“เจ้าหญิงมาโกะ” ทรงสละฐานันดรหลังเสกสมรสเรียบง่าย-ไร้ราชพิธีกับสามัญชน

26 ต.ค. 2564 | 14:36 น.
อัปเดตล่าสุด :27 ต.ค. 2564 | 23:57 น.
6.3 k

เจ้าหญิงมาโกะ พระราชนัดดาองค์โต (หลานสาว) ของสมเด็จพระจักรพรรดินารุฮิโตะแห่งราชวงศ์ญี่ปุ่น เข้าพิธีเสกสมรสเรียบง่ายไร้ราชพิธีวันนี้ (26 ต.ค.) กับคู่หมั้นนักกฎหมาย หลังจากนี้จะทรงสละฐานันดรศักดิ์เพื่อใช้ชีวิตสามัญชนและเริ่มต้นชีวิตใหม่ในสหรัฐอเมริกา

เจ้าหญิงมาโกะ แห่ง ราชวงศ์ญี่ปุ่น ได้เข้าพิธีเสกสมรสกับ นายเคอิ โคมูโระ คู่หมั้นสามัญชนที่คบหาดูใจมาตั้งแต่สมัยเรียนในช่วงเช้าวันนี้ (26 ต.ค.) โดยเจ้าหญิงทรงสละฐานันดรศักดิ์ เพื่อเริ่มต้นใช้ชีวิตในฐานะสามัญชนภายใต้ชื่อ "มาโกะ โคมูโระ" และจะทรงย้ายไปพำนักในสหรัฐอเมริกา

 

ตามกฎหมายของญี่ปุ่นแล้ว สมาชิกราชวงศ์ที่เป็นสตรีจะต้องสละฐานันดรศักดิ์หากเสกสมรสกับสามัญชน ขณะที่สมาชิกราชวงศ์ฝ่ายชายจะไม่จำเป็นต้องสละฐานันดรศักดิ์ของตนเอง

 

เจ้าหญิงมาโกะถือเป็นสมาชิกราชวงศ์ที่เป็นสตรีพระองค์แรกที่ประกาศไม่รับเงินค่าสละฐานันดรศักดิ์จำนวน 150 ล้านเยน (45 ล้านบาท) รวมถึงยกเลิกพิธีแต่งงานตามราชประเพณีของราชวงศ์ญี่ปุ่นบางอย่าง โดยจะเน้นที่การจัดทำเอกสารให้เสร็จเรียบร้อย

เจ้าหญิงมาโกะในวันประกาศหมั้นในปี 2560

สื่อญี่ปุ่นรายงานว่า เจ้าหญิงมาโกะทรงเดินทางออกจากพระราชวังในเวลา 10.00 น. ตามเวลาท้องถิ่นในวันนี้ (26 ต.ค.) โดยเจ้าหญิงทรงโค้งคำนับเจ้าชายฟูมิฮิโตะ อากิชิโนะโนะมิยะ และ เจ้าหญิงคิโกะ ผู้เป็นพระบิดาและพระมารดาอยู่หลายครั้ง ก่อนที่จะสวมกอดเจ้าหญิงคาโกะ พระขนิษฐา ก่อนออกเดินทาง

เจ้าหญิงมาโกะและนายเคอิ มีกำหนดแถลงข่าวในช่วงบ่ายวันนี้ โดยจะมีแถลงการณ์สั้น ๆ และตอบคำถามที่คัดเลือกมาแล้ว 5 คำถาม เนื่องจากสำนักพระราชวังระบุว่า เจ้าหญิงมีอาการวิตกกังวลอย่างมากหากต้องตอบคำถามสด เนื่องจากเผชิญกับแรงกดดันจากสถานการณ์ต่าง ๆ รวมถึงข่าวในเชิงลบก่อนที่จะเข้าพิธีสมรสในวันนี้

 

แหล่งข่าวระบุว่า หลังแต่งงานแล้วทั้งสองจะย้ายไปใช้ชีวิตในสหรัฐอเมริกา เนื่องจากนายเคอิทำงานเป็นทนายความอยู่ที่นั่น

 

ชีวิตจริงไม่เหมือนเทพนิยาย 

ทั้งนี้ เจ้าหญิงมาโกะ พระธิดาของเจ้าชายอากิชิโนะ ทรงเป็นพระราชนัดดาองค์โต (หลานสาว) ของสมเด็จพระจักรพรรดินารุฮิโตะแห่งราชวงศ์ญี่ปุ่น ทรงประกาศหมั้นกับนายเคอิ โคมูโระ (Kei Komuro) ชายหนุ่มวัยเดียวกัน (30 ปี) ตั้งแต่ พ.ศ. 2560 หลังจากพบรักกันขณะที่ทั้งคู่ศึกษาที่มหาวิทยาลัย International Christian ในกรุงโตเกียว แต่หลังจากที่ประกาศหมั้นกันได้ไม่นาน ก็ปรากฏข่าวว่า มารดาของฝ่ายชาย ติดหนี้อดีตคู่หมั้น 4 ล้านเยน (กว่า 1 ล้าน 1 แสนบาท) จนลูกชายต้องเคลียร์หนี้ให้แม่

โคมูโระเดินทางจากสหรัฐกลับญีปุ่นเพื่อเข้าพิธีเสกสมรส

เรื่องนี้ก็กลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในสังคม ส่งผลให้เจ้าหญิงมาโกะ และพระคู่หมั้น ไม่สามารถจัดงานพิธีตามแบบประเพณีวังหลวงได้ นอกจากนี้ กระแสสังคมและการขุดคุ้ยของสื่อยังทำร้ายจิตใจเจ้าหญิงมาโกะ จนสำนักพระราชวังออกแถลงการณ์ว่า เจ้าหญิงมาโกะ ทรงมีสภาวะป่วยทางจิตใจหลังจากต้องเผชิญกับเหตุการณ์กระทบกระเทือนใจอย่างรุนแรง อย่างไรก็ตาม เจ้าหญิงมาโกะทรงตัดสินใจเด็ดเดี่ยวที่จะแต่งงานกับนายโคมูโระ คู่หมั้นสามัญชน และพระองค์ไม่ขอรับเงินขวัญถุง 152.5 ล้านเยน หรือราว 44 ล้านบาทจากพระราชวังหลวงด้วย ถือเป็นราชนิกูลหญิงพระองค์แรกในราชวงศ์ญี่ปุ่นที่ปฏิเสธไม่รับเงินดังกล่าว

เจ้าหญิงพร้อมแล้วที่จะเริ่มต้นชีวิตใหม่ในฐานะ "นางมาโกะ โคมูโระ"

หลังการแต่งงาน เจ้าหญิงมาโกะซึ่งสละฐานันดรศักดิ์แล้ว จะได้สร้างครอบครัวเล็ก ๆ อย่างที่ตั้งใจไว้ โดยจะเดินทางไปตั้งรกรากที่สหรัฐอเมริกา เนื่องจากนายโคมูโระได้งานทำที่สำนักงานทนายความในแมนฮัตตัน นิวยอร์ก และเมื่อเป็นสามัญชน “นางมาโกะ โคมูโระ” ก็จะไม่ได้รับการคุ้มกันอารักขาจากกองราชองครักษ์อีกต่อไป