เปิดวาระ ประชุมรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียนอย่างไม่เป็นทางการ 9 มี.ค. 67 

03 มี.ค. 2567 | 11:08 น.
อัปเดตล่าสุด :03 มี.ค. 2567 | 11:11 น.

เปิดวาระ การประชุมรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียนอย่างไม่เป็นทางการ 9 มีนาคม 2567 รองโฆษกรัฐบาลยัน ช่วยเสริมสร้างความเชื่อมโยงอย่างไร้รอยต่อ ยกระดับและอำนวยความสะดวกในการประกอบธุรกิจ รวมทั้งพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขันของภูมิภาคอาเซียน

วันนี้ (3 มี.ค. 67) นางรัดเกล้า อินทวงศ์ สุวรรณคีรี รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2567 ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างเอกสารกรอบการอำนวยความสะดวกด้านบริการของอาเซียน (ASEAN Services Facilitation Framework: ASFF) โดยมีกำหนดการร่วมรับรองเอกสารในการประชุมรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียนอย่างไม่เป็นทางการ ในวันที่ 9 มีนาคม 2567 

โดยสปป.ลาว ในฐานะประธานอาเซียน ปี 2567 กำหนดจัดการประชุมรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียนอย่างไม่เป็นทางการ ครั้งที่ 30 ซึ่งในระหว่างการประชุมจะมีการรับรองร่างเอกสาร ASFF จำนวน 1 ฉบับ ซึ่งประกอบด้วยประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการค้าบริการต่างๆ ที่นำมาจากความตกลงการค้าบริการอาเซียน ความตกลงอาเซียนว่าด้วยการเคลื่อนย้ายบุคคลธรรมดา และข้อริเริ่มร่วมว่าด้วยกฎระเบียบภายในประเทศภาคบริการขององค์การการค้าโลก ซึ่งไทยเป็นภาคีสมาชิกแล้ว มีสาระสำคัญ 5 ด้านดังนี้

  1. การสร้างความเป็นธรรมและการเปิดโอกาสให้เศรษฐกิจบริการขออาเซียน 
  2. การสนับสนุนการเคลื่อนย้ายและการเชื่อมโยงเศรษฐกิจภาคบริการในภูมิภาคอาเซียน 
  3. การพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลด้านการค้าบริการของอาเซียน
  4. การสร้างเศรษฐกิจบริการของอาเซียนที่ยั่งยืนและมีนวัตกรรม
  5. การเป็นหุ้นส่วนกับภาคธุรกิจเพื่อกำหนดอนาคตของเศรษฐกิจบริการของอาเซียนร่วมกัน

ทั้งนี้ ASFF จะทำให้เกิดการเชื่อมโยงเศรษฐกิจภาคบริการในภูมิภาคอาเซียน และการปรับปรุงนโยบายด้านการค้าบริการและการกำกับดูแลเพื่อสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้ออำนวยต่อการค้าบริการ รวมถึงช่วยอำนวยความสะดวกในการเข้าเมืองของผู้ให้บริการ และเป็นแนวทางกำกับดูแลการใช้กฎระเบียบภายในประเทศ มีความโปร่งใส มีประสิทธิภาพ และคาดการณ์ได้ 

“ความเชื่อมโยงในภูมิภาคอาเซียนที่มีคุณภาพและทั่วถึง ทั้งทางด้านกายภาพ รวมถึงกฎระเบียบต่างๆ โดยร่างเอกสาร ASFF จะทำให้เกิดการเชื่อมโยงเศรษฐกิจภาคบริการ ช่วยสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการค้าบริการ รวมถึงช่วยอำนวยความสะดวกและยกระดับความสะดวกในการประกอบธุรกิจในไทย และพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขันของทั้งไทยและประเทศสมาชิกอาเซียนไปพร้อมกันด้วย”