จีนเอาคืนทรัมป์! ขึ้นภาษีสหรัฐฯ 34% พร้อมแบน 11 บริษัทอเมริกัน

04 เม.ย. 2568 | 18:45 น.
อัปเดตล่าสุด :04 เม.ย. 2568 | 18:45 น.
1.5 k

จีนโต้กลับทรัมป์! ออกมาตรการขึ้นภาษีสินค้าจากสหรัฐฯ 34% แบนบริษัทอเมริกัน 11 แห่ง หยุดนำเข้าเนื้อไก่-จำกัดส่งออกแร่หายาก

สงครามการค้าระลอกใหม่ระหว่างสองมหาอำนาจโลกกลับมาร้อนระอุอีกครั้ง เมื่อรัฐบาลจีนออกมาตรการโต้กลับสหรัฐอเมริกาอย่างทันควัน หลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนถึง 34% และภาษีเดิม 20% รวมเป็น 54%

โดยล่าสุด กระทรวงการคลังของจีนได้ประกาศจะตอบโต้ด้วยการขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ ในอัตราเดียวกันที่ 34% ครอบคลุมสินค้าหลากหลายประเภท เพื่อแสดงให้เห็นถึงท่าทีที่ไม่ยอมอ่อนข้อในศึกเศรษฐกิจระดับโลกครั้งนี้

นอกจากมาตรการภาษีแล้ว กระทรวงพาณิชย์ของจีนยังเดินเกมแรงไม่แพ้กัน ด้วยการประกาศขึ้นบัญชีดำบริษัทสัญชาติอเมริกัน 11 แห่งในฐานะ "องค์กรไม่น่าเชื่อถือ" ซึ่งเป็นมาตรการที่เทียบเท่ากับการห้ามบริษัทเหล่านี้ดำเนินธุรกิจในจีนหรือร่วมมือกับบริษัทจีนในทุกรูปแบบ

ในอีกมุมหนึ่ง จีนยังงัดหมัดเด็ดที่ส่งแรงกระเพื่อมไปถึงอุตสาหกรรมเทคโนโลยีทั่วโลก ด้วยการออกข้อจำกัดการส่งออก "แร่หายาก" ซึ่งเป็นทรัพยากรสำคัญในการผลิตเทคโนโลยีขั้นสูง เช่น รถยนต์ไฟฟ้า ไปจนถึงอาวุธไฮเทคอย่างระเบิดอัจฉริยะ โดยแร่เหล่านี้แทบทั้งหมดถูกขุดและส่งออกจากจีน การจำกัดการส่งออกครั้งนี้จึงเป็นมาตรการที่สามารถกดดันห่วงโซ่อุปทานของโลกได้อย่างรุนแรง

ในขณะเดียวกัน สำนักงานศุลกากรของจีนก็ประกาศระงับการนำเข้าเนื้อไก่จากผู้ส่งออกการเกษตรบางรายของสหรัฐฯ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งมาตรการที่อาจส่งผลกระทบโดยตรงต่อเกษตรกรอเมริกัน และจุดกระแสความไม่พอใจในฐานเสียงของทรัมป์ภายในประเทศ

ความเคลื่อนไหวทั้งหมดนี้เกิดขึ้นภายในเวลาเพียงไม่กี่นาทีจาก 3 หน่วยงานหลักของรัฐบาลจีน สะท้อนชัดว่าจีนไม่มีแผนจะถอยในสมรภูมิการค้า และพร้อมตอบโต้ทุกการเคลื่อนไหวของสหรัฐฯ อย่างฉับพลันและรุนแรง ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นภายใต้ฉากหลังที่ทรัมป์เพิ่งจุดชนวนการค้าโลกด้วยการขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากหลากหลายประเทศ ทำให้ความขัดแย้งระหว่างจีนและสหรัฐฯ กลับมาอยู่ในจุดเดือดอีกครั้ง พร้อมสั่นสะเทือนทั้งตลาดโลกและอนาคตของระบบการค้าเสรี