CDC เผยวัคซีนไฟเซอร์ป้องกันเด็กป่วยโควิดเข้า รพ.ได้ถึง 93%

20 ต.ค. 2564 | 11:10 น.
อัปเดตล่าสุด :20 ต.ค. 2564 | 18:27 น.

CDC เผยวัคซีนไฟเซอร์ป้องกันเด็กป่วยโควิดกลุ่มวัย 12-18 ปี ไม่ให้อาการหนักถึงขั้นต้องเข้าโรงพยาบาลได้ถึง 93%

ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐ (CDC) ระบุว่า ผลการศึกษาพบ วัคซีนต้านโควิด-19 ของ บริษัทไฟเซอร์ มีประสิทธิภาพ 93% ในการป้องกันไม่ให้ ผู้ป่วยโควิด-19 ซึ่งเป็นเด็กวัย 12-18 ปี ต้องเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาล

 

CDC เปิดเผยวานนี้ (19 ต.ค.) ว่า ผลการศึกษาดังกล่าวมาจากการติดตามอาการของผู้ป่วยโควิด-19 ซึ่งเป็นเด็กวัย 12-18 ปี จำนวน 464 คน ซึ่งเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลเด็ก 19 แห่งทั่วสหรัฐในช่วงเดือนมิ.ย.-ก.ย.2564 ซึ่งขณะนั้นมีการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลตา โดยพบว่าผู้ป่วยจำนวน 97% ไม่ได้รับการฉีดวัคซีนโควิด-19 ขณะที่จำนวน 72% มีปัจจัยเสี่ยงที่จะทำให้อาการของโรครุนแรงขึ้น

 

"ข้อมูลเหล่านี้บ่งชี้ว่า การเพิ่มอัตราการฉีดวัคซีนในกลุ่มผู้ป่วยนี้จะช่วยลดจำนวนผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรงในสหรัฐลงได้" รายงานระบุ


CDC เผยวัคซีนไฟเซอร์ป้องกันเด็กป่วยโควิดเข้า รพ.ได้ถึง 93%

นอกจากนี้ ผลการศึกษาดังกล่าวยังสอดคล้องกับรายงานในอิสราเอลที่พบว่า วัคซีนไฟเซอร์มีประสิทธิภาพ 92% ในการป้องกันไม่ให้ผู้ป่วยโควิด-19 ซึ่งเป็นเด็กวัย 12-15 ปี ต้องเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาล

       

ขณะนี้ บริษัทไฟเซอร์กำลังรอการอนุมัติจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาสหรัฐ (FDA) ในการฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 ให้แก่เด็กที่มีอายุ 5-11 ปี ขณะเดียวกันในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ไฟเซอร์ได้ยื่นเอกสารต่ออียู ขออนุมัติการใช้วัคซีนป้องกันโควิด-19 กับเด็กอายุ 5-11 ปีในสหภาพยุโรป (อียู)ด้วย หลังประสบความสำเร็จได้รับการอนุมัติจาก FDA สหรัฐให้ใช้วัคซีนไฟเซอร์เป็นกรณีฉุกเฉินในกลุ่มเด็กวัย 12-15 ปีเรียบร้อยแล้ว