สื่อนอกเผย “สี จิ้นผิง” เตรียมเยือนมอสโก พบ“ปูติน” ช่วงเม.ย.-พ.ค.นี้

23 ก.พ. 2566 | 00:32 น.
อัปเดตล่าสุด :23 ก.พ. 2566 | 00:32 น.

สื่อใหญ่วอลล์สตรีทเจอร์นัลรายงานว่า ปธน.สี จิ้นผิง ผู้นำจีน มีแผนเยือนกรุงมอสโก เพื่อประชุมสุดยอดกับปธน.วลาดิเมียร์ ปูติน แห่งรัสเซีย ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า

 

รายงานของวอลล์สตรีทเจอร์นัลเมื่อวันอังคาร (21 ก.พ.) อ้างอิงข้อมูลจากผู้ที่เกี่ยวข้องกับแผนการเยือนรัสเซียของผู้นำจีนว่า การพบกันระหว่าง ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง กับ ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน จะเป็นส่วนหนึ่งของการผลักดัน “การหารือหลายฝ่าย” เพื่อหาทาง สร้างสันติภาพ ระหว่าง รัสเซีย-ยูเครน และเปิดทางให้จีนได้ยืนยันถึงข้อเรียกร้องไม่ให้ใช้ อาวุธนิวเคลียร์

อย่างไรก็ตาม การเตรียมการสำหรับการเยือนรัสเซียของผู้นำจีน ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น และช่วงเวลาการเยือนยังไม่มีการระบุชัดเจน โดยอาจจะเป็นช่วงเดือนเมษายนหรือต้นเดือนพฤษภาคมนี้ ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่รัสเซียจะมีการจัดพิธีเฉลิมฉลองชัยชนะที่มีต่อเยอรมนีในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2

สัปดาห์แห่งความเคลื่อนไหว และสถานการณ์ที่ตึงเครียด

ในช่วงสัปดาห์นี้ เกิดความเคลื่อนไหวมากมายในวิกฤตการเผชิญหน้าระหว่างรัสเซียและยูเครน ซึ่งรวมถึงการเดินทางเยือนกรุงเคียฟ เมืองหลวงของยูเครนโดยไม่แจ้งในหมายกำหนดการของประธานาธิบดีโจ ไบเดน เมื่อวันที่ 20 ก.พ. ก่อนจะเดินทางต่อไปที่โปแลนด์เพื่อประกาศให้ความสนับสนุนยูเครนทั้งด้านการทหารและเงินสนับสนุน

ไล่เลี่ยกับการเดินทางเยือนกรุงมอสโก เมืองหลวงของรัสเซีย ของนายหวัง อี้ อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศจีน ซึ่งปัจจุบันเป็นที่ปรึกษาด้านนโยบายต่างประเทศของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง เพื่อเดินหน้าทางการทูต ผลักดันการเจรจาสันติภาพในยูเครน

ขณะที่ปธน.ปูติน ผู้นำรัสเซียได้ประกาศแถลงนโยบายประจำปีต่อรัฐสภาเมื่อวันที่ 21 ก.พ. ซึ่งหนึ่งในเนื้อหาคือ การประกาศเดินหน้าทำสงครามกับยูเครนต่อ โดยรัสเซียมองว่าสหรัฐและพันธมิตรชาติตะวันตกยังคงเป็นฝ่ายโหมกระพือไฟสงคราม ไม่เพียงเท่านั้น ปธน.ปูติน ยังประกาศกร้าว ระงับความร่วมมือกับสหรัฐในสนธิสัญญาควบคุมนิวเคลียร์ภายใต้ชื่อ นิว สตาร์ท (New START treaty) ซึ่งเป็นสนธิสัญญาฉบับสุดท้ายระหว่างสหรัฐกับรัสเซีย ที่มีเป้าหมายควบคุมอาวุธนิวเคลียร์ของทั้งสองประเทศ

ผู้นำรัสเซียประกาศจะระงับความร่วมมือกับสหรัฐในสนธิสัญญาควบคุมนิวเคลียร์ภายใต้ชื่อ New START treaty

ทั้งหมดทั้งมวลนี้ ทำให้สถานการณ์มีความตึงเครียดของการเผชิญหน้ายิ่งขึ้น การจับข้างแบ่งขั้ว และความวิตกเกี่ยวกับสงครามนิวเคลียร์ที่อาจเกิดขึ้นได้ 

จับตาสถานะตัวกลางของจีน ก่อน "ปูติน" จะพบ "สี จิ้นผิง"

นายหวัง อี้ อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศจีน และปัจจุบันดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการการต่างประเทศแห่งคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีน นับเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงสุดของจีนที่ได้เดินทางเยือนกรุงมอสโก นับตั้งแต่ที่รัสเซียทำการโจมตียูเครนเมื่อวันที่ 24 ก.พ. 2565

เขากล่าวย้ำว่า จีนและรัสเซียมีความสัมพันธ์ที่แนบแน่น และ “มั่นคงดั่งหินผา” และจะสามารถผ่านการทดสอบ แม้มีการเปลี่ยนแปลงของสถานการณ์การเมืองระหว่างประเทศ

"ไม่ว่าสถานการณ์จะมีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร จีนจะยังคงมีความมุ่งมั่นร่วมกับรัสเซียในความพยายามที่จะดำรงไว้ซึ่งแนวโน้มเชิงบวกของการพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองประเทศ"

การเดินทางเยือนรัสเซียของนายหวัง อี้ในครั้งนี้ ยังมีวัตถุประสงค์เพื่อหารือเกี่ยวกับการเจรจาสันติภาพในยูเครน รวมทั้งเตรียมการสำหรับการเดินทางเยือนรัสเซียอย่างเป็นทางการของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีน ในเร็วๆนี้ด้วย ซึ่งฝ่ายจีนย้ำว่า จีนสนับสนุนการหาทางออกโดยสันติ และคัดค้านการใช้อาวุธนิวเคลียร์ 

ผู้นำทั้งสองพบกันล่าสุดที่กรุงปักกิ่งเมื่อปี 2565 เมื่อครั้งที่จีนเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาว

“ปูติน”ชื่นชมความสัมพันธ์ทวิภาคีรัสเซีย-จีน

"ความสัมพันธ์ระหว่างรัสเซียและจีนมีการพัฒนาตามที่เราได้วางแผนไว้ โดยมีความคืบหน้าในทุกๆด้าน" ปธน.ปูติน กล่าว และว่า เขากำลังรอการเดินทางเยือนรัสเซียของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีน

นายหวัง อี้ ให้ข้อมูลเสริมว่า จีนและรัสเซียพร้อมที่จะกระชับความร่วมมือด้านยุทธศาสตร์ และแม้ทั้งสองประเทศมักเผชิญวิกฤตการณ์และความวุ่นวาย แต่ในวิกฤตการณ์ก็ทำให้เกิดโอกาสด้วยเช่นกัน         

ก่อนหน้านี้ ปธน.สี และปธน.ปูติน ได้สนทนาผ่านระบบวิดีโอลิงค์เมื่อวันที่ 30 ธ.ค.2565 ซึ่งครั้งนั้น ปธน.ปูตินได้เชิญปธน.สีเดินทางเยือนรัสเซียอย่างเป็นทางการในช่วงฤดูใบไม้ผลิของปีนี้ (2566) หรือในช่วงระหว่างเดือนมี.ค.-มิ.ย.