ผู้ติดเชื้อโอไมครอนโผล่!รายที่ 2 "ไบเดน"ลั่นคุมเข้มคนเดินทางเข้าสหรัฐ

03 ธ.ค. 2564 | 06:11 น.
อัปเดตล่าสุด :03 ธ.ค. 2564 | 13:37 น.

ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ประกาศเพิ่มมาตรการคุมคนเดินทางเข้าประเทศ หลังพบผู้ติดเชื้อโอไมครอนรายที่สองในสหรัฐเมื่อวานนี้ (2 ธ.ค.)

ประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่ง สหรัฐอเมริกา ประกาศเพิ่มมาตรการควบคุมผู้ที่จะเดินทางเข้าประเทศหลังพบ ผู้ติดเชื้อโควิด "โอไมครอน" รายที่สองในสหรัฐ รวมทั้งประกาศจะเพิ่มการบริจาควัคซีนโควิดให้ประเทศอื่นอีก 200 ล้านโดสในช่วงไม่กี่เดือนข้างหน้า

 

ภายหลังจากพบผู้ติดเชื้อไวรัสกลายพันธุ์ “โอไมครอน” ในรัฐแคลิฟอร์เนียและมินเนโซตา ประธานาธิบดีไบเดนได้ประกาศยุทธศาสตร์ใหม่ของรัฐบาลสหรัฐในการควบคุมการระบาดของโควิด-19 ในอเมริกาขณะที่กำลังเข้าสู่ฤดูหนาว

 

แถลงการณ์ของทำเนียบขาวระบุว่า ผู้ที่จะเดินทางมายังสหรัฐอเมริกาจะต้องมีผลตรวจโควิด-19 เป็นลบในเวลา 1 วันก่อนออกเดินทาง จากมาตรการเดิมที่ให้เวลา 3 วัน โดยมาตรการใหม่นี้จะครอบคลุมถึงพลเมืองอเมริกันและชาวต่างชาติทั้งหมด

 

สำหรับข้อกำหนดเรื่องการสวมหน้ากากบนระบบขนส่งมวลชนต่าง ๆ รวมทั้งบนเครื่องบินนั้นยังมีผลบังคับใช้จนถึงวันที่ 18 มกราคมปีหน้า (2565) และจะขยายเวลาไปจนถึงวันที่ 18 มีนาคมด้วย

ผู้ติดเชื้อโอไมครอนโผล่!รายที่ 2  \"ไบเดน\"ลั่นคุมเข้มคนเดินทางเข้าสหรัฐ

ทั้งนี้ ทำเนียบขาวยังระบุด้วยว่า รัฐบาลประธานาธิบดีไบเดนจะส่งมอบวัคซีนโควิด 200 ล้านโดสให้แก่ประเทศต่าง ๆ ในช่วง 100 วันจากนี้ และจะจัดโครงการให้ความรู้แก่ประชาชนอเมริกันอย่างทั่วถึงเกี่ยวกับวัคซีน เพื่อกระตุ้นให้ประชาชนออกมาฉีดวัคซีนเข็มบูสเตอร์กันมากยิ่งขึ้น

 

แผนดังกล่าวยังรวมถึงการจัดหาชุดตรวจโควิดฟรีแก่ประชาชนที่มีประกันสุขภาพ และจะมีการจัดตั้งคณะทำงานฉุกเฉินเพื่อช่วยโรงพยาบาลรับมือกับจำนวนผู้ป่วยโควิดที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วงฤดูหนาวด้วย

 

ด้านนายแพทย์แอนโธนี เฟาชี ผู้อำนวยการสถาบันโรคภูมิแพ้และโรคติดเชื้อแห่งชาติของสหรัฐและแพทย์ใหญ่ที่ปรึกษาของทำเนียบขาว เน้นย้ำความสำคัญของการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 รวมทั้งการฉีดวัคซีนเข็มบูสเตอร์ ซึ่งเชื่อว่าจะช่วยป้องกันอาการป่วยรุนแรงจากการติดเชื้อไวรัสกลายพันธุ์โอไมครอนได้

ผู้ติดเชื้อโอไมครอนโผล่!รายที่ 2  \"ไบเดน\"ลั่นคุมเข้มคนเดินทางเข้าสหรัฐ

ประวัติการพบผู้ติดเชื้อโอไมครอนในสหรัฐ

เมื่อวันพุธ (1 ธ.ค.) ทำเนียบขาวประกาศว่า พบผู้ติดเชื้อไวรัสกลายพันธุ์โอไมครอนรายแรกที่รัฐแคลิฟอร์เนีย เป็นผู้เดินทางที่กลับมาจากแอฟริกาใต้เมื่อวันที่ 22 พ.ย. และตรวจพบเชื้อเมื่อวันที่ 29 พ.ย. โดยผู้ติดเชื้อโอไมครอนรายนี้ ได้รับวัคซีนครบโดสแล้ว แต่ยังไม่ได้ฉีดเข็มบูสเตอร์ และมีอาการป่วย "เพียงเล็กน้อย"

 

เจ้าหน้าที่ระบุว่าได้ติดต่อไปยังทุกคนที่ใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อโอไมครอนรายแรกของสหรัฐรายนี้แล้ว ซึ่งทุกคนมีผลตรวจโควิดออกมาเป็นลบ

 

ต่อมาในวันที่ 2 ธ.ค. มีรายงานว่าพบผู้ติดเชื้อไวรัสสายพันธุ์โอไมครอนรายที่สองที่รัฐมินเนโซตา เป็นผู้ที่เพิ่งเดินทางกลับจากการร่วมประชุมที่นครนิวยอร์ก

 

ทั้งนี้ สหรัฐเป็นส่วนหนึ่งของ 24 ประเทศทั่วโลกที่ยืนยันพบผู้ติดเชื้อโอไมครอน ในขณะที่หลายประเทศสั่งเพิ่มมาตรการควบคุมและจำกัดผู้ที่เดินทางเข้าประเทศ นับตั้งแต่พบเชื้อไวรัสสายพันธุ์ใหม่นี้ในแอฟริกาใต้เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา