ภูเขาไฟตาอัลพิโรธ "ฟิลิปปินส์" สั่งอพยพประชาชนนับพัน  

27 มี.ค. 2565 | 04:24 น.
อัปเดตล่าสุด :27 มี.ค. 2565 | 13:42 น.
1.0 k

รัฐบาลฟิลิปปินส์สั่งอพยพประชาชนหลายพันคนในจังหวัดบาตังกัสสู่พื้นที่ปลอดภัย หลังจากที่ภูเขาไฟตาอัลที่อยู่บนเกาะในจังหวัดดังกล่าวเกิดการปะทุรุนแรงพ่นไอร้อนสูงกว่า 1.5 กม.ขึ้นสู่ท้องฟ้า ตามด้วยแผ่นดินไหวทำให้ทางการต้องยกระดับการเตือนภัยเป็นระดับ3

ภูเขาไฟตาอัล (Taal) บนเกาะในจังหวัดบาตังกัส (Batangas) ซึ่งอยู่ห่างจากกรุงมะนิลา เมืองหลวงประเทศฟิลิปปินส์ ประมาณ 66 กิโลเมตร เกิดการปะทุรุนแรงเมื่อวันเสาร์ (26 มี.ค.) โดยการปะทุของภูเขาไฟดังกล่าว ได้พ่นเถ้าถ่านและไอน้ำสูงกว่า 1.5 กิโลเมตรขึ้นสู่ท้องฟ้า ทำให้ทางการฟิลิปปินส์ต้อง ประกาศเตือนภัยระดับ 3 พร้อมสั่ง อพยพประชาชน หลายพันคนที่อาศัยอยู่ใน 5 หมู่บ้านประมงรายรอบภูเขาไฟออกไปยังสถานที่ปลอดภัยอย่างเร่งด่วน เนื่องจากมีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดอันตรายทั้งจากก๊าซที่พวยพุ่งออกมา เถ้าควันไฟ รวมถึงความเป็นไปได้ที่จะเกิดสึนามิ

 

นอกจากนี้ ยังพบว่า มีแมกมาหรือ หินร้อนไหลไปรวมกับน้ำ ทำให้เกิดไอน้ำจำนวนมาก และมีแผ่นดินไหวเพราะมีการเคลื่อนตัวของแมกมาด้วย โดยสถาบันภูเขาไฟวิทยาและแผ่นดินไหววิทยาของฟิลิปปินส์ ขอจับตาดูสถานการณ์อีก 2 สัปดาห์ ว่าควรลดระดับการเตือนภัยลงหรือไม่อย่างไร

ภูเขาไฟตาอัล (Taal) บนเกาะในจังหวัดบาตังกัส (Batangas)

ทั้งนี้ ทางสถาบันฯ ได้เพิ่มระดับเตือนภัยสำหรับภูเขาไฟดังกล่าวสู่ระดับ 3 จากที่มีทั้งหมด 5 ระดับ หลังจากที่ภูเขาไฟตาอัลได้พ่นควันพวยพุ่งออกมาสูงประมาณ 1,500 เมตร และเกิดแผ่นดินไหวเมื่อเวลาประมาณ 07.22 น.ตามเวลาท้องถิ่นเมื่อวานนี้ (26 มี.ค.)

 

สถาบันฯ เตือนว่า ภูเขาไฟตาอัลอาจจะปะทุขึ้นอีก และเรียกร้องให้ประชาชนอยู่ห่างจากภูเขาไฟดังกล่าว รวมถึงเตือนเครื่องบินให้หลีกเลี่ยงการบินผ่านภูเขาไฟด้วย

 

รายงานข่าวระบุว่า “ตาอัล” เป็นหนึ่งในภูเขาไฟลูกเล็กที่ยังคงคุกรุ่นมากที่สุดในโลก ถึงแม้จะมีความสูงเพียง 311 เมตรแต่สามารถเป็นภัยร้ายแรงได้เพราะการปะทุของภูเขาไฟตาอัลในปีพ.ศ. 2454 ทำให้มีผู้เสียชีวิตไม่ต่ำกว่า 1,300 คน และในเดือนมกราคมปี 2563 พบว่าตาอัลได้พ่นเถ้าถ่านขึ้นฟ้าสูงถึง 15 กิโลเมตรและทำให้ประชาชนฟิลิปปินส์เกือบ 380,000 คนต้องอพยพละทิ้งบ้านเรือน ฟาร์มหลายแห่งถูกทำลาย บ้านเรือนได้รับความเสียหาย มีการยกเลิกเที่ยวบินเป็นวงกว้าง และกรุงมะนิลา เมืองหลวงซึ่งอยู่ห่างออกไป ก็ถูกปกคลุมไปด้วยเถ้าถ่านภูเขาไฟ