ตลาดพันธบัตรสหรัฐป่วนหนัก ! ส่งสัญญาณศก.ถดถอย

14 มิ.ย. 2565 | 13:08 น.
อัปเดตล่าสุด :14 มิ.ย. 2565 | 20:44 น.

ไม่ใช่ตลาดหุ้นและตลาดคริปโตเท่านั้นที่กำลังระเนนระนาด ตลาดพันธบัตรก็ถูกกระทบหนักเช่นกัน โดยในระยะเวลาสั้นๆ เพียงแค่ 3 วัน ดอกเบี้ยพันธบัตรสหรัฐ 2 ปี เพิ่มขึ้น +0.58% ซึ่งเป็นสถิติสูงสุดในรอบ 14 ปี สร้างความเสียหายให้กับผู้ลงทุนในพันธบัตรสหรัฐกองต่างๆ

นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล ประธานกรรมการสภาธุรกิจตลาดทุนไทย (FETCO) อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีในสมัยรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แสดงความเห็นผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัววันนี้ (14 มิ.ย.) แสดงมุมมองเกี่ยวกับ ภาวะปั่นป่วนทั้งในตลาดหุ้น ตลาดคริปโต และ ตลาดพันธบัตรสหรัฐ ที่กำลังสะท้อนให้เห็นถึงสัญญาณที่ว่า เศรษฐกิจขนาดใหญ่อย่างสหรัฐอเมริกาอาจต้องพบกับ ภาวะถดถอย (Recession) ใน 12-24 เดือนข้างหน้า รายละเอียดของเนื้อหา มีดังนี้ 

 

ตลาดพันธบัตรสหรัฐปั่นป่วนหนัก !!!

ไม่ใช่ตลาดหุ้น ตลาดคริปโตเท่านั้นที่ระเนระนาด ตลาดพันธบัตรก็ถูกกระทบหนักเช่นกัน

ในระยะเวลาสั้นๆ เพียงแค่ 3 วัน ดอกเบี้ยพันธบัตรสหรัฐ 2 ปี เพิ่มขึ้น +0.58%

สูงสุดในรอบ 14 ปี เป็น 3.354%

รับกับดอกเบี้ยพันธบัตรสหรัฐในอายุอื่นๆ ที่พุ่งขึ้นเช่นกัน 

นำมาซึ่งความเสียหายกับผู้ที่ได้ลงทุนในกองพันธบัตรสหรัฐต่างๆ

ยิ่งไปกว่านั้น ดอกเบี้ยพันธบัตรระยะสั้นเช่น 2 ปี ได้เริ่มพุ่งไปอยู่ระดับที่สูงกว่าดอกเบี้ยระยะยาว 10 ปี 30 ปี  

ทำให้เริ่มเข้าสู่ภาวะ Inverted Yield Curve เป็นรอบที่สองของปี สะท้อนสัญญาณว่าจะมี Recession ในอนาคต 12-24 เดือนข้างหน้า

ภาวะเช่นนี้มักจะเกิดขึ้นในช่วงที่ตลาดคิดว่า เฟดต้องขึ้นดอกเบี้ยไปจัดการปัญหาระยะสั้น และนำมาซึ่งเศรษฐกิจที่ซบเซาหรือถดถอย (Recession) จนท้ายสุดเฟดต้องลงดอกเบี้ยมาในระยะยาว เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจอีกครั้ง

ทั้งหมดนี้ เป็นผลมาจากตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐ ที่ประกาศออกมาเมื่อวันศุกร์ ที่ออกมาว่า เงินเฟ้อที่คิดกันว่าผ่านจุดสูงสุดแล้ว ยังสามารถสูงขึ้นได้อีก

Inflation is alive and well

ดื้อยา กว่าที่คิด

ซึ่งมีนัยยะต่อไปกับการประชุมของเฟดในคืนวันอังคารและคืนวันพุธว่า กรรมการจะตัดสินใจอย่างไร 

แต่ที่แน่ๆ สูตรยาโดยรวมจะต้องแรงขึ้น

โดยตลาดคิดว่า จะต้องเพิ่มไปอีกอย่างน้อย .50% จากแนวทางเดิมที่ท่านประธานเฟดเคยประกาศไว้เมื่อการประชุมครั้งที่แล้ว 

เพียงแค่ว่าจะเป็นแบบ ทำเลย หรือ Front Load คือ ขึ้น +0.75% ในรอบนี้เลย หรือค่อยเป็นค่อยไป คือ ยังขึ้น +0.5% ในรอบนี้ และประกาศว่าจะขึ้นต่อเนื่องในช่วงที่เหลือของปีไปอีก 3-4 ครั้ง ปรับเพิ่มจากแนวทางเดิม ที่เหลืออยู่อีก 1-2 ครั้งเท่านั้น

ซึ่ง การประชุมเฟดที่จะถึงนี้ จะมีเรื่องให้เราติดตาม 4 เรื่อง

  1. การตัดสินใจครั้งนี้ ว่าขึ้นเท่าไร
  2. Dot Plot ว่าจะไปจบที่ตรงไหน จะไปทะลุ 4% หรือไม่
  3. ประมาณการณ์เศรษฐกิจสหรัฐล่าสุด โดยเฉพาะว่าแนวโน้มเงินเฟ้อ ว่าต่างจากเดิมแค่ไหน เศรษฐกิจสหรัฐจะซบเซาลงแค่ไหน จะเข้าใกล้ หรือเป็น Recession หรือไม่
  4. ที่สำคัญสุด คือ การแถลงและตอบคำถามของท่านประธานเฟด ที่แสนจะเดายาก ว่าท่านจะหลุดปากอะไร และเมื่อท่านพูดแล้ว ตลาดจะเหวี่ยงไปทางไหน 

และทุกคนอยากรู้ว่า ท่านประธานเฟดจะพูดอะไรเพิ่ม นอกจากแผ่นเสียงที่ตกร่องว่า 

"Inflation is much too high" เงินเฟ้อสูงเกินไป 

"Restoring price stability is essential" การดูแลให้ราคากลับมามีเสถียรภาพ เป็นเรื่องสำคัญยิ่ง

"เฟดพร้อมทำทุกอย่าง ที่จะสู้ไม่ให้เงินเฟ้อฝังรากลึก"

"เฟดพร้อมขึ้นดอกเบี้ยไปจนเงินเฟ้อลดลงมา" 

แต่ที่แน่ๆ คำถามของนักข่าวและสังคมต่อท่านประธานเฟด จะเริ่มร้อนแรงขึ้นจากนี้ต่อไป

เพราะท่านคือแม่ทัพที่บัญชาการศึกสู้เงินเฟ้อ แต่กำลังเอาเงินเฟ้อไม่อยู่

สุดท้าย อาจจะต้องจำใจงัดยาแรง ใช้ขีปนาวุธสุดท้าย ก็คือ ทำให้เกิด Recession เพื่อให้เงินเฟ้อลงมา 

ซึ่งหากเป็นเช่นนั้น ก็หมายความว่า คนนับสิบล้านที่จะต้องตกงาน สูญเสียบ้าน มีปัญหาครอบครัว บริษัทหลายแสนแห่งที่จะต้องปิดกิจการ 

ไม่นับ Emerging markets อีกหลายประเทศที่จะเกิดวิกฤต กระทบคนไปอีกหลายร้อยล้านคนทั่วโลก

 

ทั้งหมดมาจาก "เฟดที่พลาดแล้วพลาดอีก" จนนำไปสู่ความเสียหายดังกล่าว 

มาลุ้นกันครับ ว่าอีก 2 คืน เฟดจะตัดสินใจอย่างไร 

ตลาดจะเหวี่ยงแค่ไหน ทั้งหุ้น พันธบัตร ค่าเงินประเทศต่างๆ

เพราะโค้งนี้คือโค้งสำคัญ ที่เดิมพันคือความเป็นอยู่ของทุกคน