ไต้ฝุ่น "โนรู" ถล่มฟิลิปปินส์อ่วม น้ำท่วมหนัก-ไฟดับ เศร้าจนท.กู้ภัยดับ 5 ราย

ซูเปอร์ไต้ฝุ่น “โนรู” (Noru) ได้พัดถล่ม เกาะลูซอน เกาะหลักที่เป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจ และเป็นที่ตั้งเมืองหลวงมะนิลา รวมทั้งจังหวัดอื่นๆ ทางตอนเหนือของ ฟิลิปปินส์ ซึ่งมีประชากรอยู่อาศัยเป็นจำนวนมาก รายงานวานนี้ (26 ก.ย.) ระบุหลังพายุลูกนี้ซึ่งเป็นพายุที่มีความรุนแรงที่สุดที่พัดถล่มฟิลิปปินส์ในปีนี้ พัดขึ้นฝั่งด้วยกำลังลม 185 กิโลเมตรต่อชั่วโมงเมื่อคืนวันอาทิตย์ (25 ก.ย.) ก็ได้สร้างความเสียหายเป็นวงกว้าง ทั้งจากพายุฝนและน้ำท่วมหนัก มีรายงานไฟฟ้าดับหลายพื้นที่ใน 2 จังหวัดของเกาะลูซอน และมียืนยันผู้เสียชีวิต 6 ราย ขณะที่ประชาชนอีกกว่า 74,000 คนต้องอพยพออกจากที่พักอาศัย

รายงานข่าวระบุว่า ฝนฟ้าคะนองจากไต้ฝุ่นโนรูทำให้เกิดน้ำท่วมสูง ส่งผลให้ประชาชนจำนวนมากต้องหนีขึ้นไปอยู่บนหลังคาบ้าน ขณะที่กรมอุตุนิยมวิทยาฟิลิปปินส์เตือนว่า ฝนที่ตกหนักสามารถก่อให้เกิดน้ำท่วมรุนแรงได้ในพื้นที่เปราะบางของประเทศ ขณะเดียวกัน ทางการได้สั่งปิดโรงเรียน สถานที่ราชการ รวมทั้งตลาดหุ้น และอพยพประชาชนจำนวนกว่า 74,000 คนจากที่อยู่อาศัยไปพำนักชั่วคราวที่ศูนย์พักพิง เพื่อความปลอดภัยจากอันตรายของพายุ

นอกจากนี้ รายงานข่าวยังระบุว่า ในจำนวนผู้เสียชีวิตที่ได้รับรายงานยืนยันอย่างน้อย 6 รายนั้น มี 5 รายเป็นเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยที่กำลังออกปฏิบัติหน้าที่นำเรือออกให้ความช่วยเหลือประชาชน นายแดเนียล เฟอร์นันโด ผู้ว่าราชการจังหวัดบูลากัน (Bulacan) ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของกรุงมะนิลา เผยว่า เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยทั้ง 5 คนที่เสียชีวิต นำเรือออกไปช่วยเหลือประชาชนที่ติดอยู่ในวงล้อมของกระแสน้ำท่วมที่พัดแรง เรือของพวกเขาถูกกำแพงที่ถูกน้ำเซาะดันจนถล่มลงมากระแทกใส่ ทำให้ทุกคนบนเรือตกลงสู่กระแสน้ำเชี่ยวกรากกระทั่งจมน้ำเสียชีวิตในที่สุด   

"พวกเขาคือวีรบุรุษที่เสียสละตัวเองขณะช่วยเหลือคนอื่นจากหายนะครั้งนี้ มันเป็นเรื่องน่าเศร้ามากๆ" ผู้ว่าฯแดเนียลกล่าว ขณะเดียวกัน ที่เกาะโพลิลโล (Polillo) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของจังหวัดเกซอนทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศฟิลิปปินส์ มีรายงานชายได้รับบาดเจ็บจากการตกลงมาจากหลังคาบ้านที่เขาปีนขึ้นไปหนีน้ำท่วม 

ส่วนในเมืองหลวงมะนิลา แม้จะได้รับผลกระทบแต่ก็มีความเสียหายน้อยกว่าเมื่อเทียบกับพื้นที่อื่น ๆ ทั้งนี้ มีประชาชนในเมืองหลวงที่ต้องอพยพจำนวนกว่า 3,000 คน ในช่วงที่น้ำท่วมสูงนั้น บางพื้นที่ในกรุงมะนิลาระดับน้ำสูงท่วมศีรษะ แต่ขณะนี้ระดับน้ำได้ลดลงมาแล้วจนเกือบปกติ และเริ่มมีการทำความสะอาดครั้งใหญ่กัน

ขณะที่ในอำเภอดิงกาลัน (Dingalan) จังหวัดออโรรา (Aurora) อีกพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบรุนแรงจากซูเปอร์ไต้ฝุ่นโนรู มีรายงานบ้านพักอาศัยได้รับความเสียหายจากพายุมากกว่า 6,000 หลังคาเรือน แม้แต่ศูนย์พักพิงผู้อพยพที่เพิ่งสร้างใหม่และเป็นที่อาศัยชั่วคราวของกว่า 200 ครอบครัวที่มาพักหลบภัยจากพายุ ก็ยังถูกพัดกระหน่ำด้วยกระแสลมแรงและฝนหนักจนได้รับความเสียหาย แต่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ  

ทั้งนี้ พายุได้เคลื่อนตัวลงสู่ทะเลจีนใต้ และคาดว่าจะขึ้นฝั่งด้านตะวันออกของประเทศเวียดนามวันพรุ่งนี้ (28 ก.ย.) ก่อนพาดผ่านลาว กัมพูชาและไทย