที่คนมักจะชอบติดตามดูไลฟ์สไตล์ หรือการใช้ชีวิตที่มีความสุขกันเป็นส่วนใหญ่

หน้า 15 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 42 ฉบับที่ 3,848 วันที่ 29 - 31 ธันวาคม พ.ศ. 2565