thansettakij
นักลงทุนเทขายสินทรัพย์สหรัฐฯ บอนด์ยีลด์พุ่ง ดอลลาร์ร่วงหนัก

นักลงทุนเทขายสินทรัพย์สหรัฐฯ บอนด์ยีลด์พุ่ง ดอลลาร์ร่วงหนัก

12 เม.ย. 2568 | 01:40 น.
อัปเดตล่าสุด :12 เม.ย. 2568 | 01:41 น.

บอนด์ยีลด์สหรัฐพุ่งขึ้น หลังทรัมป์ประกาศภาษีตอบโต้ สวนทางกับค่าเงินดอลลาร์ที่ทรุดลงอย่างหนัก เฟดชี้สะท้อนสัญญาณการถอนตัวของนักลงทุนจากตลาดสหรัฐ จากเดิมที่มองเป็นสถานที่ปลอดภัย

ความกังวลเกี่ยวกับการเรียกเก็บภาษีศุลกากรของสหรัฐ ได้ทำลายความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่มีต่อดอลลาร์ในฐานะสกุลเงินปลอดภัย ส่งผลให้ดอลลาร์ดิ่งลงอย่างหนัก

ณ เวลา 22.42 น. วันที่ 11 เม.ย.ตามเวลาไทย ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลบ 0.85% สู่ระดับ 100.01 ขณะที่ดอลลาร์อ่อนค่า 1.16% สู่ระดับ 1.133 เทียบยูโร และร่วงลง 0.66% สู่ระดับ 143.49 เยน

ก่อนหน้านี้ นักลงทุนคาดการณ์ว่า นโยบายการตั้งกำแพงภาษีของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์จะช่วยหนุนค่าเงินดอลลาร์ แต่ในทางกลับกัน ดอลลาร์ได้ทรุดตัวลง 7% นับตั้งแต่ทรัมป์เข้ารับตำแหน่ง และดิ่งลงกว่า 2% นับตั้งแต่ทรัมป์ประกาศมาตรการเรียกเก็บภาษีศุลกากรต่อประเทศคู่ค้าเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

การอ่อนค่าของดอลลาร์ยังเกิดขึ้นพร้อมกับแรงเทขายในตลาดหุ้นและพันธบัตรของสหรัฐ ซึ่งเป็นการส่งสัญญาณว่า นักลงทุนต่างชาติกำลังเทขายสินทรัพย์สหรัฐหลังการประกาศนโยบายภาษีของทรัมป์ ส่งผลให้ดอลลาร์อ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่อง

ดอลลาร์ยังถูกกดดันจากความกังวลเกี่ยวกับการเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยจากการทำสงครามการค้า

ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีพุ่งขึ้น หลังจากที่ทรัมป์เรียกเก็บภาษีศุลกากรตอบโต้ (Reciprocal Tariff) ต่อประเทศคู่ค้า ก่อนที่จะประกาศชะลอการเรียกเก็บออกไป 90 วัน 

นายนีล แคชแครี ประธานธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) สาขามินนีแอโพลิส กล่าวว่า การปรับตัวของตลาดในระยะนี้ ท่ามกลางการทำสงครามการค้าของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แสดงให้เห็นว่า นักลงทุนกำลังถอนตัวออกจากสหรัฐ ซึ่งก่อนหน้านี้ถูกมองว่าเป็นสถานที่ปลอดภัยที่สุดสำหรับการลงทุน

"การที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลพุ่งขึ้นและดอลลาร์อ่อนค่าลงในระยะนี้ ถือเป็นสิ่งที่ตรงข้ามกับที่คุณเคยเห็นมา ซึ่งตามปกติแล้ว เมื่อมีการเพิ่มอัตราภาษีศุลกากรจำนวนมาก ดอลลาร์ก็มักจะแข็งค่าขึ้น แต่การที่ดอลลาร์ดิ่งลงในระยะนี้ ได้สร้างความน่าเชื่อถือต่อรายงานที่ว่า ความพึงพอใจของนักลงทุนได้เปลี่ยนแปลงไปแล้ว"

อย่างไรก็ตาม นักลงทุนจับตาถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในสัปดาห์หน้า เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้แนวโน้มเศรษฐกิจและทิศทางอัตราดอกเบี้ยสหรัฐ ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบจากนโยบายตั้งกำแพงภาษีของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ

ทั้งนี้ นายพาวเวลมีกำหนดกล่าวสุนทรพจน์ในงานเสวนาว่า ด้วยแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐ ซึ่งจัดโดยสมาคมเศรษฐกิจแห่งชิคาโก (Economic Club of Chicago) ในวันพุธที่ 16 เม.ย. เวลา 13.30 น. ตามเวลาสหรัฐ หรือตรงกับวันพฤหัสบดีที่ 17 เม.ย. เวลา 00.30 น.ตามเวลาไทย