วิเคราะห์เลือกตั้งสหรัฐ ทรัมป์ลุ้นประธานาธิบดี รีพับลิกันกวาดอำนาจสภา

06 พ.ย. 2567 | 14:10 น.
อัปเดตล่าสุด :06 พ.ย. 2567 | 14:10 น.

วิเคราะห์ผลกระทบหากโดนัลด์ ทรัมป์ จากพรรครีพับลิกันคว้าชัยประธานาธิบดีคนที่ 47 ขณะที่พรรครีพับลิกันได้เสียงข้างมากในสภา จะทำให้สามารถผลักดันนโยบายได้เต็มที่

ผลการเลือกตั้งสหรัฐฯ 2024 ส่อแววการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ เมื่อ โดนัลด์ ทรัมป์ จากพรรครีพับลิกันมีแนวโน้มคว้าชัยประธานาธิบดีคนที่ 47 พร้อมกับพรรครีพับลิกันที่จะได้เสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎร (สภาล่าง) และสมาชิกวุฒิสภา (สภาสูง) ส่งผลให้รีพับลิกันจะสามารถผลักดันนโยบายได้อย่างเต็มที่

สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) วิเคราะห์ว่า การกลับมาของทรัมป์พร้อมเสียงข้างมากในสภาจะนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงนโยบายครั้งใหญ่ ไว้อย่างน่าสนใจว่า ในกรณีที่พรรคการเมืองเดียวกันสามารถชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดีและครองเสียงข้างมากในรัฐสภา (Sweep Scenario) รัฐบาลก็จะสามารถผลักดันนโยบายที่สอดคล้องกับนโยบายของพรรคได้อย่างเต็มที่

หากโดนัลด์ ทรัมป์ได้เป็นประธานาธิบดี

สศช.วิเคราะห์ กรณีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้เป็นประธานาธิบดี และพรรครีพับลิกันคุมเสียงข้างมาก ดังนี้

การค้าระหว่างประเทศ

ดำเนินมาตรการทางการค้าต่อจีนจะมีความเข้มข้น โดยอาจนำไปสู่การขึ้นอัตราภาษีนำเข้าจากจีนเป็นร้อยละ 60 และร้อยละ 10 สำหรับประเทศอื่น ๆ

ภาษี

ต่ออายุการลดหย่อนภาษีที่ดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2560

อุตสาหกรรมและสิ่งแวดล้อม

ปรับแก้กฎหมายและกฎระเบียบให้เอื้อต่อการดำเนินธุรกิจ สนับสนุนการใช้พลังงานจากเชื้อเพลิงฟอสซิล ลดบทบาทของกฎหมาย Inflation Reduction Act และยกเลิกเครดิตภาษีคาร์บอน

ผู้อพยพและแรงงานต่างชาติ

งดการให้สิทธิการเป็นสัญชาติอเมริกันสำหรับเด็กที่เกิดในประเทศ แต่บุพการีไม่มีใบแจ้งการอพยพถิ่นฐาน

สวัสดิการสังคม

ปรับปรุง/ยกเลิก the Affordable Care Act โดยเพิ่มสัดส่วนค่าใช้จ่ายของประชาชน และให้แต่ละมลรัฐเป็นผู้กำหนดกฎหมายการทำแท้ง อีกทั้งสนับสนุนสิทธิในการถือครองปืนอย่างทั่วถึง

การเมืองระหว่างประเทศ

ยกเลิกความช่วยเหลือแก่ยูเครน แต่ยังให้การสนับสนุนอิสราเอลและมีจุดยืนที่ไม่สนับสนุน NATO

นโยบายโดนัลด์ ทรัมป์

  • AI และเทคโนโลยีเป็นนโยบายที่ความสำคัญต่อความมั่นคงของประเทศ
  • ในปี 2019 ทรัมป์ออกคำสั่งประธานาธิบดีฉบับแรกเกี่ยวกับ AI
  • สนับสนุนการวิจัยที่เกี่ยวข้อง
  • มองการแข่งขันด้าน AI กับจีนเป็นการแข่งขันที่สามารถเปลี่ยนแปลงโลกได้ 

ความสัมพันธ์กับจีน

  • ปกป้องตลาดภายในและลดการพึ่งพาสินค้านำเข้าจากจีน
  • ขู่ว่าจะขึ้นภาษีสินค้าจีนไปจนถึงการออกมาตรการคว่ำบาตรบริษัทเทคโนโลยี เช่น Huawei
  • เตรียมเพิกถอนสิทธิพิเศษทางการค้าที่สหรัฐฯ มอบให้จีน

การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

  • ตั้งเป้าจะออกจากข้อตกลงปารีสอีกครั้ง
  • สนับสนุนพลังงานฟอสซิลภายในประเทศ
  • สนับสนุนพลังงานนิวเคลียร์
  • พัฒนาเทคโนโลยีเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ขนาดเล็ก

ความมั่นคงและ NATO

  • ต้องการให้พันธมิตร NATO แบกรับภาระค่าใช้จ่ายมากขึ้น
  • สร้างกองกำลังอวกาศเพื่อรับมือกับความท้าทายในอวกาศและพัฒนาแผนการป้องกันภัยคุกคามจากนอกโลกอย่างจริงจัง

อัตราเงินเฟ้อ หนี้สิน และเศรษฐกิจ

  • เน้นการลดภาษีและปลดล็อกกฎระเบียบเพื่อส่งเสริมการลงทุนและการจ้างงานในประเทศ
  • เสนอลดภาษีสำหรับบริษัทที่ผลิตในสหรัฐฯ
  • ต่อต้านการเก็บภาษีที่สูง 

สาธารณสุขโลกและการป้องกันโรคระบาด

  • จะขัดขวางการออกคำสั่งหรือข้อบังคับเกี่ยวกับ COVID-19
  • ฟื้นฟูเสรีภาพทางการแพทย์ โดยเชื่อในข้อยกเว้นสำหรับการจำกัดสิทธิทำแท้งในกรณีของการข่มขืน, ร่วมประเวณีในสายเลือดเดียวกัน และกรณีที่มีความเสี่ยงต่อชีวิตของมารดา จะเพิ่มความร่วมมือในการต่อต้านยาเสพติดกับเม็กซิโก

การย้ายถิ่นฐานและความมั่นคงชายแดน

  • นโยบายเข้มงวดในเรื่องการย้ายถิ่นฐาน
  • ตั้งเป้าเนรเทศครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์
  • ต้องการยุติสัญชาติตามสถานที่เกิดสำหรับผู้ลักลอบเข้าเมือง
  • สนับสนุนการก่อสร้างกำแพงชายแดนต่อไป

อิสราเอล ฉนวนกาซา ตะวันออกกลาง

  • สนับสนุนอิสราเอล โดยย้ายสถานทูตสหรัฐฯ ไปยังกรุงเยรูซาเล็มและยอมรับอธิปไตยของอิสราเอลในพื้นที่พิพาท
  • พยายามแยกตัวออกจากอิหร่านผ่านมาตรการคว่ำบาตรและป้องกันการแพร่ขยายของรัฐอิสลาม

รัสเซียและยูเครน

  • ทรัมป์มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อประธานาธิบดีปูตินของรัสเซีย แต่ยังคงใช้มาตรการคว่ำบาตรเพื่อกดดันรัสเซียในประเด็นการยึดครองดินแดนยูเครน 

การค้า

  • เสนอนโยบายขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากประเทศต่างๆ
  • เน้นการสร้างข้อตกลงการค้าที่สนับสนุนอุตสาหกรรมภายในประเทศ