จับตา “โจ ไบเดน” ขึ้นเวทีอาเซียนซัมมิตคานอำนาจจีน

26 ต.ค. 2564 | 06:50 น.
อัปเดตล่าสุด :26 ต.ค. 2564 | 14:01 น.
625

ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐอเมริกา จะเข้าร่วมการประชุม “อาเซียนซัมมิต” ผ่านระบบการประชุมทางไกลในปีนี้ หวังคานอำนาจจีน หลังจากที่ในยุคของประธานาธิบดีทรัมป์ สหรัฐเมินการประชุมกับผู้นำอาเซียนถึง 3 ปีติดต่อกัน

สถานเอกอัครราชทูตสหรัฐประจำกรุงบันดาร์เสรีเบกาวัน บรูไนดารุสซาลาม เปิดเผยว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐอเมริกา จะเข้าร่วม การประชุมสุดยอดของสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) ผ่านระบบการประชุมทางไกลในวันอังคารนี้ (26 ตุลาคม)

 

การเข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียนของประธานาธิบดีไบเดนเป็นการส่งสัญญาณว่าสหรัฐยังคงต้องการมีบทบาทในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก หลังจากที่อดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ได้ปฏิเสธการเข้าร่วมการประชุมดังกล่าวถึง 3 ปีติดต่อกัน จนทำให้จีนสามารถแผ่อิทธิพลในภูมิภาคดังกล่าว

ประธานาธิบดีโจ ไบเดน

ทั้งนี้ การประชุมสุดยอดอาเซียน-สหรัฐจะมีขึ้นในวันที่ 26 ตุลาคม เวลา 20.00 น.ตามเวลาไทย

ด้านนายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีกำหนดการเข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 38 และ 39 และการประชุมสุดยอดที่เกี่ยวข้อง ผ่านระบบการประชุมทางไกล ระหว่างวันที่ 26-28 ตุลาคม 2564 ณ ตึกภักดีบดินทร์ ทำเนียบรัฐบาล

 

การประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 38 และ 39 และการประชุมสุดยอดที่เกี่ยวข้อง ถือเป็นบทสรุปของการดำรงตำแหน่งประธานอาเซียนของบรูไนดารุสซาลาม ภายใต้แนวคิดหลัก "เราห่วงใย เราเตรียมพร้อม เรารุ่งเรือง" (We care, We prepare, We prosper) ซึ่งถือว่าเป็นปีที่มีความท้าทายในทุกมิติทั้งจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ความผันผวนทางภูมิรัฐศาสตร์ และสถานการณ์ในภูมิภาค โดยเฉพาะสถานการณ์ในเมียนมา

"เราห่วงใย เราเตรียมพร้อม เรารุ่งเรือง"

สมเด็จพระราชาธิบดีแห่งบรูไนฯ จะทรงเป็นองค์ประธานการประชุมสุดยอดทั้งหมด โดยมีผู้นำหรือผู้แทนของประเทศสมาชิกอาเซียน เลขาธิการอาเซียน ตลอดจนผู้นำของคู่เจรจาเข้าร่วมการประชุมสุดยอดที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ จีน สาธารณรัฐเกาหลี ญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย อินเดีย รัสเซีย และนิวซีแลนด์

 

นอกจากนี้ ผู้อำนวยการใหญ่องค์การอนามัยโลก (WHO) และองค์การการค้าโลก (WTO)ได้รับเชิญให้เข้าร่วมการประชุมสุดยอดเอเชียตะวันออก ครั้งที่ 16 ในช่วงเริ่มต้นการประชุมเพื่อบรรยายสรุปเกี่ยวกับการบรรเทาผลกระทบของโควิด-19 และการสร้างเสริมความร่วมมือเพื่อรับมือกับภาวะวิกฤตในอนาคต

 

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีจะเข้าร่วมการประชุมในกรอบอาเซียนทั้งหมดจำนวน 12 การประชุม ตามเวลาประเทศไทย ดังนี้

วันอังคารที่ 26 ตุลาคม 2564

08.00 น.  การประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 38

10.00 น.  การประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 39

12.30 น.  การประชุมสุดยอดอาเซียน-สาธารณรัฐเกาหลี ครั้งที่ 22

14.00 น.  การประชุมสุดยอดอาเซียน-จีน ครั้งที่ 24

20.00 น.  การประชุมสุดยอดอาเซียน-สหรัฐ ครั้งที่ 9

 

วันพุธที่ 27 ตุลาคม 2564

09.30 น.  การประชุมสุดยอดอาเซียน-ญี่ปุ่น ครั้งที่ 24

11.30 น.  การประชุมสุดยอดอาเซียน-ออสเตรเลีย ครั้งที่ 1

14.00 น.  การประชุมสุดยอดอาเซียนบวกสาม ครั้งที่ 24

18.00 น.  การประชุมสุดยอดเอเชียตะวันออก ครั้งที่ 16

 

วันพฤหัสบดีที่ 28 ตุลาคม 2564

10.15 น.  การประชุมระดับผู้นำแผนงานการพัฒนาเขตเศรษฐกิจ สามฝ่ายอินโดนีเซีย-มาเลเซีย-ไทย (IMT-GT) ครั้งที่ 13

12.30 น.  การประชุมสุดยอดอาเซียน-อินเดีย ครั้งที่ 18

14.00 น.  การประชุมสุดยอดอาเซียน-รัสเซีย ครั้งที่ 4

15.30 น.  พิธีปิดและส่งมอบตำแหน่งประธานอาเซียน

 

โดย นายกรัฐมนตรีจะหยิบยกประเด็นสำคัญที่จะผลักดัน อาทิ

  • การรับมือกับการแพร่ระบาดและผลกระทบของโควิด-19 ซึ่งถือเป็นประเด็นหลักในการหารือของทุกกรอบการประชุม โดยไทยสนับสนุนความร่วมมือในกรอบอาเซียนและระหว่างอาเซียนกับคู่เจรจาเพื่อรับมือการแพร่ระบาดและผลกระทบทางเศรษฐกิจและสังคมของโควิด-19 อย่างรอบด้าน
  • การฟื้นฟูและสร้างอนาคตที่ยั่งยืนควบคู่ไปกับการใช้โมเดลเศรษฐกิจ BCG เพื่อสร้างความสมดุลของสรรพสิ่งในการฟื้นฟูและพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมในยุค "Next Normal"
  • และการรักษาสันติภาพและความมั่นคงในภูมิภาค เพื่อรับมือกับสภาพภูมิรัฐศาสตร์ที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว

 

ในปี 2565 กัมพูชาจะรับไม้ต่อในการเป็นประธานอาเซียน และในโอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีจะร่วมรับรองเอกสารผลลัพธ์ในการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 38 และครั้งที่ 39 และการประชุมสุดยอดที่เกี่ยวข้องทั้งสิ้น 25 ฉบับ