โควิดคร่าชีวิต"โคลิน พาวเวลล์" อดีตรมว.ต่างประเทศสหรัฐในวัย 84 ปี  

18 ต.ค. 2564 | 20:56 น.
อัปเดตล่าสุด :19 ต.ค. 2564 | 04:11 น.
1.8 k

ดาวดับลับฟ้าอีกดวงเพราะโควิด “โคลิน พาวเวลล์" นายพล 4 ดาว อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศ และชาวอเมริกันผิวสีคนแรกที่ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐภายใต้รัฐบาลของประธานาธิบดีโรนัลด์ เรแกน เสียชีวิตอย่างสงบในวัย 84 ปีจากอาการแทรกซ้อนหลังการติดเชื้อโควิด-19

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า พลเอกโคลิน พาวเวลล์ อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ ได้เสียชีวิตแล้วด้วยวัย 84 ปี จากอาการแทรกซ้อนหลังการติดเชื้อโควิด-19 โดยก่อนหน้านี้ เขาป่วยเป็นมะเร็งในเม็ดเลือดขาวอยู่แล้ว ทำให้ร่างกายขาดภูมิต้านทานต่อการติดเชื้อจากภายนอก

 

พลเอกพาวเวลล์ถือเป็นชาวผิวสีคนแรกที่ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐภายใต้รัฐบาลของประธานาธิบดีโรนัลด์ เรแกน และเป็นชาวผิวสีคนแรกที่ดำรงตำแหน่งประธานคณะเสนาธิการร่วมของสหรัฐภายใต้รัฐบาลของประธานาธิบดีจอร์จ เอช ดับเบิลยู บุช

 

พลเอกพาวเวลล์มีบทบาทสำคัญในการนำพากองทัพสหรัฐเข้าสู่สงครามอ่าวเปอร์เซียในปี 2533-34 และได้เกษียณอายุในฐานะนายพล 4 ดาว หลังจากรับใช้กองทัพสหรัฐเป็นเวลา 35 ปี

ครอบครัวของพลเอกพาวเวลล์ได้โพสต์ลงในเฟสบุ๊ควันนี้ (18 ต.ค. เวลาท้องถิ่นสหรัฐ) ว่า พลเอกพาวเวลล์ถึงแก่กรรมจากอาการโควิด-19 พร้อมระบุว่า เขาเป็นผู้หนึ่งที่ได้รับวัคซีนป้องกันโควิด-19 ครบโดสแล้ว

 

"เราสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รัก ซึ่งเป็นทั้งสามี บิดา คุณปู่ คุณตา และเป็นชาวอเมริกันที่ยิ่งใหญ่" แถลงการณ์ของครอบครัวระบุ

 

ทั้งนี้ พลเอกโคลิน พาวเวลล์ คือรัฐมนตรีต่างประเทศผิวสีคนแรกของสหรัฐอเมริกาในสมัยของอดีตประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู บุช ระหว่างปี ค.ศ. 2001 - 2005 ซึ่งนโยบายต่างประเทศของสหรัฐในช่วงเวลานั้นได้นำไปสู่การปรับเปลี่ยนแนวทางด้านการต่างประเทศหลายประการจวบจนปัจจุบัน

โควิดคร่าชีวิต\"โคลิน พาวเวลล์\" อดีตรมว.ต่างประเทศสหรัฐในวัย 84 ปี  

พลเอกพาวเวลล์ เข้าร่วมรบในสงครามเวียดนาม และได้กลายมาเป็นที่ปรึกษาของประธานาธิบดีโรนัลด์ เรแกน ในเวลาต่อมา ก่อนที่จะดำรงตำแหน่งประธานผู้บัญชาการเหล่าทัพร่วมในสมัยของประธานาธิบดีจอร์จ บุช

 

เขาได้รับความนิยมในหมู่ประชาชนอเมริกันมากขึ้นหลังจากเป็นผู้นำกองทัพสหรัฐในสงครามอ่าวเปอร์เซีย และเคยได้รับการคาดหมายว่าจะเป็นประธานาธิบดีผิวสีคนแรกของสหรัฐอเมริกา

 

อย่างไรก็ตาม ชื่อเสียงของพลเอกพาวเวลล์มัวหมองลงไปในช่วงที่ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีต่างประเทศในสมัยประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู บุช ซึ่งเขาผลักดันให้สหรัฐส่งทหารเข้าไปในอิรักภายใต้ข่าวกรองที่ได้รับการพิสูจน์ในเวลาต่อมาว่า “ผิดพลาด” ซึ่งพลเอกพาวเวลล์กล่าวในเวลาต่อมาว่า เหตุการณ์ครั้งนั้นเป็น "จุดด่างพร้อย" ในประวัติการทำงานของเขา