ความจริงจัง จริงใจ ในเวทีเอเปค

16 พ.ย. 2565 | 12:22 น.
อัปเดตล่าสุด :16 พ.ย. 2565 | 19:42 น.

คอลัมน์ฐานโซไซตี โดย...กาแฟขม

*** หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจฉบับ 3936 ระหว่างวันที่ 17-19 พ.ย.2565 โดย...กาแฟขม 
 

*** ช่วงนี้การเดินทางไปไหนมาไหนในกรุงเทพฯ อาจสะดุดติดขัดบ้าง มีการปิดถนน ปิดสถานที่ ปิดการจราจรบางแห่ง ต้องเช็กเส้นทางอัพเดตอยู่สม่ำเสมอ แต่ต้องขอให้ผู้คนที่อาศัยอยู่ในเมืองกรุง อดทน ด้วยเป็นสัปดาห์ของการประชุมกลุ่มความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชียแปซิฟิก (เอเปค) ที่มีผู้นำสูงสุด หรือ ผู้แทนมากัน 21 เขตเศรษฐกิจจากภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก ประชาชนคนไทยต้องร่วมกันเป็นเจ้าภาพที่ดี ต้อนรับแขกบ้านแขกเมือง นอกจากผู้นำทางรัฐบาลแล้ว ยังมีผู้นำทางภาคเอกชน เดินทางมาประชุมเช่นเดียวกัน และยังมีเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องรวมกันแล้วหลายพันคนที่จะมาอยู่ที่ประเทศไทยสัปดาห์นี้ 
 

*** ในรอบ 20 ปี ที่จะได้มีโอกาสจัดการประชุมใหญ่เวทีแบบนี้ สมาชิกเอเปค 21 เขตเศรษฐกิจจะมีการประชุมสูงสุดกันทุกปี แต่ละสมาชิกหมุนเวียนกันเป็นเจ้าภาพประชุมสลับกันไปฝั่งเอเชียทีแปซิฟิกที กลุ่มความร่วมมือแบบนี้ ว่าที่จริงแล้วเป็นกลุ่มความร่วมมือลักษณะภูมิภาค ที่แต่ละประเทศแยกกันมาตั้งกลุ่มต่างๆ มากขึ้น หลังการเจรจาการค้าในกรอบใหญ่องค์การการค้าโลก ที่กว่าจะตกลงกันได้แต่ละเรื่องใช้เวลานาน จึงแยกออกมาตั้งกลุ่มย่อยๆ เป็นเวทีพูดคุยกัน
 

ซึ่งมีทั้งกลุ่มเขตการค้าเสรีเอเชียตะวันออกเป็นอาเซียนบวก จีน เกาหลี ญี่ปุ่น ก่อนดึง ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และ อินเดีย มาร่วมเป็นกลุ่มที่ตกลงเขตการค้าเสรีไปแล้ว ยุโรป มีสหภาพยุโรปที่ทลายกำแพงแทบทุกด้านทั้งการค้า และด้านอื่นๆ ภูมิภาคอเมริกามีนาฟต้า อันประกอบด้วย สหรัฐ เม็กซิโก แคนาดา ภูมิภาคตะวันออกกลาง มีกลุ่มความร่วมมือในอ่าวอาหรับจีซีซี กลุ่มแอฟริกา มีเขตการค้าเสรีแอฟริกา และยังมีกลุ่ม TPP ทรานส์แปซิฟิกที่เดิมมี สหรัฐ เป็นแกนก่อนถอยออกไปและกลับมาใหม่แต่กลุ่มนี้ไม่มีจีน 
 

*** กลุ่มเอเปคมีทั้ง จีน รัสเซีย สหรัฐ อาเซียน ละตินอเมริกา โอเชียเนีย แต่เป็นความร่วมมือหลวมๆ ในสมัยเริ่มต้น ก่อนที่ระยะหลังจะเร่งรัดมากขึ้นในการพัฒนาเป็นเขตการค้าเสรีเอเชียแปซิฟิก FTAAP แต่ยังถกเถียงไม่จบถึงน้ำหนักของเอฟทีเอ จะเปิดเสรีเต็มที่ทุกแขนง เต็ม 100% หรือไม่ ที่ผ่านมาก็ดึงกันอยู่ บ้างก็เปิดเท่าที่พร้อมไปก่อน แต่ประเทศพัฒนาแล้วอย่างสหรัฐ ต้องการเปิดหมดทุกภาค 100% ที่มีปัญหา เพราะระดับการพัฒนาของสมาชิกในกลุ่มแตกต่างกันอยู่มาก เหมือนมวยตัวเล็กชกมวยตัวใหญ่ แบกน้ำหนักอย่างไรตัวเล็กก็เสียเปรียบ

 

แล้วไหนตัวใหญ่ยังงัดกับตัวใหญ่โดยตรงอย่าง สหรัฐ กับ จีน ที่ซดกันโดยตรงเลยอีก หรือสหรัฐ กับ รัสเซีย ที่เขม็งเกลียวอย่างยิ่งในห้วงเวลานี้  ครั้นจะย่อส่วนมาคุยรวมผลประโยชน์ไม่ลงตัวอีก และไม่เฉพาะการค้าอย่างเดียว ยังมีปัจจัยการเมืองระหว่าง ดุลยภาพโลก ความมีอิทธิพลในภูมิภาคเข้ามาเกี่ยวข้องอีก FTAAP จึงยังอีกไกล แม้ในเวทีทุกฝ่ายจะสนับสนุนก็ตาม
 

*** ไหนๆ ก็ว่ากันด้วยเรื่องเอเปคแล้ว ทางภาคเอกชนไทยเที่ยวนี้ ที่เป็นเจ้าภาพในการประชุม ABAC 2022 ในเวทีเอเปค (Asia-Pacific Economic Cooperation : APEC) เกรียงไกร เธียรนุกูล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) หัวเรือใหญ่บอกพร้อมเต็มที่ และประเด็นสำคัญที่จะหยิบยกให้ชาวโลกเห็น เป็นเรื่องร้อน เรื่องการลดโลกร้อน คาร์บอนเครดิต
 

ประเทศไทยได้จัดตั้งแพลตฟอร์มซื้อขายคาร์บอนเครดิตขึ้นมาแล้ว ขายพลังงานสะอาดกัน ลดคาร์บอนกัน Platform ที่นำมาใช้ (FTIX) ซึ่งเป็นที่แรกในเอเชีย-แปซิฟิกนอกจากนั้นยังมีการหารือผ่านคณะทำงาน  ด้านดิจิทัล ด้านวิสาหกิจขนาดกลาง ขนาดย่อม และรายย่อย (MSMEs) และการมีส่วนร่วม ด้านความยั่งยืน และด้านเศรษฐกิจและการเงิน ได้ความอย่างไร เสนอผู้นำทันที
 

*** ใหญ่ยิ่งกว่าใหญ่ ว่ากันว่ามีการปล้นกันกลางแดดที่ตลาดหุ้น ว่าด้วยเรื่องหุ้น MORE ที่สะท้านสะเทือนกันทั้งบาง ส่วนแผนการเขาทำกันอย่างไร โยนไปโยนมา สร้างเครดิตซื้อขายอย่างไร ใครเท ใครรับใครเบี้ยวจ่ายเงินในหน้าข่าวของฐานเศรษฐกิจรายงานรายละเอียดไว้ครบครันทีเดียว โปรดติดตามกันอย่างไม่กระพริบตา เรื่องนี้เป็นมหากาพย์แน่นอน แต่ที่สำคัญผู้รับผิดชอบต้องทำให้เป็นบทเรียนของตลาดหุ้นไทยให้ได้ และนักลงทุน โดยเฉพาะรายย่อยทั้งหลายก็ต้องเรียนรู้บทเรียนอย่าพลัดหลงเข้าไปเลยทีเดียว เงินนะเป็นเงินแท้ อย่าปล่อยให้อะไรมาบังตาให้หดหายลงไปโดยใช่เหตุ