ยูโรแข็งค่า หลัง ECB มีมติคงอัตราดอกเบี้ย และจ่อยุติ QE เร็วกว่าคาด

11 มี.ค. 2565 | 06:05 น.
อัปเดตล่าสุด :11 มี.ค. 2565 | 13:52 น.

เงินยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐและเยน หลังธนาคารกลางยุโรป (ECB) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย พร้อมส่งสัญญาณจะยุติการซื้อพันธบัตรเร็วกว่าที่คาดไว้

สื่อต่างประเทศรายงานว่า หลังจากที่ ธนาคารกลางยุโรป (ECB) มีมติ คงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย พร้อมส่งสัญญาณจะยุติการซื้อพันธบัตรเร็วกว่าที่คาดไว้  เงินยูโร ปรับตัวขึ้น 0.13% สู่ระดับ 1.109 ดอลลาร์ และดีดตัวขึ้น 0.26% สู่ระดับ 128.60 เยน ณ เวลา 20.30 น.วานนี้ (10 มี.ค.) ตามเวลาไทย

 

ทั้งนี้ ท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับ ผลกระทบจากวิกฤตการณ์ในยูเครน ECB ได้มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมวานนี้ (10 มี.ค.) ดังนี้

  • คงอัตราดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์ที่ระดับ 0% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์
  • คงอัตราดอกเบี้ยเงินฝากที่ธนาคารพาณิชย์ฝากไว้กับ ECB ที่ระดับ -0.50%
  • คงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่ระดับ 0.25%

 

นอกจากนี้ ECB ส่งสัญญาณยุติการซื้อพันธบัตรในไตรมาส 3 ซึ่งเร็วกว่าที่ตลาดคาดการณ์ก่อนหน้านี้ โดยจะปูทางสำหรับการขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้เพื่อสกัดเงินเฟ้อ หลังจากพุ่งขึ้น 5.8% ในเดือนก.พ. ซึ่งสูงกว่าเป้าหมายของ ECB ที่ระดับ 2%

ECB มีมติคงอัตราดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์ที่ระดับ 0% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์

แถลงการณ์ของ ECB ระบุว่า ทางธนาคารจะยุติโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการ Pandemic Emergency Purchase Programme (PEPP) วงเงิน 1.85 ล้านล้านยูโรในสิ้นเดือนนี้

 

นอกจากนี้ ECB จะลดการซื้อพันธบัตรภายใต้โครงการ Asset Purchase Programme (APP) สู่ระดับ 40,000 ล้านยูโรในเดือนเม.ย., 30,000 ล้านยูโรในเดือนพ.ค. และ 20,000 ล้านยูโรในเดือนมิ.ย. ส่วนการซื้อพันธบัตรหลังจากนั้นจะขึ้นอยู่กับข้อมูลเศรษฐกิจที่ ECB ได้รับ