สำนักข่าววีโอเอ สื่อใหญ่ของสหรัฐอเมริกา รายงานว่า เจ้าหน้าที่ของ มหานครลอสแองเจลิส (แอลเอ) กำลังดำเนินการเตรียมความพร้อมในฐานะเจ้าภาพจัดการแข่งขัน กีฬาโอลิมปิกฤดูร้อนในปี 2028 หรือในอีกเกือบ 6 ปีข้างหน้า ด้วยความหวังว่า จะสามารถผลักดันให้มีบริการ “แท็กซี่ทางอากาศ” หรือ "แอร์แท็กซี่" ในช่วงที่มีการแข่งขันมหกรรมกีฬาระดับโลกที่มหานครแห่งนี้ให้ได้
ทางเลือกใหม่การเดินทางระยะสั้นทางอากาศ
เพื่อหลบหนีสภาวะการจราจรติดขัดบนท้องถนน “แอร์แท็กซี่” จึงเป็นนวัตกรรมสำหรับการเดินทางทางเลือก ที่เหมาะกับการเดินทางในระยะสั้น ๆ ทางอากาศ
บริษัท โอเวอร์แอร์ (Overair) ซึ่งตั้งอยู่ทางตอนใต้ของรัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้ทำการทดสอบระบบขับเคลื่อนแบบเต็มสมรรถนะของ "แท็กซี่บินได้” ด้วยพลังงานไฟฟ้า มีการทดลองขับข้ามทะเลทรายเมื่อไม่นานมานี้
รายงานข่าวของวีโอเอระบุว่า วิศวกรของบริษัทแห่งนี้กำลังอยู่ในกระบวนการพัฒนายานพาหนะประเภท eVTOL ซึ่งก็คือ ยานพาหนะที่สามารถบินขึ้นและลงจอดในแนวดิ่งด้วยพลังงานไฟฟ้า โดยพาหนะดังกล่าวของบริษัท มีใบพัดขนาด 6 เมตร รวมถึงมีมอเตอร์ไฟฟ้าและแบตเตอรีแบบใหม่ล่าสุด ที่เป็นความหวังว่า จะช่วยให้ผู้โดยสารสามารถเดินทางข้ามผ่านความพลุกพล่านบนท้องถนนไปได้
จอห์น คริซิส หัวหน้าฝ่ายปฏิบัติการเคลื่อนที่ของบริษัท Overair ให้สัมภาษณ์ว่า:
ข้อที่ยังเป็นความกังวลใจ
การใช้งานพาหนะทางอากาศในเขตเมือง นำมาซึ่งคำถามมากมาย รวมถึงเรื่องของโครงสร้างพื้นฐานสำหรับแท็กซี่ที่บินได้ และข้อกำหนดภายใต้การกำกับดูแลของ องค์การบริหารการบินของรัฐบาลสหรัฐฯ หรือ FAA
คอนนี ลาโนส เจ้าหน้าที่จากกรมขนส่งนครลอสแอนเจลิส กล่าวว่า เป็นที่ชัดเจนว่า FAA จะมีบทบาทอย่างมากในเรื่องนี้ พวกเขากำลังทวบทวนและพิจารณาที่จะออกใบอนุญาตบางประเภทอย่างเร็วที่สุดในปี 2025 “หลังจากนั้น ในการควบคุมระดับท้องถิ่น เราจะเข้าไปดูแลในเรื่องสิทธิการใช้พื้นที่ที่จะเป็นจุดรับส่งผู้โดยสาร เชื่อว่าสิ่งนี้จะช่วยยกระดับและเพิ่มมูลค่าให้กับเมือง รวมถึงตอบสนองการใช้ชีวิตของคนในพื้นที่อย่างแท้จริงด้วย”
อย่างไรก็ตาม ผู้ที่อาศัยในพื้นที่แอลเอจำนวนหนึ่ง ยังคงมีความกังวลเกี่ยวกับบริการแท็กซี่ที่บินได้
เกดาเลีย ชอร์ช ผู้อาศัยในนครลอสแอนเจลิส คือ หนึ่งเสียงของผู้ที่ไม่สบายใจเกี่ยวกับนวัตกรรมนี้ เธอกล่าวว่า “แค่คิดถึงเรื่องจุดจอดเพื่อรับส่งทั้งหมดในตอนที่ต้องรอคนขึ้นเครื่อง ก็ดูเหมือนว่าจะวุ่นวายอย่างมาก กลายเป็นว่า ต้องจัดโซนเพื่อให้คนขึ้นเครื่องและสำหรับเครื่องลงจอด เพราะจะให้เครื่องบินเหล่านี้จอดตามอำเภอใจไม่ได้ นอกจากนี้ ยังดูเหมือนว่า หากนำแท็กซี่บินได้ขึ้นให้บริการ ก็อาจเกิดเหตุพาหนะชนกันกลางอากาศได้ตลอดเวลา”
ในปี 2011 (พ.ศ.2554) บริษัท โวโลคอปเตอร์ (Volocopter) สัญชาติเยอรมัน เป็นบริษัทแรกที่เริ่มใช้พาหนะการบินสำหรับผู้โดยสารในการเดินทางระยะสั้น เครื่องบินดังกล่าวใช้พลังงานจากแบตเตอรีไฟฟ้าเพียงอย่างเดียว และในวันนี้บริษัทก็ได้พัฒนาพาหนะแท็กซี่บินรุ่นโวโลซิตี (VoloCity) ที่มี 2 ที่นั่ง และมีจำนวนใบพัดมากถึง 18 ใบพัด
คริสเตียน บาวเวอร์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายพาณิชย์ของบริษัทโวโลคอปเตอร์ เล่าประสบการณ์ตอนที่ทดลองบินเข้าไปในใจกลางเมืองของประเทศสิงคโปร์ว่า
“เราคาดหวังที่จะได้รับเสียงปรบมือต้อนรับจากนักท่องเที่ยวบริเวณนั้น แต่ปรากฏว่าไม่มีใครปรบมือให้ เพราะพวกเขาไม่ได้ยินเสียงจากเครื่องบินของเรา” ในประเด็นนี้อาจจะไม่ดีในเรื่องการตลาดและการประชาสัมพันธ์ แต่ภาครัฐกลับชอบมาก เพราะพาหนะนี้บินได้เงียบมาก ๆ และเมื่อลอยอยู่บนท้องฟ้าก็เป็นเพียงแค่จุดเล็ก ๆเท่านั้น
ในเดือนพฤศจิกายน 2022 โวโลคอปเตอร์ได้นำพาหนะรุ่น โวโลซิตี (VoloCity) บินเหนือกรุงปารีส โดยมีแผนจะใช้งานจริงสำหรับเที่ยวบินพาณิชย์ระยะสั้นในช่วงการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกที่กรุงปารีสในปี 2024 ขณะที่ เจ้าหน้าที่ของแอลเอก็กำลังดำเนินการด้วยความหวังที่ว่า จะสามารถผลักดันให้มีบริการแท็กซี่ทางอากาศในช่วงการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูร้อนในปี 2028 ที่มหานครแอลเอให้ได้เช่นกัน