โลกโฟกัสอาเซียน ไทยต้องหาทางต่อยอด

18 พ.ย. 2565 | 01:25 น.
อัปเดตล่าสุด :18 พ.ย. 2565 | 05:04 น.

บทบรรณาธิการ หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3837

ตลอดห้วง 1-2 สัปดาห์นี้ โลกกลับมาโฟกัสที่ภูมิภาคอาเซียนอีกครั้ง หลังจากมีการประชุมระดับโลกในภูมิภาคนี้ 3 การประชุมใหญ่ ไล่ตั้งแต่การประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนและผู้นำสุดยอดอาเซียนกับประเทศคู่เจรจา จีน สหรัฐ ที่กัมพูชา เมื่อปลายสัปดาห์ก่อน
 

ตามมาด้วยการประชุมสุดยอดผู้นำกลุ่ม G-20 ที่อินโดนีเซีย ต้นสัปดาห์นี้ผู้นำโลก สหรัฐ จีน ฝรั่งเศส แคนาดา มากันพร้อมหน้า และปิดท้ายปลายสัปดาห์ที่การประชุมสุดยอดผู้นำกลุ่มความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก(เอเปค) 21 เขตเศรษฐกิจการค้าค่อนโลกประชุมที่กรุงเทพฯ แถมพ่วงด้วยผู้นำภาคเอกชน ซีอีโอ ซัมมิตมาถกแถลงกันด้วย
 

เรียกว่าผู้นำโลกทั้งภาครัฐและเอกชน ตลอดจนเจ้าหน้าที่ระดับนำของแต่ละประเทศของโลกใบนี้ เดินกันขวักไขว่ในย่านนี้ในห้วงเวลานี้ ได้พบปะแลกเปลี่ยนมุมมองกันและกัน ได้มาสัมผัสสถานที่จริง รับรู้ รับเห็นของจริง ในบรรยากาศที่ไม่ค่อยดีมากนัก หลังสงครามรัสเซีย-ยูเครน ที่เข้มข้นและมีการลื่นไถลของขีปนาวุธไปตกในประเทศโปแลนด์ สมาชิกองค์กรสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (นาโต้) จากที่เขม็งเกลียวตื่นเต้นกันอยู่แล้ว ยิ่งเร้าบรรยากาศให้ระอุเพิ่มขึ้น

 

อย่างไรก็ดี ภูมิภาคอาเซียนยังเป็นภูมิภาคสำคัญ ที่โลกยังต้องเกาะติด ติดตาม แย่งชิง แสวงหาความเป็นพวกพ้องอย่างมิยอมวางมือ ซึ่งมีทั้งผลประโยชน์ตรงในแง่การทำมาค้าขาย การลงทุน และการสร้างดุลยภาพของโลก ในอดีตที่ไม่นานนักเคยเป็นขุมทองสำคัญของโลกตะวันตก มีพัฒนาการทางเศรษฐกิจที่เข้มแข็ง อัตราการขยายตัวของแต่ละประเทศสมาชิกไม่ต่ำกว่าหรือใกล้เคียงเลข 2 หลักแทบทุกปีก่อนจะมาแผ่วลงไปในระยะหลัง แต่มีบางประเทศเช่น เวียดนาม ที่ขยับปรับตัวได้เร็ว จึงมีพัฒนาการแบบก้าวกระโดด 
 

หลังสถานการณ์โควิด-19 แพร่ระบาดในห้วงระยะเวลา 2-3 ปีที่ผ่านมา โลกได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจรุนแรง อาเซียนเองก็เช่นกัน โดยลักษณะการผลิตที่เป็นหนึ่งในห่วงโซ่อุปทานของโลก(ซัพพลายเชน) เมื่อโลกกระทบ อาเซียนเลี่ยงแรงกระแทกไม่พ้นเช่นกัน
 

แต่ในขณะนี้กำลังเข้าสู่โหมดการฟื้นฟูในทุกด้าน ซึ่งแต่ละประเทศสมาชิกมีการฟื้นตัวและพัฒนาการอย่างต่อเนื่องและก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะการวางหมุดหมายเป็นฐานผลิตที่มั่นคงและสำคัญของโลก 

 

3 การประชุมใหญ่ตลอด 2 สัปดาห์นี้ โลกได้หวนกลับมาโฟกัส ภูมิภาคอาเซียนอีกครั้ง โดยวาระโลกด้านเศรษฐกิจให้ความสำคัญกับการฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังโควิดและการพัฒนาเศรษฐกิจสีเขียว การลดโลกร้อน การพัฒนาที่มุ่งสู่ความยั่งยืน ที่เป็นกระแสหลักขึ้นมาในห้วงเวลานี้ ประเทศไทย รัฐบาลไทยควรร่วมมือกับสมาชิกอาเซียนอย่างแข็งขัน ใช้โอกาสนี้ต่อยอดการพัฒนาทางเศรษฐกิจ การลงทุน การพัฒนานวัตกรรมใหม่ นำประเทศก้าวไปสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน