ทำความรู้จัก "ยุน ซอกยอล" ประธานาธิบดีคนใหม่ของเกาหลีใต้

10 มี.ค. 2565 | 13:17 น.
อัปเดตล่าสุด :10 มี.ค. 2565 | 20:30 น.
5.9 k

เกาหลีใต้ได้ “ยุน ซอกยอล” อดีตอัยการสูงสุด ปัจจุบันนักการเมืองสายกฎหมายวัย 61 ปี จากพรรคพลังประชาชน (พีพีพี) เป็นประธานาธิบดีคนใหม่ ซึ่งเขาได้รับเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีคนที่ 20 ของเกาหลีใต้เมื่อวันพุธที่ผ่านมา (9 มี.ค.)

นายยุน ซอกยอล จาก พรรคพลังประชาชน หรือ พรรคพีเพิล พาวเวอร์ (พีพีพี) ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านแนวอนุรักษ์นิยม ได้รับเลือกตั้งเป็น ประธานาธิบดีคนที่ 20 ของ เกาหลีใต้ เมื่อวานนี้ (9 มี.ค.) หลังเฉือนเอาชนะคู่แข่งจากพรรคเดโมเครติคของฝ่ายรัฐบาลไปได้อย่างเฉียดฉิว โดยนายยุนได้คะแนนสนับสนุน 48.6% หลังการนับคะแนนทั้งหมด (จากประชาชนที่มาใช้สิทธิ์ 99.3%) ขณะที่คู่แข่งคนสำคัญคือนาย อี แจ-มยอง จากพรรคเดโมเครติค หรือ พรรคประชาธิปไตยเกาหลี (ดีพีเค) ได้ไป 47.8%

 

นายยุนเกิดเมื่อวันที่ 18 ธ.ค. 2503 ที่กรุงโซล ปัจจุบันอายุ 61 ปี เป็นบุตรคนโตในจำนวนพี่น้องสองคน โดยบิดามารดาของเขาเป็นอดีตอาจารย์มหาวิทยาลัย เขาจบการศึกษาด้านนิติศาสตร์จากมหาวิทยาลัยแห่งชาติโซลอันทรงเกียรติ และเริ่มรับราชการในตำแหน่งอัยการเมื่อปี 2537 และเคยเป็นทนายความในช่วงระยะเวลาสั้น ๆ เมื่อปี 2545

ยุน ซอกยอล ประธานาธิบดีคนใหม่ของเกาหลีใต้ ต่อมาหลังจากกลับมาทำงานในสำนักงานอัยการ นายยุนมีบทบาทในการตรวจสอบนักการเมืองระดับสูงและนักธุรกิจรายใหญ่ โดยผลงานสำคัญที่ผ่านมา ได้แก่

  • ในปี 2556 นายยุนเป็นผู้นำทีมสอบสวนชุดพิเศษ เดินหน้าตรวจสอบหน่วยข่าวกรองแห่งชาติของเกาหลี (National Intelligence Service) เกี่ยวกับประเด็นอื้อฉาวที่มีเจ้าหน้าที่ของหน่วยงานดังกล่าวโพสต์ความเห็นทางออนไลน์เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจของประชาชนก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีในเดือนธ.ค. 2555 ซึ่งการกระทำดังกล่าว เป็นการเอื้อประโยชน์ให้นางปาร์ค กึน เฮ อดีตปธน.เกาหลีใต้ ซึ่งเป็นผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีในขณะนั้นด้วย
  • นอกจากนี้ 4 ปีต่อมา นายยุนยังเป็นแกนนำทีมทนายความอิสระในการเปิดฉากตรวจสอบคดีอื้อฉาว ที่นางปาร์ค กึน เฮ ปธน.เกาหลีใต้ ในขณะนั้น และนางชเว ซุน ซิล คนสนิท ต่างมีส่วนเกี่ยวข้องกับความผิดฐานทุจริตร้ายแรง รวมถึงใช้อำนาจและอิทธิพลในทางมิชอบ คดีดังกล่าวนำไปสู่การถอดถอนนางปาร์คออกจากตำแหน่งประธานาธิบดีในเดือนมี.ค. 2560

 

ในเดือนพ.ค. 2560 ประธานาธิบดีมูน แจอิน ซึ่งได้รับเลือกตั้งขึ้นมาดำรงตำแหน่งแทนนางปาร์ค ได้แต่งตั้งนายยุนเป็นผู้อำนวยการสำนักงานอัยการประจำเขตพื้นที่กรุงโซล และแต่งตั้งเป็นอัยการสูงสุดของเกาหลีใต้เมื่อเดือนก.ค. 2562

 

อย่างไรก็ตาม นายยุนได้ลาออกจากตำแหน่งอัยการสูงสุดเมื่อเดือนมี.ค. 2564 และประกาศลงสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีเกาหลีใต้อย่างเป็นทางการในเดือนมิ.ย.ปีเดียวกัน โดยเข้าสังกัดพรรคพีเพิล พาวเวอร์ ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านของเกาหลีใต้ในเดือนก.ค.2564

ยุน ซอกยอล

การได้รับชัยชนะของนายยุน ซอกยอล และพรรคพีเพิล พาวเวอร์จะเป็นตัวกำหนดทิศทางของประเทศเกาหลีใต้ ซึ่งมีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 4 ของภูมิภาคเอเชียในระยะ 5 ปีข้างหน้า (วาระการดำรงตำแหน่งของประธานาธิบดีเกาหลีใต้ คือเทอมละ 5 ปี) โดยการบริหารงานของเขาจะเริ่มอย่างเป็นทางการในเดือนพ.ค.ที่จะถึงนี้

 

ในเบื้องต้น นายยุนประกาศว่า เขาจะให้เกียรติรัฐธรรมนูญและรัฐสภา และจะทำงานร่วมกับพรรคฝ่ายค้าน เพื่อประสานรอยร้าวทางการเมืองที่แบ่งแยกเป็นขั้ว และจะส่งเสริมความสามัคคี เขาระบุว่า การเลือกตั้งครั้งนี้เป็น “ชัยชนะของประชาชนผู้ยิ่งใหญ่”

 

 “การแข่งขันได้สิ้นสุดลงแล้ว เราต้องจับมือและสามัคคีกันเป็นหนึ่งเดียว เพื่อประชาชนและประเทศชาติ” นายยุนกล่าวในถ้อยแถลงหลังได้รับทราบผลนับคะแนนอย่างไม่เป็นทางการ

 

 ทั้งนี้ ที่ผ่านมา นายยุน ซอกยอล อาจจะไม่มีประสบการณ์ทางการเมืองมากนัก เพราะเส้นทางการทำงานส่วนใหญ่มาในสายกฎหมายและการทำหน้าที่อัยการ รวมทั้งการเป็นหัวหอกสอบสวนคดีทุจริตอื้อฉาวของนักการเมืองแถวหน้าของประเทศ ดังนั้น หลังรับทราบชัยชนะ นายยุนจึงลั่นวาจาจะถอนรากถอนโคนการทุจริต ส่งเสริมความยุติรรม และแสวงหาแนวทางปรับใหม่ความสัมพันธ์กับจีน แต่สำหรับนโยบายที่มีต่อเกาหลีเหนือนั้น เขาประกาศในช่วงหาเสียงเลือกตั้งไว้แล้วว่า เกาหลีใต้ในสมัยการบริหารงานของเขา จะมีจุดยืนแข็งกร้าวกับเกาหลีเหนือมากยิ่งขึ้น